ไทม์ไลน์ 'มหากาพย์'ปมรุกที่สาธารณะ อ.ปะทิว กลุ่มทุนผูกโยง ขรก. ซ่อนเงื่อน 20 ปี
เรียงเอกสารดูความเป็นมา ปมรุกที่ดินสาธารณะอ่าวทุ่งทราย อ.ปะทิว ‘มหากาพย์’2 ทศวรรษ จาก 565 ไร่ - 65 ไร่ -101 ไร่ ก่อน ผู้ว่าฯ ชุมพร ตั้ง กก.สอบ ร้องดีเอสไอร่วมสาง พฤติการณ์ ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน พัวพัน กลุ่มทุน ขรก. นักการเมือง รอกำปั้นเหล็กจัดการขั้นเด็ดขาด
กรณีปัญหาที่ดินสาธารณประโยชน์ เนื้อที่ 565 ไร่ 3 งาน บริเวณอ่าวทุ่งทราย อ.ปะทิว จ.ชุมพร ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของจังหวัดชุมพร มีนายไมตรี ไตรติลานันท์ รองผู้ว่าราชการจ.ชุมพร เป็นประธาน ล่าสุด พล.ต.อุดมวิทย์ อโนวัลย์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 44 ได้ขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้ามาร่วมสอบสวนอีกทางหนึ่งเนื่องจากมีความซับซ้อน
กรณีนี้ผู้ครอบครองที่ดินคือนายพิริยะ ไกรฤกษ์ นักวิชาการชื่อดัง ซึ่งอ้างสิทธิครอบครองที่ดินในพื้นที่ดังกล่าว โดยที่โฉนดที่ดิน 1 แปลง (ไม่รวมพื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ) ถูกกรมที่ดินเพิกถอนไปแล้วเมื่อวันที่ 26 ก.ค.2548 (ออกโฉนดโดยมิชอบ) และมีที่ดินอีกแปลงหนึ่งเนื้อที่ 36 ไร่ ที่ ซื้อมาจาก นายนิพล แดงลาศ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)ปากคลอง ในราคา 3 ล้านบาท (โดยทำสัญญาจะซื้อจะขาย หรือวางมัดจำ เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2532) ปัจจุบัน มีการครอบครองที่ดินกว่า 100 ไร่
ประเด็นตรวจสอบ ณ ขณะนี้ก็คือ ที่ดินสาธารณประโยชน์อ่าวทุ่งทราย เนื้อที่ 565 ไร่ 3 งาน ตามที่คณะกรรมการจัดรูปที่ดินแห่งชาติ เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2530 ปัจจุบันมีเนื้อที่กี่ไร่ และ บ้านพักและที่ดินของนักวิชาการคนดังกล่าว อยู่ในพื้นที่สาธารณะหรือไม่ ?
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org เรียงลำดับความเป็นมา และขมวดประเด็นปัญหามาเสนอ ดังนี้
@จาก 565 ไร่ เหลือ 65 ไร่
ในปีงบประมาณ 2539 (25 ม.ค. 2539) อ.ปะทิว ยื่นความประสงค์ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร มีความประสงค์ ขอรังวัดออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง (นสล.) จำนวน 1 แปลง ชื่อ อ่าวทุ่งทราย บ้านถ้ำธง หมู่ที่ 3 ตำบล ปากคลอง เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ที่ดิน ไปทำการรังวัดออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง (นสล.)
