พล.อ.ชูฉัตรบี้นายกฯ ชะอำ เพิกถอนใบรับรองก่อสร้างคอนโดฯฉาวผิดแบบอื้อ

พล.อ.นพ.ชูฉัตร กำภูฯ -ผู้เสียหายคอนโดฯ ดัง 'หัวหินทรอปปิคอลฯ ชะอำ' หอบหลักฐาน ยื่นเทศบาลฯ ชะอำอีกรอบ ขอให้เพิกถอนใบรับรองการก่อสร้างอาคาร ระบุผิดแบบหลายรายการ  ก่อนหน้าร้องหลายหน่วยงาน 

กรณีผู้ซื้อห้องชุด โครงการ หัวหินทรอปปิคอลโอเชียนวิว อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ของ บริษัท หัวหินทรอปปิคอล โอเชียนวิว จำกัด ได้ร้องเรียนต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพชรบุรี สำนักงานที่ดินจังหวัดเพชรบุรีสาขาชะอำ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ชะอำ ให้ดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงประชาชน ต่อมา นางนัยยา บำรุงศิลป์ กรรมการบริษัทฯ ร่วมกับ นายปณชัย ประวีรนันทน์ ซึ่งทั้งสองคนถูกดำเนินคดี และยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่สำนักงานเทศบาลเมืองชะอำ และ สำนักงานที่ดินจังหวัดเพชรบุรี สาขาชะอำ จ.เพชรบุรี ในการออกใบรับรองการก่อสร้าง (อ.6) มีจำนวนห้องพักและอื่น ๆ ไม่ตรงกับข้อมูลในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม              

ล่าสุด เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2559 พลเอก นายแพทย์ชูฉัตร กำภู ณ อยุธยา และตัวแทนผู้เสียหาย ได้ส่งตัวแทนยื่นหนังสือถึง นายนุกูล พรสมบูรณ์ศิริ นายกเทศมนตรีเมืองชะอำ ขอให้เพิกถอนใบรับรองการก่อสร้างอาคาร (แบบ อ.6) สำหรับอาคารชุดดังกล่าว โดยระบุกลุ่มผู้ซื้อห้องชุดโครงการ “หัวหินทรอปปิคอลโอเชียนวิว” ของบริษัท หัวหินทรอปปิคอล โอเชียนวิว จำกัด ได้ตรวจสอบสภาพอาคาร และรายการทรัพย์สินส่วนกลางหลายรายการที่ระบุไว้ในสัญญาซื้อขาย ยังไม่ได้ดำเนินการให้แล้วเสร็จอย่างถูกต้องครบถ้วน และไม่เป็นไปตามข้อกำหนดที่ระบุไว้ในรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่ ทส 1009.5./43 ลงวันที่ 2 มกราคม 2551 ซึ่งไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงในปัจจุบัน โดยพอสรุปเป็นประเด็นสำคัญ ดังนี้              

1.จำนวนห้องพักที่อ้างถึงหนังสือผลการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ลงวันที่ 2 มกราคม 2551 ออกโดยสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยได้ส่งมาตรการที่โครงการหัวหินทรอปปิคอลโอเชียนวิวต้องยึดถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด ถึงนายกเทศมนตรีเมืองชะอำ กรรมการผู้จัดการบริษัท หัวหินทรอปปิคอลโอเชียนวิว จำกัด และผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี จะมีจำนวนทั้งสิ้น 183 ห้อง แต่จากสภาพความเป็นจริง และข้อมูลที่ใช้แสดงบนเวปไซด์ของบริษัท หัวหินทรอปปิคอลโอเชียนวิว จำกัด จะมีจำนวนห้องทั้งหมด 187 ห้อง โดยมีเพิ่มขึ้นมา 4 ห้อง เมื่อได้สอบถามไปยังสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การเพิ่มจำนวนห้องถือว่า เป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสำคัญ เพราะจำนวนห้องที่เพิ่มขึ้นย่อมส่งผลให้จำนวนประชากรในการอยู่อาศัยเพิ่มขึ้น มลภาวะที่เกิดขึ้นย่อมมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทางผู้ประกอบการจะต้องขอยื่นการเปลี่ยนแปลงข้อมูลนี้มายังสำนักวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม เพื่อทำการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมใหม่ ก่อนจะดำเนินการแก้ไขการก่อสร้าง 

2.ความกว้างของถนนเข้าสู่ที่ตั้ง และที่ดินของอาคารชุดด้านถนนซอยล้ำเลิศอุทิศยังไม่แล้วเสร็จครบถ้วนถูกต้องดังที่โฆษณาไว้ก่อนหน้านี้ 

