‘ขุมทรัพย์ โลจายะ’อินไซเดอร์! ก.ล.ต. ร้องดีเอสไอสอบปมขายหุ้นซูเปอร์บล็อก
ก.ล.ต. ร้องดีเอสไอสอบ ‘ขุมทรัพย์ โลจายะ’ น้องชาย‘ลูกเขย ‘มีชัย ฤชุพันธุ์’ ปธ.กรธ. หลังพบอินไซเดอร์ขายหุ้น SUPER ให้ ‘ปูนซีเมนต์นครหลวง’ ปี’55 ไม่ยอมรับการเปรียบเทียบปรับ-ขาดความน่าไว้วางใจเป็นกรรมการบริษัท
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้กล่าวโทษนายขุมทรัพย์ โลจายะ อดีตกรรมการผู้จัดการบริษัท ซูเปอร์บล็อก จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กรณีใช้ข้อมูลภายในขายหุ้น SUPER โดยอาศัยข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญที่ยังมิได้เปิดเผยต่อประชาชน เกี่ยวกับการจำหน่ายทรัพย์สินทุกประเภทที่ใช้ในการประกอบธุรกิจอิฐมวลเบา ทั้งทรัพย์สินที่ใช้ในการผลิต ใบอนุญาตต่าง ๆ เครื่องหมายการค้า และสินค้าคงเหลือให้แก่บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) (SCCC) ซึ่งธุรกิจดังกล่าวเป็นธุรกิจหลักของ SUPER โดยนายขุมทรัพย์ เป็นอดีตกรรมการผู้จัดการของ SUPER ได้ล่วงรู้ข้อเท็จจริงดังกล่าว เนื่องจากได้รับมอบหมายจาก SUPER ให้เป็นผู้ติดต่อและประสานงานกับฝ่ายผู้ซื้อ
ทั้งนี้ SUPER เปิดเผยการขายหุ้นดังกล่าวต่อประชาชนเป็นการทั่วไป ผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่องการขายทรัพย์สินเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2555 แต่ตรวจพบว่าในช่วงวันที่ 23 กรกฎาคม 2555 ถึงวันที่ 12 พฤศจิกายน 2555 นายขุมทรัพย์ได้ขายหุ้น SUPER ในบัญชีของนายขุมทรัพย์และในบัญชีของบุคคลอื่น เพื่อประโยชน์ของนายขุมทรัพย์
ซึ่งการขายหลักทรัพย์โดยอาศัยข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงราคาของหลักทรัพย์ที่ยังไม่ได้เปิดเผยต่อประชาชน เข้าข่ายเป็นการเอาเปรียบต่อบุคคลภายนอก เป็นความผิดตามมาตรา 241 ซึ่งมีระวางโทษตามมาตรา 296 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535
การกระทำผิดข้างต้น ผู้กระทำความผิดสามารถเข้ารับการพิจารณาการลงโทษปรับทางอาญาโดยคณะกรรมการเปรียบเทียบได้ อย่างไรก็ดี นายขุมทรัพย์ไม่ยินยอมเข้ารับการเปรียบเทียบความผิด ก.ล.ต. จึงกล่าวโทษต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้พิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป นอกจากนี้ นายขุมทรัพย์ยังขาดความน่าไว้วางใจให้เป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียนตลอดระยะเวลาที่ถูกกล่าวโทษดำเนินคดีอีกด้วย
อนึ่ง การกล่าวโทษของ ก.ล.ต. เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการบังคับใช้กฎหมายทางอาญาเท่านั้น ภายใต้กระบวนการนี้ การพิจารณาวินิจฉัยว่าบุคคลใดเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายเป็นอำนาจและดุลพินิจของศาลยุติธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายขุมทรัพย์ เป็นน้องชายของนายสวิจักร์ โลจายะ ประธานกรรมการบริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) ที่แต่งงานกับนางมธุรส ฤชุพันธุ์ บุตรสาวของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)
@สั่งปรับ 3 'บิ๊ก บมจ.รสาฯ' อินไซเดอร์หุ้นด้วย
นอกจากนี้ คณะกรรมการเปรียบเทียบของ ก.ล.ต. มีคำสั่งเปรียบเทียบผู้กระทำผิด 3 ราย ได้แก่ 1) นายรพิ พินิจชอบ กรณีบอกกล่าวข้อความอันเป็นเท็จ 2) นางสาวจันทนี ถนอมพงษ์ชาติ กรณีใช้ข้อมูลภายในซื้อและชักชวนให้บุคคลอื่นซื้อหุ้นบริษัท รสา พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (RASA1) และ 3) นางปนัดดา สุนทรศารทูล ในฐานะผู้สนับสนุนการกระทำผิดของนางสาวจันทนีให้ซื้อขายหุ้นผ่านบัญชีหลักทรัพย์ของตน