เจ้าหน้าที่รังวัด สำนักงานที่ดินชุมพร อ.ปะทิว ดำเนินการรังวัด นสล. แปลงอ่าวทุ่งทราย เมื่อ 21 ส.ค. 2539 นายช่างรังวัด ชื่อ นายกฤษณ์ บัวสมบูรณ์ รังวัดได้เนื้อที่ตามผู้นำชี้ โดยนำชี้เฉพาะพื้นที่ส่วนด้านใต้ 65 ไร่ 1 งาน 6 ตารางวา ไม่นำชี้ในส่วนที่นายนิพล แดงลาศ ขายให้แก่ นายพิริยะ ทำให้รูปผังแปลง และเนื้อที่ผิดไปจากเดิมมาก (อ้างว่าทำสัญญาจะซื้อจะขาย หรือวางมัดจำ เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2532)
สำนักงานที่ดินจังหวัดชุมพร สาขาปะทิว ดำเนินการตามขั้นตอนการออก หนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง (นสล.) แต่ไม่เสร็จสิ้นกระบวนการ
@ปี 50 บ.เครือสหวิริยาขอเช่า
เมื่อ 22 ก.พ. 2550 บริษัท ทรัพย์สิน ชุมพรธานี จำกัด แจ้งความประสงค์ขอเช่าที่สาธารณประโยชน์ แปลงอ่าวทุ่งทรายนี้ ทั้งแปลง 65 ไร่ 1 งาน 6 ตารางวา โดยต้องการนำไปใช้ประโยชน์สำหรับเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของท่าเรือน้ำลึก และลานกองเก็บวัตถุดิบ สำหรับเครือสหวิริยาเป็นระยะเวลา 30 ปี โดยตอบแทนให้กับองค์การบริหารส่วนตำบล ดังนี้
ห้วง 1 – 10 ปีแรก ค่าเช่าปีละ 2,088,480 บาท
ห้วง 11 – 20 ปีแรก ค่าเช่าปีละ 2,297,328 บาท
ห้วง 21 – 30 ปีแรก ค่าเช่าปีละ 2,527,061 บาท
@สอบใหม่ ปี 52 ได้ 101 ไร่
ปี 2552 มีการรังวัดรูปผังแปลงที่สาธารณประโยชน์อ่าวทุ่งทรายใหม่ทั้งแปลง เพื่อขึ้นทะเบียน และการจัดหาผลประโยชน์ในที่ดินของรัฐตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2550 ผลการรังวัดพบว่าเนื้อที่ที่ดินสาธารณประโยชน์ทั้งแปลงมีจำนวน 101 ไร่ 69 ตารางวา ต่างจากในประกาศในราชกฤษฎีกานุเบกษา เดิม 565 ไร่ 3 งาน น้อยกว่าเดิม 464 ไร่ 2 งาน 31 ตารางวา รังวัด โดยนายชั่ง รังวัด ระดับ 6 นายปริญญา จันดี
เมื่อ 27 พฤษภาคม 2552 อำเภอปะทิวมีคำสั่ง ที่ 117/2552 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับที่สาธารณประโยชน์ อ่าวทุ่งทราย เนื่องจากเดิมเดิมมีเนื้อที่ 565 ไร่ 3 งาน เพื่อตรวจสอบว่าเหตุใดเนื้อที่ดินจึงหายไปกว่า 464 ไร่ เพื่อดำเนินการออกหนังสือสำหรับที่หลวง (นสล.)
บันทึกถ้อยคำและรังวัดเพื่อหาข้อเท็จจริง ลง 22 มิ.ย. 2552 ระบุว่า ที่ดินมีเนื้อที่ 101 ไร่ ที่ดินมีสภาพเป็นเนินทราย ติดชายทะเล และมีต้นไม้ขึ้นประปราย ซึ่งที่ดินแปลงนี้มีชื่อว่า อ่าวทุ่งทราย
อำเภอปะทิว สรุปผลการตรวจสอบข้อเท็จริง เมื่อ 30 ก.ค. 2552 ดังนี้
-ทิศเหนือ จดที่ดินครอบครอง ยาว 5 เส้น 10 วา เดิม เป็นทางเดินควาย ปัจจุบันฝั่งตรงข้ามเป็นที่ดินจับจองของนายพรหม แสงเดช ปัจจุบันเป็นของบุคคลอื่น
