ศาลฎีกาฯ ฟัน 7 นักการเมืองท้องถิ่น‘ไม่ยื่นบัญชีฯ-ซุกหนี้’3 แสน-4 คนพ้นตำแหน่งทันที
คำพิพากษาทางการ! ศาลฎีกาฯ ฟัน 7 นักการเมืองท้องถิ่น คดีจงใจไม่ยื่นบัญชีฯ - นายก อบต.จ.หนองคาย ซุกหนี้ 3 แสน จำคุก 1-4 เดือน รอลงโทษรวด นายากฯ จ.ราชบุรี หนองคาย โคราช สุพรรณฯ กาญจนบุรี นครสวรรค์ 4 คนพ้นตำแหน่งทันที
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2559 สำนักงานศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เผยแพร่คำพิพากษา คดีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจงใจไม่ยื่น บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ผู้ร้อง ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด จำนวน 6 ราย และ จงใจยื่นบัญชแสดงรายทรัพย์สินพร้อมเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ 1 ราย รวม 7 คดี ศาลฎีกาฯพิพากษาให้ผู้คัดค้านมีความผิดทั้งหมดในจำนวนนี้ 4 คน ต้องพ้นจากตำแหน่งทันที รายละเอียดดังนี้
1.นางศมานันท์ เหล่าวณิชวิศิษฎ นายกเทศมนตรีเมืองราชบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ภายในระยะเวลากำหนด กรณีเข้ารับตำแหน่งนายกเทศมนตรีครั้งที่ 2 วันที่ 27 ต.ค.2553 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32 และ 33
ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 26 ก.ย.2557 อันเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นตำแหน่งครั้งที่ 2 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 34 วรรคสอง
ให้ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองราชบุรีที่ดำรงอยู่ปัจจุบันในวันที่ 28 เม.ย.2559 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาฯมีคำวินิจฉัย
กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 องค์คณะผู้พิพากษามีมติเสียงข้างมากว่าให้จำคุก 2 เดือน และปรับ 10,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับการสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือน ปรับ 5,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 (คดีหมายเลขแดงที่ อม 27/2559-28 เม.ย.2559)
2.นายจิรโรจน์ บวรฐิติไพศาล นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) สังคม อ.สังคม จ.หนองคาย จงใจยื่นบัญชแสดงรายทรัพย์สินพร้อมเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ (จงใจไม่แสดงรายการหนี้สิน 300,000 บาท) กรณีเข้ารับตำแหน่งนายก อบต.สังคม
ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32 และ มาตรา 33 นับแต่วันที่ 30 ส.ค.2555 อันเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 34 วรรคสอง
กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 ลงโทษจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับการสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 (คดีหมายเลขแดงที่ อม 28/2559- 17 พ.ค. 2559)
3.นางวัลลภา ใจดี เลขานุการนายกเทศมนตรีตำบลพิมาย อ.พิมาย จ.นครราชสีมา จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ภายในระยะเวลากำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งและพ้นจากตำแหน่งมาแล้ว 1 ปี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32 และ 33
ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 9 มี.ค.2555 อันเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 34 วรรคสอง
กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้คัดค้านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทงเป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับการสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 (คดีหมายเลขแดงที่ อม 29/2559- 17 พ.ค. 2559)
4.นายไพฑูรย์ ไพบูลย์ผล ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีตำบลอู่ทอง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ภายในระยะเวลากำหนด กรณีเข้ารับ ตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32 และ 33 ให้ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษานายกเทศมนตรีตำบลอู่ทอง ในวันที่ 17 พ.ค.2559 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาฯ มีคำวินิจฉัย
ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 17 พ.ค.2559 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 34 วรรคหนึ่ง
กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 ลงโทษจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับการสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 (คดีหมายเลขแดงที่ อม 30/2559- 17 พ.ค. 2559)
5.นายพงศ์พันธุ์ หิรัญรัตน์ รองนายกเทศมนตรีตำบลอู่ทอง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ภายในระยะเวลากำหนด กรณีเข้ารับตำแหน่ง พ้นตำแหน่ง และพ้นตำแหนงมาแล้วเป็นเวลา 1 ปี ในตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลอู่ทอง ครั้งที่ 1 และ กรณีเข้ารับตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีครั้งที่ 2 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32 และ 33
