‘บิ๊กซีพี’การันตีจำนำข้าวช่วยชาวนา-ปัดปมสัมพันธ์เครือญาติแกนนำ พท.เอื้อ ปย.
'บิ๊กซี.พี.อินเตอร์เทรดฯ' ให้การคดีข้าว 'ยิ่งลักษณ์' การันตีจำนำข้าวชาวนาได้ประโยชน์ ปัดปมความสัมพันธ์เครือญาติกับแกนนำเพื่อไทย ยันไม่ได้กักตุนข้าวเพื่อเข้าโครงการ รับขายผลิตภัณฑ์เกษตรได้มากขึ้น ส่วน ‘หมอชัย’ โต้อนุฯปิดบัญชีคำนวณผิดพลาด ทำให้ผลลัพธ์คลาดเคลื่อน ไม่รู้มีข้าวถูกสวมสิทธิ์หรือไม่ รับไม่สามารถแยกได้ว่าข้าวไทย-ข้าวนอกที่เข้าโครงการ แต่ยันมีการแจ้งความดำเนินคดีแล้ว 200 คดี ไม่รู้จัก ‘คอฟโก’
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดไต่สวนพยานฝ่ายจำเลย ในคดีที่อัยการสูงสุด (อสส.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย กรณีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว โดยวันนี้ (9/9/59) นัดสืบพยาน 2 ปาก ได้แก่ นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ นักวิชาการอิสระ และนายสุเมธ เหล่าโมราพร ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซี.พี.อินเตอร์เทรด จำกัด ใน
ช่วงบ่าย นายสุเมธ ได้เข้าเบิกความ โดยฝ่ายอัยการซักโดยสรุปว่า ผู้บริหารระดับสูงในเครือซีพีมีความสัมพันธ์เชิงเครือญาติกับอดีตรัฐมนตรี และแกนนำในพรรคเพื่อไทย แต่นายสุเมธ ได้ให้การปฏิเสธ สรุปได้ว่า ทราบว่ามีอดีตรัฐมนตรีแต่งงานกับบุตรของผู้บริหารระดับสูงในเครือซีพี ขณะเดียวกันมีบุตรของผู้บริหารระดับสูงในเครือซีพีเข้ามาทำงานให้กับรัฐมนตรีในสมัยพรรคไทยรักไทยบางรายด้วย อย่างไรก็ดีไม่ทราบว่า เป็นเรื่องผลประโยชน์ต่างตอบแทนหรือไม่ เพราะไม่ได้ยุ่งเกี่ยวเรื่องนี้
อัยการได้ซักประเด็นที่เครือซีพีได้กักตุนสต็อกข้าวไว้ในช่วงที่พรรคเพื่อไทยหาเสียง เพราะถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล จะมีโครงการรับจำนำข้าว ได้นำข้าวมาจำนำในราคาแพง รวมถึงประเด็นที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีงบอุดหนุนซื้อผลิตภัณฑ์ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรอื่น ๆ ขายเกษตรกรในราคาถูกผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทำให้บริษัทในเครือซีพีที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ได้รับประโยชน์ด้วยหรือไม่
นายสุเมธ ตอบสรุปได้ว่า ยืนยันว่าไม่ได้กว้านซื้อข้าวมาเพื่อมากักตุน แต่ทำไปตามระเบียบของกระทรวงพาณิชย์ ที่ระบุว่า บริษัทที่ส่งสินค้าออกต่างประเทศ จะต้องมีสินค้าในสต็อกอยู่ด้วย โดยเครือซีพีจำหน่ายข้าวสารออกต่างประเทศปีหนึ่งประมาณ 1 ล้านตันเศษ ดังนั้นต้องมีข้าวในสต็อกประมาณ 2-3 แสนตัน ซึ่งเป็นเรื่องปกติ นอกจากนี้นโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองหลายพรรคขณะนั้น ต่างก็เน้นถึงนโยบายช่วยเหลือเกษตรกรทำให้ราคาสินค้าเกษตรแพงขึ้นอยู่แล้ว ไม่ใช่มีแต่พรรคเพื่อไทยพรรคเดียว จึงไม่เกี่ยวกัน ส่วนประเด็นที่บริษัทในเครือซีพีที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรได้รับประโยชน์หรือไม่ คงตอบแบบนั้นไม่ได้ แต่ว่าสินค้าขายได้มากขึ้น แต่ไม่ทราบว่ามีกำไรหรือขาดทุนเท่าไหร่ อย่างไร
นายสุเมธ เบิกความต่อสรุปว่า โครงการรับจำนำข้าวเป็นโครงการที่เกิดขึ้นเพื่อช่วยเหลือชาวนา ทำให้ชาวนามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ดังนั้นการจำนำข้าวจึงต้องมีราคาแพงกว่าตลาด และไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้อันดับการส่งออกข้าวไทยลดลง แต่กลับทำให้การขายข้าวในตลาดโลกของไทยได้ราคาสูงขึ้นด้วย ซึ่งหากคิดตามต้นทุนการผลิต ทำให้ชาวนาไม่เป็นหนี้สินล้นพ้นจนหมดตัว
