สคล.เผยสถิตินักดื่มเหล้าตายทะลุ 2.6 หมื่นคน/ปี จี้คุม 3ด้าน 'ใจ กาย ราคา'
สสส.เปิดโครงการ"อย่าปล่อยให้เหล้ามาลวงเรา" รณรงค์สร้างความรู้เท่าทันสื่อในกลุ่มนักดื่ม ผอ.เครือข่ายองค์กรงดเหล้าชี้ไทยเศรษฐกิจไทยเสียหายกว่าปีละ3.5แสนล้านบาท สธ.แจงมีผู้ดื่มทุกวันร้อยละ26.2 ชายดื่มมากกว่าหญิง4เท่า
วันที่ 22 กันยายน แผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับสำนักงานควบคุมแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เครือข่ายองค์กรงดเหล้า สมาคมผู้กำกับแห่งประเทศ ไทย สมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย มูลนิธิสื่อเพื่อเยาวชน จัดโครงการปิ๊งส์ประกวดสื่อภาพยนตร์สั้นหัวข้อ "อย่าปล่อยให้เหล้ามาลวงเรา" ณ ห้องประชุม ชั้น 3 คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) กล่าวว่า องค์การอนามัยโลกระบุแอลกอฮอล์เป็นสาเหตุของโรคมากกว่า 200 โรค ยกตัวอย่างเช่น มะเร็ง , ตับแข็ง , พิษสุราเรื้อรัง , ปลายประสาทเสื่อม , สมองเสื่อม , โรคหัวใจ ,ไขมันในเลือดสูง , ไขมันสะสมในตับ ,ตับอักเสบ เป็นต้น
"แอลกอฮอล์ฆ่าคนไทยปีละ 2 .6 หมื่นคน เฉลี่ยทุก 20 นาทีจะมีคนตายจากการดื่มแอลกอฮอล์ การตายเพราะการดื่มแอลกอฮอล์มีประมาณ 5 เท่าถ้าเทียบกับการเสียชีวิตที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยการเสียชีวิตเพราะดื่มแอกอฮอล์กลายเป็นเรื่องปกติรัฐบาลไหนก็ไม่ให้ความสำคัญ"ภก.สงกรานต์ กล่าว และว่า การดื่มแอกอฮอล์ทำให้เกิดความรุนแรงในครอบครัวเพิ่มขึ้น 3-4 เท่าถ้าเทียบกับครอบครัวที่ไม่มีคนดื่ม มีการก่อคดีหลังจากการดื่ม 5 ชั่วโมง คิดเป็น 41.4% และ 86.7% คือตัวเลขของผู้ที่ก่อคดีที่มีความเกี่ยวข้องกับการดื่มแอลกอฮอล์
ภก.สงกรานต์ กล่าวถึงความสูญเสียทางเศรษฐกิจของประเทศที่เสียให้กับแอลกอฮอล์ปีละ 2แสนล้านบาท แพงกว่าค่าก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ นอกจากนี้ยังสร้างความสูญเสียที่ตามมา ทั้งเรื่องอุบัติเหตุและตายก่อนวัยอันควร หน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุขคำนวณออกมาเป็นตัวเลขมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งตรงนี้ทุกคนต้องมาจ่ายไม่ว่าใครจะดื่มหรือไม่ดื่มก็ตาม เพราะเงินที่นำไปจ่ายเป็นภาษีของประชาชนทุกคน นั่นหมายความว่าแอลกอฮอล์ทำลายเศรษฐกิจไทยปีละ 3.5 แสนล้านบาท เรียกได้ว่าแอลกอฮอล์ทำลาย ทั้งด้านสุขภาพ ครอบครัว เศรษฐกิจ สังคม เป็นต้น
"ฉะนั้นเรื่องที่แอลกอฮอล์โฆษณาเป็นเรื่องโกหกทั้งสิ้น ส่วนใหญ่โฆษณาเพื่อลดความผิดของตัวเองเท่านั้น เห็นได้ชัดจากการรณรงค์ให้ผู้ดื่ม ๆ อย่างรับผิดชอบ เป็นสินค้าชนิดเดียวที่โทษลูกค้าขอบตัวเองว่าไม่รับผิดชอบ"
