'พงษ์ภาณุ' เล็งวางระบบประกันภัยคุ้มครองนักท่องเที่ยว ดีเดย์ 1 ม.ค.60
ปลัดก.ท่องเที่ยวฯ เปิดตัว "โครงการประชาสัมพันธ์และเตือนภัยด้านการท่องเที่ยว” ชี้ความปลอดภัยต้องเป็นหนึ่ง เล็งเพิ่มระบบประกันภัยคุ้มครองนักท่องเที่ยว เพิ่มกำลังพลตำรวจท่องเที่ยว ศูนย์ความช่วยเหลือ เรือเร็วแถวริมชายหาดทั้งอันดามันและอ่าวไทย
วันที่ 23 กันยายน 2559 ณ ห้องโถงกลาง ชั้น 1 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ถนนราชดำเนิน กรุงเทพมหานคร กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แถลงข่าวเปิดงาน “โครงการประชาสัมพันธ์และเตือนภัยด้านการท่องเที่ยว” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและทัศนคติอันดีต่อการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เช่น การให้ข้อมูลเตือนภัยด้านการท่องเที่ยว ให้คำแนะนำในการป้องกันภัยและช่องทางการร้องเรียนหากเกิดความสูญเสียและได้รับความเสียหายจากเหตุอาชญากรรมหรือภัยด้านอื่นๆ
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงจำนวนตัวเลขสถิติจำนวนนักท่องเที่ยวสูงอย่างน่าตกใจ และกรุงเทพมหานครได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นิยมมากที่สุดในโลกในปี 2556 ทำให้ต้องตระหนักถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเป็นที่หนึ่ง
นายพงษ์ภาณุ กล่าวว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยนับว่าเป็นผู้นำด้านธุรกิจท่องเที่ยว โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2558 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยจำนวน 29.8 8 ล้านคนเพิ่มขึ้นจากปี 2557 จำนวน 5.10 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 20.58 ในปี 2559 (มกราคมถึงกรกฎาคม) มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินเข้ามาท่องเที่ยวในไทยจำนวน 19.54 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันที่ผ่านมาคิดเป็นร้อยละ 11.87 โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ จีน มาเลเซีย เกาหลีใต้ ส่วนประเทศที่สร้างรายได้มากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ จีน รัสเซีย และมาเลเซีย
นายพงษ์ภาณุ กล่าวถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ซึ่งโครงการประชาสัมพันธ์และเตือนภัยด้านการท่องเที่ยว ถือเป็น 1 ใน 4 ของมาตรการ นอกจากนี้เป็นมาตราของการวางระบบประกันภัยคุ้มครองของนักท่องเที่ยว โดยระบบประกันภัยคุ้มครองนักท่องเที่ยว จะนำเงินจากส่วนค่าธรรมเนียมการทำวีซ่าที่จะเพิ่มจำนวนเงินของขั้นตอนการทำวีซ่า เพื่อนำมาใช้ในระบบประกันภัยนักท่องเที่ยว จะเริ่มใช้ระบบ 1 มกราคม 2560
นอกจากนี้ มีมาตรการการเพิ่มกำลังพลตำรวจท่องเที่ยวและศูนย์ปฏิบัติงานให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยว จากปัจจุบันมี 16 ศูนย์ใน 14 จังหวัดในกรุงเทพฯ มีบุคลากรปฏิบัติงานทั้งหมด 188 โดยจะเพิ่มประมาณเป็น 20 ศูนย์ตามกำลังงบประมาณ และเพิ่มเรือเร็วขึ้นจำนวน 20 ลำ เพื่อความปลอดภัยชายฝั่งทะเล ทั้งฝั่งอันดามัน บริเวณภูเก็ต พังงา กระบี่ จำนวน 10 ลำ และอ่าวไทย บริเวณชลบุรี พัทยา ระยอง จำนวน 10 ลำ โดยอยู่ระหว่างการจัดซื้อ หากดำเนินการเสร็จคาดว่า เริ่มใช้ตุลาคมนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวให้มั่นใจขึ้นไปอีก หากเกิดอุบัติเหตุหรือการโดนทำร้ายร่างกาย รวมถึงภาพลักษณ์ประเทศไทยอันดีงาม