ขณะที่ในช่วงเช้าเป็นการเบิกความของนายสัตวแพทย์ชัย สรุปได้ว่า ไม่มีประสบการณ์การซื้อขายหรือระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) มาก่อน ยอมรับว่าเป็นแค่นักวิจารณ์ และนักวิเคราะห์เกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าวเท่านั้น อย่างไรก็ดีได้คลุกคลีอยู่กับชาวนาเป็นอย่างดีอย่างลึกซึ้ง เพราะทั้งญาติ และพรรคพวกต่างเป็นชาวนาเยอะ และได้ค้นคว้าเกี่ยวกับประเด็นเรื่องจำนำข้าวอย่างลึกซึ้งเช่นกัน โดยเฉพาะหลักฐานชิ้นสำคัญนั่นคือ งานวิจัยเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าวและมาตรการป้องกันการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ของนายนิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ซึ่งตนได้โต้แย้งไว้ในหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้าวเสื่อมสภาพ หรือกลไกตลาดต่าง ๆ
ทั้งนี้ฝ่ายอัยการได้นำสืบในประเด็นโครงการรับจำนำข้าวทำให้ชาวนาต้องใช้ต้นทุนมากขึ้น นายสัตวแพทย์ชัย ตอบสรุปได้ว่า แม้ชาวนาจะใช้ต้นทุนมากขึ้น แต่ก็ได้ผลการผลิตมากขึ้นเช่นกัน ที่สำคัญโครงการนี้ทำให้ชาวนาเร่งรีบการปลูก แต่ก็ปลูกอย่างพิถีพิถัน เพื่อนำเข้าโครงการรับจำนำแล้วจะได้รับเงินมากขึ้น
ส่วนประเด็นเรื่องคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวของ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน (ขณะนั้น) นายสัตวแพทย์ชัย ตอบสรุปได้ว่า การคำนวณของคณะอนุฯปิดบัญชีของ น.ส.สุภา มีการคำนวณผลลัพธ์คลาดเคลื่อน อย่างไรก็ดียอมรับว่า ไม่ได้สนใจตัวบุคคลว่าคณะอนุฯปิดบัญชีโครงการจำนำข้าวจะมี น.ส.สุภา หรือคนอื่นเป็นประธาน แต่ในเนื้อหายืนยันว่าคณะอนุฯปิดบัญชีคำนวณไม่ชัดเจน
ฝ่ายอัยการได้ซักประเด็นเรื่องการนำข้าวต่างประเทศมาสวมสิทธิ์ ประเด็นการทุจริตในโครงการดังกล่าวด้วย นายสัตวแพทย์ชัย ตอบสรุปได้ว่า เรื่องข้าวสวมสิทธิ์ไม่ทราบ แต่เท่าที่คุยกับชาวนาก็ยังไม่เคยเจอกรณีนี้ แต่ยอมรับว่าไม่สามารถแยกได้ว่า ข้าวประเภทไหนเป็นข้าวจากไทยหรือจากต่างประเทศที่เข้าไปในกระบวนการจำนำข้าว ส่วนเรื่องทุจริตนั้นไม่ทราบรายละเอียด แต่เท่าที่ทราบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้แจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลที่ถูกกล่าวหาแล้วกว่า 200 คดี ส่วนหากเกิดการทุจริตขึ้นต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงหรือไม่นั้น เรื่องนี้ไม่ทราบในรายละเอียด และไม่มีอำนาจ ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่รู้จักคอฟโกซึ่งเป็นหน่วยงานกลางที่ได้รับมอบอำนาจจากรัฐบาลจีนในการซื้อข้าวจีทูจีด้วย
อ่านประกอบ :
เบื้องลึก!การหาทางช่วย'ยิ่งลักษณ์'จนสุดเหวี่ยง! ลดค่าเสียหายคดีข้าวเหลือร้อยละ 20
โชว์ชัดค่าเสียหายจำนำข้าว 1.7 แสนล. ‘ปู’จ่ายแค่ 20%-วิจารณ์ขรมคำนวณผิด?
ไม่มีข้าวถูกสวมสิทธิ์! ‘วราเทพ’ให้การคดี'ปู'-เลขขาดทุน 5 แสนล.ไม่ถูกต้อง
‘อัยการ’ซัก‘ยิ่งลักษณ์’ตอบ! ท่าที‘นารีขี่ม้าขาว’แจงคดีข้าว-ไฉนสอบไม่เจอทุจริต?
ปัญหาเกิดจากฝ่ายปฏิบัติ! ‘ยิ่งลักษณ์’ แจงศาลคดีข้าว-ลั่นสอบทุจริตแล้วไม่เจอ
สารพัดเรื่องไม่โปร่งใส-ส่อทุจริต! ‘สุภา’เข้าให้ถ้อยคำคดีข้าว‘ยิ่งลักษณ์’
มติ 7-0 เสียง ป.ป.ช.ฟัน“ยิ่งลักษณ์”คดีจำนำข้าว ชงวุฒิถอด-"สถาพร"ถอนตัว
อวสาน"ยิ่งลักษณ์" มติสนช. 190:18 ตัดสิทธิ์การเมือง 5 ปี "นิคม-สมศักดิ์" รอด
หมายเหตุ : ภาพประกอบนายสัตวแพทย์ชัยจาก tnn24