-ทิศใต้จด ที่มีการครอบครอง ยาว 2 เส้น 2 วา จดที่ดินจับจองของ นายลัด แดงแท้ ปัจจุบันเป็นของบุคคลอื่น
-ทิศตะวัน ออกจดทะเล ยาว 81 เส้น 10 วา จดทะเลตลอดแนว
-ทิศตะวันตก จดที่ดินที่มีการครอบครอง ยาว 76 เส้น 12 วา เดิมจดทางเดินควาย ปัจจุบันจดทางสาธารณะประโยชน์
ซึ่ง ที่ นสล.อ่าวทุ่งทราย มีตำแหน่งที่ตั้ง ระหว่างเขาถ้ำธง กับเขาแหลมใหญ่ ม.3 ต.ปากคลอง ซึ่งฝั่งตรงข้ามมีสภาพเป็นที่นา และมีเนื้อที่ 101 ไร่จริง เดิมเป็นที่รกร้างว่างเปล่า ใช้สำหรับใช้เลี้ยงควายของราษฎร ทั้งนี้ เมื่อปี่ 2532 ได้เกิดอุทกภัย (พายุเกย์) ทำให้พื้นที่ดังกล่าวมีหญ้าน้อยลงประกอบกับราษฎรเลิกทำนา เลยไม่มีราษฎรนำควายมาเลี้ยง แต่อย่างใด
@ฉบับเดิมคลาดเคลื่อน
คณะกรรมการมีความเห็นว่า การรังวัดครั้งล่าสุด (ปี 2552) ได้เนื้อที่และรูปแผนที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก แต่จากผลการดำเนินการตรวจสอบเอกสารแผนที่ ทะเบียนที่ดิน พยานบุคคล และสภาพพื้นที่จริง คณะกรรมการเห็นว่า เนื้อที่และรูปแผนที่ตามประกาศสงวนหวงห้ามไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงในพื้นที่น่าจะเป็นการสงวนหวงห้ามไว้โดยผิดพลาดคลาดเคลื่อน
20 เม.ย. 2555 นายอำเภอปะทิว มีหนังสือถึง สนง.ที่ดินปะทิว แจ้งว่า เนื้อที่ นสล.อ่าวทุ่งทราย มีเนื้อที่คลาดเคลื่อน โดยให้ขอความเห็นต่อสภาตำบล หรือองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อประกอบการพิจารณา
18 พ.ค.2555 สนง.ที่ดินปะทิว ทำหนังสือถึง อบต.ปากคลอง ว่าตามคำสั่ง อำเภอปะทิว ที่ 177/2552 ลงวันที่ 27 พ.ค.2552 ตามประกาศของคณะกรรมการ ไม่สอดคล้องกับสภาพพื้นที่จริงน่าจะเป็นการผิดพลาดคลาดเคลื่อน ซึ่ง จะต้องนำเสนอกรรมการการจัดการที่ดินแห่งชาติพิจารณาสั่งการเห็นชอบให้แก้ไขตามข้อเท็จจริง ชัดเจน ประสานขอให้ อบต.ปากคลอง ขอความเห็นจากที่ประชุมสภา อบต. และจัดให้ราษฎรผู้ใช้ประโยชน์แสดงความคิดเห็น ว่าสมควรแก้ไขให้ถูกต้องตามความเป็นจริงหรือไม่
13 มิถุนายน 2556 สนง.ที่ดินปะทิว ถึง อบต.ปากคลอง ตามที่ สนง.ที่ดิน ได้ขอให้ อบต.ปากคลอง ขอความเห็นจาก สภา อบต.ปากคลอง และราษฎรในพื้นที่ สนง.ที่ดินปะทิว ยังไม่ได้รับแจ้งผลการดำเนินการดังกล่าว ประกอบกับ จังหวัดชุมพร ได้เร่งรัด จึงขอให้ พิจารณาตามข้อสั่งการของจังหวัด ว่าผลเป็นประการใด หรือหากมีข้อขัดข้องให้แจ้ง สำนักงานที่ดินปะทิวเพื่อจะสรุปข้อเท็จจริง เพื่อให้จังหวัดพิจารณาข้อเท็จจริง ต่อไป
@ นักวิชาการดังยื่น ปลัด มท.ขอความเป็นธรรม ถูกทับที่ 46 ไร่
