ไม่มีที่ดินอ.หล่มเก่า! ผู้ว่าฯโคราช ยันอนุมัติทำถ.คอนกรีตสมัยอยู่เพชรบูรณ์ โปร่งใส
ผู้ว่าฯโคราช แจง 'อิศรา' ยันทำอนุมัติทำโครงการถนนคอนกรีต สมัยอยู่เพชรบูรณ์ โปร่งใส่ ทำตามระเบียบราชการ เผยเป็นผู้สั่งตรวจสอบสถานะพื้นที่ ห้ามลงนามสัญญาจ้าง 'ผู้รับเหมา' ก่อนได้รับอนุญาตให้เริ่มดำเนินงานด้วย -ข้องใจเรื่องผ่านมาเป็นปี งานใกล้จะเสร็จทำไม 'ป่าไม้'เพิ่งทักท้วง ลั่นไม่มีที่ดินบริเวณก่อสร้างไร้ผลประโยชน์ทับซ้อน ระบุมีคนจ้องเล่นงานทำลายชื่อเสียง
จากกรณี นายวิเชียร จันทรโณทัย อดีตผู้ว่าราชการ จ.เพชรบูรณ์ (ปัจจุบันเป็นผู้ว่าราชการ จ.นครราชสีมา) นายสอาด สิงห์งาม อดีตนายอำเภอหล่มเก่า และบริษัท อาณาจักรสถาปัตย์ จำกัด โดยนายไพโรจน์ มะนาวหวาน ผู้มีอำนาจลงนามผูกพันนิติบุคคล ถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้ จ.เพชรบูรณ์ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ต่อเจ้าพนักงานสอบสวน สภ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ให้ดำเนินคดี ในข้อหาร่วมกันอนุมัติและดำเนินโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก ในพื้นที่ ต.วังบาล อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ เขตพื้นที่ป่าไม้ลุ่มน้ำชั้น 1A ทั้งที่ กรมป่าไม้ ยังไม่ได้มีการอนุญาต นั้น
(อ่านประกอบ : ชัดๆ ข้อกล่าวหา "ผู้ว่าฯโคราช"ทำถนนในเขตป่าไม่ขออนุญาต สมัยอยู่ "เพชรบูรณ์")
ล่าสุด นายวิเชียร จันทรโณทัย ให้สัมภาษณ์ชี้แจงสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ตนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการอนุมัติการดำเนินงานโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก ในพื้นที่ ต.วังบาล อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ จริง แต่ยืนยันว่าการดำเนินการทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนระเบียบราชการ โปร่งใส ไม่มีเจตนาที่จะไม่ปฏิบัติตามกฎหมายแต่อย่างใด
นายวิเชียร กล่าวชี้แจงว่า ถนนที่ทำโครงการเป็นถนนเดิมที่มีอยู่แล้ว ไม่มีการตัดถนนใหม่เพิ่ม มีเพียงแค่เข้าไปปรับปรุงให้ดีขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้ ในขั้นตอนการดำเนินงาน ภายหลังจากที่จังหวัดได้อนุมัติงบประมาณโครงการนี้ไปแล้ว ตนได้สั่งการให้มีการตรวจสอบสถานะของพื้นที่ว่าเป็นอย่างไร ก็ได้รับรายงานว่า ในพื้นที่โครงการ 3150 เมตร แบ่งออกเป็นพื้นที่สาธารณะ 2,471 เมตร และพื้นที่ในเขตอุทยานจำนวน 680 เมตร ซึ่งในส่วนของพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาตินั้น ได้สั่งไปว่า แม้ในขั้นตอนการประกวดราคาจะได้ตัวผู้ว่าจ้างแล้ว แต่ยังไม่ต้องลงนาม ให้รอจนกว่าจะได้รับการอนุญาตจากทางอุทยาน ถึงจะเริ่มดำเนินการได้
"พื้นที่จำนวน 680 เมตร ในเขตอุทยานแห่งชาติ ผมได้สั่งการไปชัดเจนว่า จะต้องได้รับการอนุญาตจากหน่วยงานที่ดูแลพื้นที่นี้ ก่อนถึงจะสามารถเข้าไปดำเนินการได้ ซึ่งก็ได้รับแจ้งว่า มีการทำเรื่องขออนุญาตไปแล้ว แต่ในช่วงนั้นผมถูกโยกย้ายมาเป็นผู้ว่าฯ โคราชก่อน และหลังจากนั้นก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไรกับโครงการนี้อีก จนกระทั่งเพิ่งมาทราบข่าวว่า ถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้แจ้งความดำเนินคดีตามที่เป็นข่าว ส่วนกรณีที่สตง.ตรวจสอบพบว่ามีปัญหาการทำงานนั้น ผมไม่ทราบ เพราะไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องในขั้นตอนการทำงานด้วย"
นายวิเชียร ยังกล่าวย้ำว่า "ตอนนี้ ก็ยังประหลาดใจอยู่เหมือนกัน ว่า ทำไมถึงมีปัญหานี้เกิดขึ้น เพราะข้อมูลที่เจ้าหน้าที่รายงานมาตอนนั้น คือ มีพื้นที่ในเขตอุทยานแค่ 680 เมตร แต่ป่าไม้ ระบุว่า พื้นที่ทั้ง 3150 เมตร เป็นของป่าไม้ทั้งหมด และที่สำคัญถ้าพื้นที่มันมีปัญหาจริง ทำไมป่าไม้ถึงปล่อยเรื่องมานานเป็นปี ทำไมไม่ออกมาคัดค้านแต่แรก แต่ขณะนี้ทำงานใกล้จะเสร็จแล้ว ถึงมาบอกว่าพื้นที่นี้มีปัญหา ยังไม่ได้ขออนุญาต"
เมื่อถามว่า คนในพื้นที่ตั้งข้อสังเกตว่า เหตุที่มีการเข้าไปปรับปรุงถนนใหม่ เป็นถนนคอนกรีต เพราะมีที่ดินครอบครองอยู่ในบริเวณนั้นด้วย นายวิเชียร กล่าวว่า "ผมไม่ทราบว่าใครจะมีที่ดินอยู่ตรงไหนบ้าง แต่ของผมไม่มี และหลังจากที่ย้ายจากจังหวัดเพรชบูรณ์ มาแล้ว ผมก็ไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไรในพื้นที่เลย ใครที่สงสัยสามารถไปตรวจสอบได้เลย และถ้าหากใครไปเจอว่ามีที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างอะไรของผมอยู่ สามารถเขาไปรื้อถอนได้ทันทีเลย"
นายวิเชียร ยังระบุด้วยว่า "ผมไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ให้ข้อมูลที่จ้องทำลายชื่อเสียงผม แต่ผมยืนยันว่า ที่ผ่านมาทำงานตามหน้าที่ข้าราชการ ไม่มีผลประโยชน์อะไรแอบแฝง ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องคดีที่ถูกป่าไม้แจ้งความ ผมพร้อมจะชี้แจงข้อมูลทั้งหมด เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเอง และในข้อเท็จจริงถ้าผมยังเป็นผู้ว่าฯ เพชรบูรณ์อยู่ ผมจะเสนอให้มีการยกเลิกโครงการนี้ทันที เพื่อไม่ให้มีปัญหาในทางปฏิบัติ และพร้อมที่จะรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเรื่องนี้ด้วย ซึ่งตอนนี้กำลังรวบรวมข้อมูลเอกสารหลักฐานเพื่อต่อสู้คดี เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง"
หมายเหตุ : ภาพประกอบข่าวจาก thainews.prd.go.th