"ครม.ส่วนหน้า" ไม่ได้ตอบโจทย์ในพื้นที่

อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์  (อับดุลสุโก ดินอะ) กรรมการสภาประชาสังคมชายแดนใต้ และผู้ช่วยผู้จัดการโรงเรียนจริยธรรมศึกษามูลนิธิ อ.จะนะ จ.สงขลา เขียนบทความวิจารณ์ "ครม.ส่วนหน้า" ส่งมายัง "ศูนย์ข่าวอิศรา" 

          บทความของอาจารย์อับดุลสุโก ระบุตอนหนึ่งว่า รายชื่อ ครม.ส่วนหน้าทั้งหมดเป็นทหารถึง 9 คน ตำรวจ 1 คน พลเรือน 3 คน เคยทำงานในพื้นที่ 2 คน ซึ่งในอดีตก็ทำงานสำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้าง นายภาณุ อุทัยรัตน์ อดีตเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) นั้น คนในพื้นที่ทราบผลงานเป็นอย่างดีว่าเป็นอย่างไร

          ที่สำคัญ “ครม.ส่วนหน้า” ชุดนี้ไม่มีมุสลิมซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ในพื้นที่เลยแม้แต่คนเดียว ทั้งๆ ที่ควรมีเพื่อคอยถ่วงดุล ให้ข้อคิดเห็นด้านต่างๆ นี่คือข้อกังขาของคนพื้นที่  

          ขณะเดียวกัน ถ้าได้ติดตามโครงสร้างการปกครองปาตานี หรือชายแดนใต้ตลอดร้อยปีมานี้ จะพบว่าโครงสร้าง ครม.ส่วนหน้า ย้อนยุคมากๆ ไม่สอดคล้องกับความต้องการคนในพื้นที่ ไม่ตรงกับงานวิจัยภาคสนามนับร้อยชิ้น หรือแม้แต่ข้อเสนอ 7 ข้อของหะยีสุหลง ผู้นำจิตวิญญาณที่ถูกอุ้มหายสาบสูญไปตั้งแต่ก่อนปี 2500

          ครม.ส่วนหน้า ดูชื่อแล้วเน้นแต่งานความมั่นคงมากกว่างานพัฒนา คงต้องอดทนรอดูผลงานต่อไปว่าจะคุ้มกับงบประมาณที่เทลงมาหรือไม่ และจะทำงานซ้ำซ้อนกับหน่วยงานเดิมหรือเปล่า โดยเฉพาะการทำให้เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติทำงานยากขึ้น

          ทั้งๆ ที่สิ่งที่ ครม.ส่วนหน้า ประกาศว่าจะทำ ก็เป็นงานตามกรอบยุทธศาสตร์เดิมที่ไม่แตกต่างจากอดีต ปัญหาของชายแดนใต้วันนี้อยู่ที่การนำแผนยุทธศาสตร์ไปสู่การปฏิบัติอย่างจริงใจและจริงจังมากกว่า

          ส่วนงบประมาณที่ลงมามากมายในพื้นที่ ผู้ได้รับสัมปทานเป็นใคร คนพื้นที่ทราบดี ผลผลิตของโครงการที่ได้รับมีคุณภาพหรือขาดคุณภาพ หรือได้รับไม่ครบ คนพื้นที่ก็ทราบ แต่กลับไม่มีการแก้ไขปัญหา ทั้งๆ ที่ล้วนเป็นผลประโยชน์ทับซ้อนไม่ต่างจากกรณีที่เกิดขึ้นในกองทัพภาคที่ 3 ที่โยงครอบครัวของอดีตแม่ทัพอย่าง พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา

          สรุปอย่างรวบรัดได้เลยว่า ถ้าปัจจัยปัญหาเหล่านี้ยังคงอยู่ ปัญหาปาตานีหรือชายแดนใต้ก็ยากที่จะแก้ไขได้ โดยเฉพาะถ้าไม่สามาถดึงพลังจากภายในหรือคนในมาร่วมกันบริหารจัดการ

          สุดท้ายขอเสนอว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะให้ภาคประชาสังคมในพื้นที่และสื่อมวลชนร่วมกันประเมินผลงาน “ครม.ส่วนหน้า” เพื่อเป็นกระจกส่องการทำงาน และปรับปรุงวิธีการทำงานได้อย่างทันท่วงที

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

บรรยายภาพ : การประชุม ครม.ส่วนหน้า นัดแรกที่กระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 8 ต.ค.59