ป.ป.ช.โชว์ข้อมูล ผอ.ปปง.เรียก20ล. ช่วยคดี สกสค. หลังโดนม.44 - เจ้าตัวขอเคลียร์'บิ๊กต๊อก'
เผยข้อกล่าวหา ม.44 พักงาน 'ผอ.กองคดีปปง.' โดนสอบเรียกรับเงิน 20 ล.แลกช่วยผู้ถูกกล่าวคดีสกสค.พ้นผิด รายละเอียดโชว์หราหน้าเว็บ ป.ป.ช. -เจ้าตัวยันโดนแอบอ้างชื่อ ถูกคนบางกลุ่มใส่ร้าย เตรียมขอพบ รมว.ยุติธรรม ชี้แจงขอความเป็นธรรม ตั้งคกก.กลางขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริง
จากกรณี นายอภิชาต ถนอมทรัพย์ ผู้อํานวยการกองคดีสํานักงาน ปปง. ปรากฎรายชื่อเป็นหนึ่งใน ข้าราชการ หน่วยงานอื่นของรัฐ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 59 คน บัญชีลอตสาม ที่ถูกพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกคำสั่งใช้อำนาจ ม.44 ระงับการปฏิบัติราชการ เพื่อเข้าสู่กระบวนการสอบสวนข้อเท็จจริง
ขณะที่ สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันจากแหล่งข่าวจากศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ว่า เหตุผลสำคัญที่ทำให้นายอภิชาต ถนอมทรัพย์ ผู้อํานวยการกองคดีสํานักงาน ปปง. ถูกระงับการปฏิบัติหน้าที่ เพราะมีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่
(อ่านประกอบ : ‘บิ๊กตู่’ใช้ ม.44 ปลด ขรก.-นักการเมืองท้องถิ่นกราวรูด 59 คน-พ่วง 7 บอร์ด สสส., บริสุทธิ์จริงคืนตำแหน่งให้!ศอตช.แจงยิบเหตุชงปลด 'นักการเมือง-ขรก.-7สสส.')
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบฐานข้อมูลคดีที่อยู่ระหว่างการไต่สวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พบว่า มีการระบุชื่อ นายอภิชาติ ถนอมทรัพย์ เป็นผู้ถูกกล่าวหา ในคดีเรียกรับเงินสด จำนวน 20 ล้านบาท จากนายเกษม กลั่นยิ่ง และนายสุรเดช พรหมโชติ เพื่อช่วยเหลือให้พ้นผิด (ดูข้อมูลประกอบ)
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ในช่วงเย็นวันที่ 8 ก.ย.2559 ได้ติดต่อไปยัง นายอภิชาติ ถนอมทรัพย์ เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงคดีที่ถูกกล่าวหาดังกล่าว
นายอภิชาติ ยอมรับว่า การถูกกล่าวหากรณีนี้ เป็นสาเหตุที่ทำให้ตนถูกม.44 ระงับการปฏิบัติหน้าที่จริง อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าตนเองเป็นผู้บริสุทธิ์ และถูกใส่ร้ายจากคนบางกลุ่ม ที่ต้องการจะให้ตนออกไปพ้นทางจากคดีนี้
"มีคนเอาชื่อผมไปแอบอ้าง และไปเรียกรับเงินกัน แต่ผมไม่รู้เรื่องอะไรด้วย ทำคดีต่อไปตามหน้าที่ จนสุดท้ายก็มีคนมาให้การใส่ร้ายผม ทำให้ผมถูกสอบ แต่หลังจากเรื่องเกิดขึ้นไปสักระยะ พวกพยานที่เคยให้การใส่ร้ายผมก็กลับใจ มาขอโทษผม เอาดอกไม้ธูปเทียนมาไหว้ พร้อมเขียนยืนยันว่าผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย"
นายอภิชาติ ยังกล่าวด้วยว่า ในวันที่ 9 ก.ย.2559 จะเดินทางไปเข้าพบ พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงขอความเป็นธรรมคดีนี้อีกครั้ง และจะเสนอขอให้มีการตั้งคณะกรรมการกลางขึ้นมาตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเป็นทางการด้วย เพราะตนไม่เชื่อมั่นการตรวจสอบของหน่วยงานอื่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้เผยแพร่ความคืบหน้าการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีกล่าวหา นายสมศักดิ์ ตาไชย อดีตเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) กระทรวงศึกษาธิการ กับพวก รวม 5 คน ประกอบไปด้วย 1. นายเกษม กลั่นยิ่ง อดีตประธานที่ปรึกษาเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา , 2. นายสุรเดช พรมโชติ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ , 3. นายสุเทพ ริยาพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักสวัสดิภาพครู กระทรวงศึกษาธิการ , 4. นางมยุรี ตัณฑวัล ผู้อำนวยการกลุ่มการเงินและบัญชีฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ และ 5. นายสำเริง รัชตเศรษฐ์ กรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ทุจริตโดยอนุมัติเงินกองทุน ช.พ.ค. ให้กับ บจก. บิลเลี่ยน อินโนเท็ค กรุ๊ป โดยนายสัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา เป็นผู้กู้ยืมเป็นเงินจำนวน 2,100 ล้านบาท เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 56 ทั้งที่ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกองทุน และผู้กู้ยืมเงิน มีฐานะทางการเงินไม่มั่นคง รวมทั้งไม่มีหลักทรัพย์ประกัน ในการชำระหนี้แต่อย่างใด
โดยระบุว่าปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนการเชิญผู้กล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหา และชี้แจงข้อกล่าวหาเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์
ซึ่งก่อนหน้านั้น ในช่วงเดือนเมษายน 2558 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ลงนามในคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 7/2558 ให้คณะกรรมการคุรุสภา คณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครู และบุคลากรทางการศึกษา และคณะกรรมการบริหารองค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริม สวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่
พร้อมมีกระแสข่าวว่า นายเกษม กลั่นยิ่ง ได้ไปบวชอยู่ที่ วัดหนองโค้ง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
ขณะที่คนใกล้ชิดของ นายเกษม กลั่นยิ่ง เคยให้ข้อมูลกับสำนักข่าวอิศรา ว่า นายเกษม ไปบวชจริงและสึกออกมาแล้ว พร้อมยืนยันว่านายเกษม เป็นผู้บริสุทธิ์ และตลอดเวลาที่ผ่านมา ได้ทำงานและสร้างประโยชน์ให้กับ สกสค.อย่างมากมาย