2 สิงหาคม 2556 นายพิริยะ ไกรฤกษ์ ทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรม ต่อ กระทรวง มหาดไทย ว่าได้ มีการซื้อขาย ในที่ดิน ดังกล่าว ต่อจาก นายนิพล แดงราศ เนื้อที่ 36 ไร่ เมื่อ ปี พ.ศ. 2532 และขอให้ตรวจสอบการจัดทำแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดิน และรังวัดออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงของ อบต.ปากคลอง ทับซ้อนกับที่ดินของนายพิริยะ จำนวน 46 ไร่ ทำให้ไม่สามารถดำเนินการออกโฉนดที่ดินตามที่ร้องขอได้
10 ส.ค.2559 นายพิริยะได้ส่งหนังสือร้องเรียนต่อปลัดกระทรวงมหาดไทย และสำเนาหนังสือสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินระหว่างนายพิริยะ กับ นายนิพล แดงลาศ ผู้ขาย แสดงต่อ ส.อบต. หมู่ 2
14 ตุลาคม 2556 สนง.ที่ดินปะทิว ทำหนังสือถึง อบต.ปากคลอง แจ้งว่า ตามที่ ที่ดินปะทิว ได้ขอให้ อบต.ปากคลองดำเนินการพิจารณาในการประชุมสภา และขอความเห็นจากราษฎรนั้น ทั้งนี้ นายพิริยะ ไกรฤกษ ได้มีหนังสือร้อง ขอความเป็นธรรมต่อปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ตรวจสอบการจัดทำแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกา สภาพที่ดิน นสล.ซึ่งในกรณีดังกล่าวได้ทับซ้อนของที่ดินของตนจำนวน 46 ไร่ ในการ นี้ สนง. ที่ดิน ปะทิว ยังมิได้รับผลจาก อบต.ปากคลองแต่อย่างใด เนื่องจาก อบต.ไม่สามารถประชุมสภาได้
18 พฤศจิกายน 2556 สำนักงานที่ดินชุมพร สาขาปะทิว ทำหนังสือถึง ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร แจ้งว่า ตามที่ นายพิริยะร้องขอความเป็นธรรม ขณะนี้ ยังไม่ได้รับผลการดำเนินการ สำนักงานที่ดินชุมพร สาขาปะทิว ได้มีหนังสือขอทราบผลการดำเนินการไปยัง อบต.ปากคลอง แล้ว แต่ยังไม่ได้รับผลการดำเนินการ แต่อย่างใด
@ สนง.ที่ดิน รับลูกจี้ อบต. ยื่นขอรังวัด
18 ก.พ. 2557 นายสราวุธ จันทราสุทธิ์ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดชุมพร สาขาปะทิว ทำหนังสือถึง อบต.ปากคลอง แจ้งว่า บัดนี้ระยะเวลาได้ล่วงเลยมาพอสมควรแล้ว สำนักงานที่ดินชุมพร สาขาปะทิว ยังไม่ได้รับแจ้งผลการดำเนินการ จึงขอให้ อบต. พิจารณาตามสั่งการของจังหวัดว่า ได้ผลประการใด หากมีข้อขัดข้องประการใดให้แจ้ง สำนักงานที่ดินชุมพร สาขาปะทิว ภายใน 30 วัน หากพ้นกำหนดจะถือว่าท่านไม่ประสงค์จะดำเนินการเรื่องดังกล่าว
3 มีนาคม 2557 อบต.ปากคลอง ทำหนังสือถึง สำนักงานที่ดินชุมพร สาขา ปะทิว แจ้งว่า ได้นำเรื่องดังกล่าวพิจารณาแล้วตั้งแต่ สมัยสามัญที่ 3 เมื่อ 9 สิงหาคม 2559 แต่เนื่องจากมีข้อเท็จจริงต้องตรวจสอบ อีกทั้ง มีการเลือกตั้ง สมาชิก อบต. จึงต้องให้ดำเนินการการเลือกตั้งให้เรียบร้อย เสียก่อน และจะนำเรื่องเข้าพิจารณาอีกครั้งว่าจะดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องตามข้อเท็จจริงหรือไม่