ส่วนนายแพทย์สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ผลการวิจัยพบว่าสาเหตุที่ทำให้คนไทยเจ็บป่วย บาดเจ็บ พิการและเสียชีวิต อันดับหนึ่งเกิดจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นปัจจัยหลัก โดยพบคนไทยที่อายุมากกว่า 15 ปีตกเป็นนักดื่มในปัจจุบัน โดยวัยที่มีการดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากที่สุดคือวัยผู้ใหญ่ อายุ 25-59 ปี โดยดื่มใน 12 เดือนที่ผ่านมาร้อยละ 38.2 ผู้ที่ดื่มสุราบ่อยรองลงมาคือกลุ่มวัยรุ่นอายุระหว่าง 15-24 ปีคิดเป็นร้อยละ 25.2 ส่วนผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปนั้น มีอัตราการดื่มร้อยละ18.4. โดยภาพรวมสถิติขอการดื่มแอลกอฮอล์ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุคงที่ แต่วัยรุ่นและเยาวชนย์สวนทางกันมีค่าเฉลี่ยที่เพิ่มมากขึ้น
นายแพทย์สมาน กล่าวต่อว่า ในเรื่องของความถี่ในการดื่ม พบว่าร้อยละ 57.6 เป็นผู้ที่ดื่มนาน ๆ ครั้ง และผู้ที่ดื่มสม่ำเสมอร้อยละ 42.4 เมื่อเจาะลงไปที่กลุ่มผู้ดื่มสม่ำเสมอจะพบว่ามีผู้ที่ดื่ม 5 วันต่อสัปดาห์ถึงร้อยละ 38.3 และมีผู้ที่ดื่มทุกวันต่อสัปดาห์สูงถึงร้อยละ 26.2 โดยผู้ชายมีอัตราการดื่มสูงกว่าผู้หญิง 4 เท่า ซึ่งพฤติกรรมจากการดื่มเหล่านี้ส่งผลกระทบให้ผู้ที่ดื่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ขาดสติ ทะเลาะวิวาท นอกจากนั้นการดื่มจะทำให้ร่างกายเพิ่มอัตราการเกิดโรคต่างๆ ส่วนสาเหตุหลักที่ทำให้คนดื่มแอลกอฮอล์คือ เพื่อเข้าสังคมสังสรรค์ ร้อยละ 41.87 ดื่มตามเพื่อนร้อยละ 27.3 และอยากทดลองดื่ม ร้อยละ 24.4
"สำหรับสาเหตุในการดื่มมักเริ่มจากการเห็นโฆษณาแฝง โฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แฝงเข้าไปทุกที่กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการดื่ม การจะหลีกเลี่ยงการดื่มนั้นต้องมีการควบคุมทั้ง 3 ด้านคือ ใจหากไม่อยากดื่มก็ไม่ต้องดื่ม ควบคุมกายไม่ให้ไปหาซื้อที่ไหนก็ได้ และที่สำคัญต้องควบคุมราคาเพื่อไม่ให้ราคานั้นถูกจนเกิดแรงจูงใจในการดื่ม"
ด้านนายดนัย หวังบุญชัย ผู้จัดการแผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพฯ(สสส.) กล่าวถึงรายละเอียดการประกวดหนังสั้นในหัวข้อ "รู้เท่าทันโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์" นี้ว่า เป็นการเปิดโอกาสให้เยาวชน นักเรียน นักศึกษา ที่มีอายุระหว่าง 15-20 ปีเข้าร่วมแสดงความสามารถ โดยก่อนทำหนังภายใต้ประเด็น สุราเป็นเหตุก่อมะเร็งได้ , สุราเป็นเหตุให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ , สุราเป็นเหตุให้พิการและตายได้ , สุราทำร้ายตนเอง ครอบครัว และสังคมได้ หวังให้สื่อหนังสั้นเข้าถึงและนำเสนอทำความเข้าใจถึงอันตรายและโทษที่เกิดขึ้นเพราะการดื่มก่อนจะนำไปรณรงค์สร้างความรู้เท่าทันสื่อในกลุ่มนักดื่ม
โดยรอบแรกจะคัดทีมที่เข้าประกวด 20 ทีม เพื่อนำมาศึกษาดูงานจากผู้กำกับมืออาชีพ ก่อนจะคัดเหลือ 10 ทีม เพื่อรับทุนไปผลิตผลงานจริง และคัดเลือกผลงานที่น่าสนใจไปฉายในโรงภาพยนต์ หลังจากการประกวดผลงานทั้งหมดนี้จะถูกนำไปเป็นตัวตั้งต้นของการรณรงค์ในการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญ ๆ ของ สสส.ต่อไป โดยผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www .PINGs.in.th หรือ www .artculture4health.com โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ถึง 15 พฤศจิกายน 2559