ก.ล.ต. ได้รับแจ้งจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2557 นายรพิ ขณะนั้นเป็นกรรมการผู้จัดการและผู้ถือหุ้นใหญ่ RASA ได้เปิดเผยข้อมูลผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า RASA ไม่ได้มีการติดต่อหรือได้รับการติดต่อจากผู้สนใจที่จะซื้อกิจการและไม่ทราบว่ามีการเสนอซื้อกิจการแต่อย่างใด ทั้งที่ในขณะนั้น นายรพิทราบข้อเท็จจริงอยู่แล้วว่ามีกลุ่มผู้ลงทุนใหม่สนใจเข้าซื้อหุ้น RASA เนื่องจากนายรพิเป็นผู้ลงนามในความตกลง (MOU) และเป็นผู้ดำเนินการให้ผู้ลงทุนกลุ่มใหม่สามารถเข้าทำ due diligence กิจการและทรัพย์สินของ RASA ได้แล้ว
การกระทำของนายรพิ เป็นการกระทำผิดโดยการบอกกล่าวข้อความอันเป็นเท็จหรือข้อความที่เจตนาให้ผู้อื่นสำคัญผิดในข้อเท็จจริงเกี่ยวกับฐานะการเงิน การดำเนินงานหรือราคาหุ้นของ RASA อันเป็นความผิดตามมาตรา 238 และมีระวางโทษตามมาตรา 296 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 นายรพิยอมรับการเปรียบเทียบ คณะกรรมการเปรียบเทียบจึงได้เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 500,000 บาท ทั้งนี้ การถูกเปรียบเทียบดังกล่าว ทำให้นายรพิมีลักษณะเข้าข่ายขาดความน่าไว้วางใจที่จะเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ซึ่ง ก.ล.ต. จะพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป
กรณีนางสาวจันทนี ได้ล่วงรู้ข้อมูลภายในเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2557 เกี่ยวกับข้อเสนอการร่วมลงทุน เนื่องจากเป็นเลขานุการของ RASA และรับผิดชอบการจัดประชุมคณะกรรมการบริษัท จึงได้ใช้ข้อมูลที่ล่วงรู้ดังกล่าว ไปซื้อหุ้น RASA จำนวน 120,000 หุ้น ในวันที่ 11 เมษายน 2557 ผ่านบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของนางปนัดดา ก่อนที่ RASA จะเปิดเผยสารสนเทศต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อมานางสาวจันทนีได้กำไรจากการขายหุ้น RASA ในเดือนเมษายน 2557 นอกจากนี้ นางสาวจันทนี ยังได้ชักชวนให้ญาติซื้อหุ้น RASA โดยอาศัยข้อมูลภายในดังกล่าวที่ RASA ยังไม่ได้เปิดเผยต่อประชาชนเป็นการทั่วไปด้วย
การกระทำของนางสาวจันทนี จึงเป็นความผิดตามมาตรา 241 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ ในความผิด 2 กรณี และมีระวางโทษตามมาตรา 296 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ โดยนางสาวจันทนียอมเปรียบเทียบปรับ คณะกรรมการเปรียบเทียบจึงเปรียบเทียบปรับนางสาวจันทนีเป็นเงิน 1,000,000 บาท
กรณีนางปนัดดา ขณะเกิดเหตุเป็นพนักงานของบริษัทในเครือของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ RASA และรู้จักสนิทสนมกับนางสาวจันทนี ได้ช่วยเหลือนางสาวจันทนีโดยให้ซื้อหุ้น RASA โดยอาศัยข้อมูลภายในผ่านบัญชีของตน
การกระทำของนางปนัดดา เป็นความผิดในฐานะผู้สนับสนุนตามมาตรา 241 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ ประกอบมาตรา 86 แห่งประมวลกฎหมายอาญา นางปนัดดายินยอมเปรียบเทียบปรับ คณะกรรมการเปรียบเทียบจึงเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 333,333.33 บาท
อ่านประกอบ :
ลงพื้นที่!ฟังเสียงชาวบ้าน ปมคอนโดฯหรู สร้างยื่นในแม่เจ้าพระยา (มีคลิป)
บ.คอนโดฯดังแจงเจ้าท่า จ.นนท์ปมพื้นที่โผล่แม่น้ำเจ้าพระยา อ้างแนวเขตเดิมปี 27
ย้อนภาพถ่ายชัดๆ ที่ดิน บ.ดัง จากโรงเลื่อยจักร สู่คอนโดฯหรู 7.5 พันล.แม่น้ำเจ้าพระยา
ขยับ!เจ้าท่า จ.นนทฯ ส่งหนังสือแจ้ง บ.ดังชี้แจง ปมพื้นที่คอนโดฯโผล่แม่น้ำเจ้าพระยา
เทียบภาพถ่ายทางอากาศ โฉนดที่ดิน บ.คอนโดฯดัง จ.นนทฯ 'รุก-ไม่รุก'แม่น้ำเจ้าพระยา
บ.อสังหาฯดังยกทีมแจง 'มีโฉนด-งอกริมตลิ่ง' ปมพื้นที่คอนโดฯโผล่ในแม่น้ำเจ้าพระยา
คอนโดฯหรู บ.ดัง ก่อสร้างยื่นในแม่น้ำเจ้าพระยา -ผู้บริหารอ้างปรับทัศนียภาพ
หมายเหตุ : รูปนายขุมทรัพย์ จาก thairath