17 เมษายน 2557 สำนักงานที่ดินชุมพร สาขา ปะทิว ทำหนังสือถึง ผู้ว่าฯชุมพร ขอทราบผลการดำเนินการ กรณี นายพิริยะ ไกรฤกษ์ มีหนังสือร้องขอความเป็นธรรม ต่อปลัดกระทรวงมหาดไทยแจ้งว่าได้รับแจ้งจาก อบต.ปากคลอง ว่าได้จัดให้ราษฎรในพื้นที่แสดงความคิดเห็น เมื่อ 10 มีนาคม 2557 ซึ่งราษฎรต้องการให้ สนง.ที่ดิน ปะทิวได้มาช่วยชี้แนวเขตการรังวัดในสถานที่จริง จำนวน 101 ไร่ว่าแนวเขตเป็นอย่างไร ในวันที่ 20 มีนาคม 2557 แต่เนื่องจาก จนท.ที่ดิน มีกำหนดการรังวัด แปลงอื่นๆ อบต.ปากคลองจึงขอเลื่อนระยะเวลาในการขอความเห็นชอบจาก สภา อบต.ไปก่อน จนกว่า จนท.ที่ดินจะมาชี้แจงเกี่ยวกับหลักเขตให้แก่ราษฎรและสมาชิก สภา อบต.ปากครอง ทราบ
19 สิงหาคม 2557 สำนักงานที่ดินชุมพร สาขาปะทิว แจ้งไปยัง อบต.ปากคลอง ว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามหนังสือ จึงขอส่งแบบ ประมาณการค่าใช้จ่ายในการรังวัด จึงขอให้ท่านหรือผู้แทนไปยื่นขอรังวัด และจ่ายเงินมัดจำ และ สนง.ที่ดินปะทิวจะกำหนดวันทำรังวัดต่อไป
20 กุมภาพันธ์ 2558 บันทึกถ้อยคำว่าการรังวัดไม่สามารถรังวัดให้เสร็จสิ้นกระบนการได้เนื่องจาก การถากถางแนวเขตยังไม่เรียบร้อย จึงขอให้ จนท.งด ทำการรังวัด ไว้ก่อน 30 วัน เพื่อจะได้ทำการถากถาง
@ติดปัญหาผู้ครอบครองไม่ให้เข้าพื้นที่
23 มีนาคม 2558 บันทึกถ้อยคำ ว่าไม่สามารถทำการรังวัดได้เนื่องจาด นายพิริยะ ไกรฤกษ์ ไม่อนุญาตให้เข้าไปรังวัดในที่ดินที่ตนเองครอบครอง
13 สิงหาคม 2558 สำนักงานที่ดินชุมพร สาขาปะทิว ทำหนังสือถึง ผู้ว่าฯชุมพร รายงานว่า สำนักงานที่ดิน ปะทิว อบต.ปากคลอง ได้นัดทำการรังวัดใหม่ ในวันที่ 8 กรกฎาคม 2558 ต่อปรากฏว่ายังไม่ถึงวันนัดทำหารรังวัด รองนายก อบต.ปากคลอง (นายประกิจ แข่งขัน) ได้มาพบเจ้าหน้าที่โดยอ้างว่าในวันที่ 8 กรกฎาคม 2558 ไม่ไปทำการรังวัด แต่จากการตรวจสอบ เป็นการเข้าใจคลาดเคลื่อน เดิม 8 กรกฎาคม 2558 เป็น 8 พฤษภาคม 2558 ประกอบกับ ทาง อบต.ยังมิได้ถากถางแนวเขต จึงมีความประสงค์ให้นัดรังวัดใหม่ในวันที่ 20 – 28 สิงหาคม 2558
23 มีนาคม 2559 บันทึกถ้อยคำ ไม่สามารถเข้าไปรังวัด ที่ แปลง นสล.อ่าวทุ่งทรายได้เนื่องจาก นายพิริยะ ไกรฤกษ์ ไม่อนุญาตให้เข้าไปรังวัด
19 สิงหาคม 2559 พล.ต.อุดมวิทย์ อโนวัลย์ ผบ.มทบ.44 มีคำสั่งมณฑลทหารบกที่ 44 ที่ 223/2559 แจ้งให้ นายประกิจ แข่งขัน รองนายก อบต.ปากคลอง นำคำสั่ง เรื่องตรวจสอบการบุกรุกที่สาธารณะอ่าวทุ่งทราย ไปติดประกาศทับไว้ที่ป้ายประตูรั้วทางเข้าบ้านพักตากอากาศหรูของนายพิริยะ หลังจากมีผู้บริหารท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และชาวบ้านรวมตัวกันร้องเรียน ต่อ คสช.