“คำถามก็คือ ทางเทศบาลอำเภอชะอำได้มีการตรวจสอบถึงใบอนุญาตการก่อสร้าง ตลอดจน การดำเนินการก่อสร้างของถนน และการก่อสร้างรางระบายน้ำดังกล่าวนี้ว่า แล้วเสร็จถูกต้องครบถ้วนจริงให้เป็นไปตามข้อกำหนดที่ระบุไว้ในรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรือไม่ ก่อนจะออกใบรับรองการก่อสร้าง เมื่อไหร่จึงจะมีการดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จถูกต้องครบถ้วน ควรจะต้องสร้างให้แล้วเสร็จ ก่อนจะดำเนินการจดทะเบียนอาคารชุดติดจำนองหรือไม่” หนังร้องเรียนระบุ

3.รูปแบบเส้นทางการจราจร ทางเข้าทางออกถนนภายนอก และที่จอดรถภายในโครงการ ไม่ตรงกับระบบจราจร และที่จอดรถบริเวณพื้นที่โครงการที่ระบุในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม 

“ทางผู้แทนกลุ่มผู้ซื้อเห็นว่า สภาพข้อเท็จจริงของจำนวนห้อง อาคาร ถนน เส้นทางการจลาจล ที่จอดรถภายในพื้นที่โครงการ ระบบความปลอดภัย และรายการทรัพย์สินส่วนกลาง ไม่เป็นไปตามมาตรฐานรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม และสัญญาซื้อขาย ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้ซื้อ จึงขอให้เทศบาลชะอำทำการเพิกถอนใบรับรองการก่อสร้างอาคาร แบบ อ.6 ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน (หรือภายในวันที่ 16 กันยายน 2559) และขอให้มีหนังสือลงนามตอบกลับมายังผู้ร้องเป็นลายลักษณ์อักษร” หนังสือระบุ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการร้องเรียนต่อ ป.ป.ท. นั้น คดีนี้ทาง ป.ป.ท. ได้ส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สอบสวนข้อเท็จจริงต่อ เนื่องจาก ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง  

อ่านประกอบ :

เปิดสเตทเม้นท์มัดเงินกู้ ธ.ออมสิน 200 ล.คอนโด ฯ ชะอำ 3 เดือน ถอนเกลี้ยง 191 ล.

ยื่นดีเอสไอสอบแบงก์ออมสินปล่อยกู้ 200 ล. คอนโดฯฉาว ชะอำ - ‘เงินปากถุง’6 ล.

พล.อ.นพ.ชูฉัตร ร้อง ‘ผู้ต้องหานักธุรกิจ’ อ้างชื่อบิ๊ก รมต.คดีฉ้อโกงซื้อคอนโดฯ ชะอำ

