วันทวีคูณเป็นเหตุ! อดีตรองผู้ว่าฯยะลาประกาศฟ้อง มท.วืดขึ้นพ่อเมือง
การแต่งตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด 24 ตำแหน่ง และผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย 3 ตำแหน่ง ที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ 13 ก.ย.59 กลายเป็นประเด็นร้อน เมื่อมีรองผู้ว่าฯที่พลาดหวังเตรียมยื่นถวายฎีกาและยื่นฟ้องศาลปกครอง
ปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายในยุคที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.เป็นรัฏฐาธิปัตย์ ไม่เคยมีปัญหาร้องเรียนหรือฟ้องศาล กรณีนี้เป็นกรณีแรก โดยรองผู้ว่าฯที่ออกมาเคลื่อนไหว คือ นายสายัณห์ อินทรภักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง อดีตรองผู้ว่าฯยะลา
นายสายัณห์ ได้ส่งข้อความในแอพพลิเคชั่นไลน์ถึงเพื่อนข้าราชการ โดยระบุตอนหนึ่งว่า ในวันที่ 20 ก.ย.จะยื่นถวายฎีกา และยื่นฟ้องศาลปกครองเกี่ยวกับความไม่เป็นธรรมในการแต่งตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดครั้งล่าสุดนี้ เพราะตนเป็นรองผู้ว่าฯที่อาวุโสสูงสุดในประเทศไทย จากการดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าฯยะลา ตั้งแต่เดือน ม.ค.2555 ถึงเดือน ก.ย.2558 เป็นเวลา 3 ปี 8 เดือน ทั้งนี้ตามประกาศกระทรวงมหาดไทยให้นำอายุราชการทวีคูณมาคิดคำนวณด้วย (เพราะดำรงตำแหน่งในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้) จึงมีอายุราชการในตำแหน่งรองผู้ว่าฯยะลา 7 ปี 4 เดือน จากนั้นถูกย้ายไปดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าฯตรัง อีก 1 ปี รวมเป็น 8 ปี 4 เดือน ถือว่าอาวุโสสูงสุดในประเทศไทย แต่กลับไม่ได้รับการแต่งตั้ง ทั้งๆ ที่จะเกษียณอายุราชการในปี 2560
นายสายัณห์ ยังอ้างคำกล่าวของอดีตข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยที่เกษียณอายุไปแล้วว่า การโยกย้ายแต่งตั้งในอดีตไม่เคยเลวร้ายเท่านี้
“ผมไม่เคยทุจริตคิดชั่ว ไม่เคยกระด้างกระเดื่องต่อผู้บังคับบัญชา ไม่เคยมีปัญหาในพื้นที่กับข้าราชการหรือประชาชน ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับการเมือง กระผมตั้งหน้าตั้งตาทำงานโดยไม่เลือกงาน ทำทุกงาน วันหยุดไม่มีสำหรับกระผม”
“กระผมได้รับคำแนะนำจากผู้ใหญ่ที่คนในวงการมหาดไทยให้ความเคารพนับถือแม้ท่านจะเกษียณอายุราชการไปหลายปีแล้ว ท่านบอกว่าสมัยก่อนไม่เลวร้ายแบบนี้ สมัยนี้ทำไมมันถึงเป็นอย่างนี้ ท่านสนับสนุนให้กระผมดำเนินการทั้งสองกรณีโดยเร็ว (ถวายฎีกา และยื่นฟ้องศาลปกครอง)” เป็นข้อความส่วนหนึ่งจากแอพพลิเคชั่นไลน์ของนายสายัณห์
หลังจากข้อความในไลน์ของนายสายัณห์ถูกเผยแพร่ผ่านสื่อ นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ออกมาชี้แจงว่า รองผู้ว่าฯที่อาวุโสที่สุดในประเทศไทย คือ นายณรงค์ พลละเอียด รองผู้ว่าฯระนอง ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าฯชุมพร โดยมีอายุงาน 7 ปี โดยเป็นการนับแบบปกติ แต่กรณีของนายสายัณห์ เป็นการนับแบบทวีคูณ
สำหรับคุณสมบัติในการแต่งตั้งนั้น มีหลายองค์ประกอบ ทั้งประวัติ ประสบการณ์ทำงาน ความรู้ความสามารถ และการพิจารณาแต่งตั้งดำเนินการในรูปคณะกรรมการ ไม่ได้ตัดสินใจคนเดียว มีการให้เขียนวิสัยทัศน์และสอบสัมภาษณ์ จึงยอมรับไม่ได้ที่บอกว่าการแต่งตั้งครั้งนี้เลวร้ายที่สุด อย่างไรก็ดี ผู้ที่มีส่วนได้เสียกับกระบวนการแต่งตั้ง ยังสามารถใช้สิทธิตามกฎหมายวิธีปฎิบัติราชการทางปกครอง คือการใช้สิทธิ์ฟ้องศาลให้ตรวจสอบได้ รวมทั้งสามารถใช้สิทธิ์ตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารฯ ขอดูผลคะแนนของตนเองได้ด้วย
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : นายสายัณห์ อินทรภักดิ์
ขอบคุณ : ภาพจากเฟซบุ๊คนายสายัณห์
หมายเหตุ : ปรับขนาดภาพโดยฝ่ายศิลป์ ทีมข่าวอิศรา