คนรักหลักประกันสุขภาพ จับตานายกฯเวิร์คช็อบ 3 ระบบ ต้องโปร่งใส
“คนรักหลักประกันสุขภาพ” จับตานายกฯเวิร์คช็อบ 3 ระบบสุขภาพ 21 ม.ค. ต้องไม่ซุ่มคุย ให้ประชาสังคมร่วมด้วย “ชมรมเพื่อนไต” ออกโรงร่วมหมอชนบทเคลื่อนค้านขบวนการล้มบัตรทอง 20 ม.ค.
วันที่ 17 ม.ค.55 กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ ออกแถลการณ์ “จับตานายกฯเวิร์กช็อบ หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ” ใจความว่า ตามที่นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร กล่าวในที่ประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(บอร์ด สปสช.) วันที่ 9 ม.ค.55 ว่าจะจัดเวิร์กชอบเพื่อพิจารณาการบริหารระบบหลักประกันสุขภาพให้มีมาตรฐานการรักษาเดียวกันทั้งประเทศ ในวันที่ 21 ม.ค.นี้ ต้องตั้งอยู่บนหลักการลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม สร้างระบบสุขภาพมาตรฐานเดียว
เป้าหมายที่ควรบรรลุคือนโยบายรัฐบาลที่ชัดเจนในการรวมระบบสุขภาพทั้งสามให้เป็นหนึ่ง สร้างมาตรฐานคุณภาพบริการที่มีค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม ตรวจสอบได้ คุ้มค่าคุ้มทุน เป็นธรรม การบริหารที่มีประสิทธิภาพ เชี่ยวชาญด้วยระบบเดียว มีความพร้อมเชิงวิชาการและประสบการณ์บริหารระบบหลักประกันสุขภาพประชาชน ซึ่งจำเป็นต้องมีผู้เข้าร่วมเวิร์กชอบอย่างรอบด้าน และผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการใช้บริการระบบหลักประกันสุขภาพมีส่วนร่วมด้วย จึงจะโปร่งใส ไม่ใช่เฉพาะกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงแรงงาน กระทรวงการคลัง และสำนักงานประกันสังคม
ทั้งนี้กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพพบว่ายังขาดองค์ประกอบสำคัญที่เข้าร่วมเวิร์กชอบ จึงเรียกร้องนายกฯ เชิญผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วย คือ 1.ตัวแทนประชาชนในระบบหลักประกันสุขภาพที่มีอยู่ทุกระบบ 2.ตัวแทนนักวิชาการที่มีความเชี่ยวชาญ เช่น ดร.ดิเรก ปัทมสิริวัฒน์ ดร.นพ.ศุพสิทธิ์ พรรณารุโณทัย ดร.วิโรจน์ ณ ระนอง ดร.นพ.ถาวร สกุลพาณิชย์ ดร.นพ.พงษธร พอกเพิ่มดี นพ.พงษ์พิสุทธิ์ จงอุดมสุข 3.ตัวแทนจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
วันเดียวกัน นายสุบิล นกสกุล ประธานชมรมเพื่อนโรคไตแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับทิศทางการดำเนินงาน 30 บาทในยุครัฐบาลเพื่อไทย โดยเฉพาะหลังจากที่ชมรมแพทย์ชนบทได้ออกมาเปิดเผยแผน 4 ขั้นตอนล้มระบบบัตรทองนั้น และการประชุมลับเพื่อจัดโผแต่งตังคณะอนุกรรมการการเงินการคลัง ก็น่าเป็นห่วงว่าต่อจากนี้ทิศทางของบัตรทองภายใต้การบริหารของกลุ่มคนที่คัดค้าน 30 บาทมาตั้งแต่ต้น แต่กลับเข้ามาเป็นบอร์ด สปสช.จะไม่รักษาผลประโยชน์ประชาชนและผู้ป่วย แต่เอื้อประโยชน์ รพ.เอกชนมากกว่า สิทธิประโยชน์ประชาชนจะไม่ได้รับการพัฒนา ซึ่งเคยมีกรณีการทำหนังสื่อถึง รพ.เอกชนไม่ให้เข้าร่วมฟอกเลือดผู้ป่วยไตกับ สปสช. เพื่อกดดัน สปสช.เพิ่มราคาให้ รพ.
นายสุบิล กล่าวต่อว่า ชมรมเพื่อนโรคไตจะร่วมปกป้องเจตนารมณ์ระบบหลักประกันสุขภาพที่ถือกำเนิดขึ้นในยุค พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จากการผลักดันของ นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ เพื่อสิทธิของประชาชน จะไม่ยอมให้กลุ่มการเมืองและกลุ่มผลประโยชน์มาฉกฉวยประโยชน์จากกองทุนและทำให้ 30 บาทกลายเป็นระบบอนาถา ละเมิดสิทธิประชาชน
“ชมรมเรียกร้องรัฐบาลเพื่อไทยอย่าเขียนด้วยมือแล้วลบด้วยเท้า สิ่งที่รัฐบาลไทยรักไทยสร้างมาเป็นประโยชน์มหาศาลกับคนไทยทั้งประเทศ แต่ผ่านมา 10 ปี รัฐบาลนี้กลับจะมาทำลาย ชมรมเพื่อนโรคไต ตลอดจนเครือข่ายผู้ป่วยจะเข้าร่วมประชุมกับชมรมแพทย์ชนบทวันที่ 20 ม.ค.นี้ และจะยื่นหนังสือถึงนายกฯ ให้จัดการกับความไม่ถูกต้องโดยเร็ว ก่อนที่บอร์ด สปสช.ชุดใหม่จะทำให้ 30 บาทกลายเป็นระบบการรักษาพยาบาลแบบอนาถา” ประธานชมรมเพื่อนโรคไตแห่งประเทศไทย กล่าว .