ให้ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษานายกเทศมนตรีตำบลอู่ทอง ในวันที่ 17 พ.ค.2559 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาฯมีคำวินิจฉัย และ ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 17 พ.ค.2559 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 34 วรรคหนึ่ง
กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้คัดค้านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 4 กระทง เป็นจำคุก 8 เดือน และปรับ 32,000 บาท
ผู้คัดค้านให้การรับการสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 4 เดือน ปรับ 16,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 5 (คดีหมายเลขแดงที่ อม 31/2559- 17 พ.ค. 2559)
6.นายจิระนันท์ ตัณฑะเตมีย์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) พังตรุ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ภายในระยะเวลากำหนด กรณี พ้นตำแหน่ง และพ้นตำแหนงมาแล้วเป็นเวลา 1 ปี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32 และ 33
ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 1 ก.ย.2554 อันเป็นที่ผู้คัดค้านพ้นตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 34 วรรคสอง
กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้คัดค้านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท
ผู้คัดค้านให้การรับการสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 (คดีหมายเลขแดงที่ อม 32/2559- 17 พ.ค. 2559)
7.นายศุภกร หรือ สถาพร สีสุหร่าย รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) สำโรงชัย อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ภายในระยะเวลากำหนด กรณี พ้นตำแหน่ง และพ้นตำแหนงมาแล้วเป็นเวลา 1 ปี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32 และ 33 ในการดำรงตำแหน่งครั้งที่ 1 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32 และ 33
ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 1 ต.ค. 2554 ซึ่งเป็นที่ผู้คัดค้านพ้นตำแหน่งครั้งที่ 1 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 34 วรรคสอง
ให้ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งรองนายก อบต.สำโรงชัยซึ่งผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งอยู่ ในวันที่ 21 มิ.ย.2559 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาฯมีคำวินิจฉัย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 34 วรรคหนึ่ง
กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้คัดค้านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท
ผู้คัดค้านให้การรับการสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 (คดีหมายเลขแดงที่ อม 71/2559- 21 มิ.ย. 2559)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางศมานันท์ เหล่าวณิชวิศิษฎ นายกเทศมนตรีเมืองราชบุรี ถูกหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่ง ที่ 43/2559 เรื่อง ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบเพิ่มเติม ครั้งที่ 4 เมื่อ 21 ก.ค.2559 (อ่านประกอบ : มาช้าหรือมั่ว? ม.44 พักงาน‘นายกราชบุรี’ หลังศาลฎีกาฯฟันซุกบัญชีฯ 2 เดือนก่อน)
อ่านประกอบ :
ไม่ยื่นบัญชีฯ 10 ครั้ง! เลขาฯนายก อบจ.นครปฐม ศาลฎีกาจำคุก 2 เดือน-รอลงโทษ 1 ปี
ศาลฎีกาฯฟัน ผช.เลขาฯผู้ว่ากทม.-รองนายก อบจ.สมุทรสงคราม จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ
ศาลฎีกาฯโชว์คิวนัด27 นักการเมืองท้องถิ่นไม่ยื่นบัญชีฯ-พ่วงคดี‘เกษม’ รวยผิดปกติ
ป.ป.ช.เชือด16 ผู้บริหาร-นักการเมืองท้องถิ่น 11 จว.จงใจไม่ยื่นทรัพย์สิน
ศาลฎีกาฯโชว์ชื่อ22 นักการเมืองท้องถิ่นไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน-พ่วง อดีต ส.ส.ลำปาง
ศาลฎีกาฯกำหนดคิวไต่สวน‘สมศักดิ์’คดีรวยผิดปกติ-บ้าน 16 ล. 4 นัดรวด
ขานชื่อ4 นักการเมืองท้องถิ่น ‘ติดคุกจริง’ คดีจงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน
เปิดชื่อ7 นักการเมืองท้องถิ่น 6 จ. ล่าสุด ไม่ยื่นบัญชีฯ ศาลฎีกาฯจำคุก-รอลงโทษรวด
ไม่รอด!ศาลฎีกาฯสั่งจำคุก10 เดือน‘เมธาวี’ อดีตบอร์ด ททท. จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ 5 ครั้ง
คำพิพากษาฉบับเต็ม! รองนายก อบจ.ระนอง ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน ติดคุกจริง2 เดือน
ศาลฎีกาฯโชว์รายชื่อ15 นักการเมืองท้องถิ่นไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน-ลุ้นผล 16 คน
ป.ป.ช.เชือดอดีต ส.ส.‘เกษม’คนสนิท‘เจ๊แดง’ซุกทรัพย์สิน-รวยผิดปกติ 186 ล.
หจก.รับเหมา‘แม่อดีต ส.ส.’เจ้าของเงินกู้เท็จ 72 ล. ป.ป.ช.! ที่แท้‘เกษม’จองชื่อ-ถือหุ้น