24 ส.ค.2559 นายสมดี คชายั่งยืน ผู้ว่าฯชุมพร แต่งตั้งกรรมการตรวจสอบปัญหาการบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์ เนื้อที่ 565 ไร่ 3 งาน บริเวณอ่าวทุ่งทราย
15 ก.ย. 2559 พล.ต.อุดมวิทย์ อโนวัลย์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 44 ได้ส่งตัวแทน เข้าพบ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อขอให้เข้ามาสอบสวนกรณีการบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์แปลงอ่าวทุ่งทราย
@ เกี่ยวโยงขรก. นักการเมือง กลุ่มทุน
หากนับเวลาตั้งแต่ปี 2539 ที่มีการตั้งกรรมการสอบสวนชุดแรกแล้วได้ที่ดินเพียง 65 ไร่ ขณะนี้เป็นเวลากว่า 20 ปี เห็นได้ว่ามีผู้เกี่ยวข้อง (Stakeholders) ได้แก่ กลุ่มชาวบ้านเจ้าของที่เดิม นักการเมืองผู้ขายที่ดิน นายทุนผู้ซื้อที่ดิน และเจ้าหน้าที่ในกระบวนการแก้ไขหลังปัญหาบุกรุก
นี่คือยอดภูเขาน้ำแข็งที่โผล่ขึ้นมา ในขณะที่ ยังมีพื้นที่อื่นของ อ.ปะทิว อีกหลายพันไร่ เนื่องเพราะตัวละครบางรายเชื่อมโยงกัน
รออำนาจรัฐจัดการอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ตรงไปตรงมา
อ่านประกอบ :
เปิดตัวนายก อบต.ผู้ขายที่ดิน อ.ปะทิว ให้ ‘พิริยะ’ เป็น กก.สอบปมรุกที่สาธารณะด้วย
เปิดหนังสือขอความเป็นธรรม 'พิริยะ' เจ้าของบ้านเนินเขา ปะทิว ถูก ทับที่ 46 ไร่
ยื่น'ดีเอสไอ'สอบปมที่ดินอ่าวทุ่งทราย อ.ปะทิว-โผล่อีกรุกป่าพรุกะชิงพันไร่ ตัวละครเดิม
โฉมหน้า‘หนังสือที่หลวง’ฉบับปริศนา 65 ไร่ อ.ปะทิว ไม่แตะที่ดินนักวิชาการดัง
ส่อเค้าปิดฉาก!กก.สรุปเบื้องต้น‘บ้านเนินเขา’นักวิชาการดังอยู่ในที่สาธารณะ 280 ไร่
‘ที่สาธารณะ’ อ่าวทุ่งทราย 565 ไร่ หดปริศนา!เหลือ 65 ไร่ - บ.เครือทุนยักษ์โผล่เช่า
ดูชัดๆ ภาพถ่ายทางอากาศ ที่ดินเนินเขา นักวิชาการตระกูลดัง! ‘รุก-ไม่รุก’ที่สาธารณะ
เปิดบันทึก‘นายอำเภอ’ ที่ดินอ่าวทุ่งทราย อ.ปะทิว หาย 464 ไร่! ‘รังวัด’คลาดเคลื่อน
โผล่อีกแปลง!ที่ดิน อ.ปะทิว ‘นักวิชาการดัง’ ทำสัญญาซื้อจากนายก อบต. 36 ไร่ 3 ล.
เปิดข้อมูล‘ที่ดินสาธารณะ’ อ.ปะทิว 4 แปลง 3,249 ไร่ ไฉน!สอบแค่แปลงเดียว
ทวง565 ไร่! กก.สอบปมรุกอ่าวทุ่งทราย อ.ปะทิว นัดลงพื้นที่-ปูดอ้างชื่อบิ๊กทบ.-รัฐบาล
เปิดคำสั่งตั้ง กก.สอบปมรุกที่สาธารณะ อ.ปะทิว-ทหารแฉบ้าน 5 หลัง‘นักวิชาการดัง’
ชัด!คำพิพากษาศาล ปค.สูงสุด โฉนดบนเขา‘นักวิชาการดัง’ส.ค.1บินไกล500ม.
พลิกข้อต่อสู้‘นักวิชาการดัง’ในศาล ปค.สูงสุด ซื้อที่ดินสุจริต สร้างบ้านพัก-ห้องสมุด15ล.
ผู้ว่าฯ ชุมพรรับตั้ง กก.สอบบ้านหรูบนเขา‘นักวิชาการสกุลดัง’ไม่ชัวร์อยู่ในที่หลวง
จนท.ที่ดินแจงไม่มีผล ปย.!ปมบ้านหรูบนเขา‘นักวิชาการ’ตระกูลดัง ยังไม่ถูกรื้อถอน
เปิดคำพิพากษาศาล ปค.สูงสุด โฉนดบ้านหรูบนเขา18ไร่‘นักวิชาการดัง’ใช้‘ส.ค.1บิน’