ฟ้อง 9 คดี บ.อสังหาฯหัวหิน‘ทรอปปิคอลเลควิว’ฉ้อโกงซื้อบ้าน-ยื่นดีเอสไอสอบซ้ำ 

ชัดๆ! หนังสือผู้ว่าฯเพชรบุรีชงอธิบดี DSI ขอให้ บ.คอนโดฯดังชะอำฉ้อโกงเป็นคดีพิเศษ 

ร้องสอบ จนท.ปมคอนโดฯดังชะอำสร้างไม่ตรง EIA โผล่โยงธุรกิจกลุ่มเดอะบิ๊ก 

 พล.อ.นพ.ชูฉัตร กำภูฯ-ผู้เสียหายคอนโดฯดัง หัวหินทรอปปิคอล ฯ ชะอำ หอบหลักฐาน ยื่นเทศบาลชะอำอีกรอบ ขอให้ เพิกถอน ใบรับรองการก่อสร้างอาคาร ระบุผิดแบบหลายรายการ  กรณีผู้ซื้อห้องชุด โครงการ หัวหินทรอปปิคอลโอเชียนวิว อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ของ บริษัท หัวหินทรอปปิคอล โอเชียนวิว จำกัด ได้ร้องเรียนต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพชรบุรี สำนักงานที่ดินจังหวัดเพชรบุรีสาขาชะอำ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสภ.ชะอำให้ดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงประชาชน ต่อมานางนัยยา บำรุงศิลป์ กรรมการ บริษัทฯ ร่วมกับนายปณชัย ประวีรนันทน์ ซึ่งทั้งสองคนถูกดำเนินคดี และยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่สำนักงานเทศบาลเมืองชะอำ และ สำนักงานที่ดินจังหวัดเพชรบุรี สาขาชะอำ จ.เพชรบุรี ในการออกไปรับรองการก่อสร้าง (อ.6) มีจำนวนห้องพักและอื่นๆ ไม่ตรงกับข้อมูลในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม              ล่าสุด เมื่อวันที่ 15 ส.ค.2559  พลเอก นายแพทย์ชูฉัตร กำภู ณ อยุธยา และตัวแทนผู้เสียหาย  ได้ส่งตัวแทนยื่นหนังสือถึงนายนุกูล พรสมบูรณ์ศิริ นายกเทศมนตรีเมืองชะอำ ขอให้เพิกถอนใบรับรองการก่อสร้างอาคาร (แบบ อ.6) สำหรับอาคารชุดดังกล่าว โดยระบุ กลุ่มผู้ซื้อห้องชุดโครงการ “หัวหินทรอปปิคอลโอเชียนวิว” ของบริษัท หัวหินทรอปปิคอล โอเชียนวิว จำกัด ได้ตรวจสอบสภาพอาคารและรายการทรัพย์สินส่วนกลางหลายรายการที่ระบุไว้ในสัญญาซื้อขายยังไม่ได้ดำเนินการให้แล้วเสร็จอย่างถูกต้อง ครบถ้วนและไม่เป็นไปตามข้อกำหนดที่ระบุไว้ในรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่ ทส 1009.5./ 43 ลงวันที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2551  ซึ่งไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงในปัจจุบัน โดยพอสรุปเป็นประเด็นสำคัญดังนี้              1.จำนวนห้องพักที่อ้างถึงหนังสือผลการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ลงวันที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2551 ออกโดยสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยได้ส่งมาตรการที่โครงการหัวหินทรอปปิคอลโอเชียนวิวต้องยึดถือปฏิบัติโดยเคร่งครัดถึงนายกเทศมนตรีเมืองชะอำ กรรมการผู้จัดการบริษัทหัวหินทรอปปิคอลโอเชียนวิวจำกัด และผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี จะมีจำนวนทั้งสิ้น 183 ห้อง แต่จากสภาพความเป็นจริงและข้อมูลที่ใช้แสดงบนเวปไซด์ของบริษัทหัวหินทรอปปิคอลโอเชียนวิวจำกัดจะมีจำนวนห้องทั้งหมด 187  ห้อง โดยมีเพิ่มขึ้นมา 4 ห้อง  เมื่อได้สอบถามไปยังสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การเพิ่มจำนวนห้องถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสำคัญเพราะ จำนวนห้องที่เพิ่มขึ้นย่อมส่งผลให้จำนวนประชากรในการอยู่อาศัยเพิ่มขึ้น มลภาวะที่ เกิดขึ้นย่อมมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทางผู้ประกอบการจะต้องขอยื่นการเปลี่ยนแปลงข้อมูลนี้มายังสำนักวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมเพื่อทำการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมใหม่ก่อนจะดำเนินการแก้ไขการก่อสร้าง 2. ความกว้างของถนนเข้าสู่ที่ตั้งและที่ดินของอาคารชุดด้านถนนซอยล้ำเลิศอุทิศยังไม่แล้วเสร็จครบถ้วนถูกต้องดังที่โฆษณาไว้ก่อนหน้านี้   “คำถามก็คือ   ทางเทศบาลอำเภอชะอำได้มีการตรวจสอบถึงใบอนุญาตการก่อสร้างตลอดจนการดำเนินการก่อสร้างของถนนและการก่อสร้างรางระบายน้ำดังกล่าวนี้ว่าแล้วเสร็จถูกต้องครบถ้วนจริงให้เป็นไปตามข้อกำหนดที่ระบุไว้ในรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรือไม่ก่อนจะออกใบรับรองการก่อสร้าง    เมื่อไหร่จึงจะมีการดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จถูกต้องครบถ้วน   ควรจะต้องสร้างให้แล้วเสร็จก่อนจะดำเนินการจดทะเบียนอาคารชุดติดจำนองหรือไม่”หนังร้องเรียนระบุ              3.รูปแบบเส้นทางการจราจร ทางเข้าทางออก ถนนภายและที่จอดรถภายในโครงการไม่ตรงกับระบบจราจรและที่จอดรถบริเวณพื้นที่โครงการที่ระบุในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม “ทางผู้แทนกลุ่มผู้ซื้อเห็นว่าสภาพข้อเท็จจริงของจำนวนห้อง อาคาร ถนน เส้นทางการจลาจล ที่จอดรถภายในพื้นที่โครงการ ระบบความปลอดภัยและรายการทรัพย์สินส่วนกลางไม่เป็นไปตามมาตรฐาน รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม และสัญญาซื้อขาย ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้ซื้อ จึงขอให้เทศบาลชะอำทำการเพิกถอนใบรับรองการก่อสร้างอาคาร แบบ อ.6 ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน (หรือภายในวันที่ 16 กันยายน 2559) และขอให้มีหนังสือลงนามตอบกลับมายังผู้ร้องเป็นลายลักษณ์อักษร”หนังสือระบุ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการร้องเรียนต่อ ป.ป.ท.นั้นคดีนี้ ทาง ป.ป.ท. ได้ส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สอบสวนข้อเท็จจริงต่อเนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง