คปสม. ค้านใช้ม.44 สร้างเชื่อนแม่วงก์ ชี้ขัดข้อตกลงการพัฒนาที่ยั่งยืน UN
เครือข่ายภาคประชาสังคมออกแถลงการณ์ ค้าน แนวคิด รมว.เกษตรฯ ใช้ ม.44 สร้างเขื่อนแม่วงก์ ชี้ขัดข้อตกลงการพัฒนาอย่างยั่งยืน ยูเอ็น ทั้งยังทำลายระบบนิเวศครั้งใหญ่
วันที่ 5 กันยายน 2559 เครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง(คปสม.) ออก แถลงการณ์ หยุดใช้มาตรา 44 ผลักดันสร้างเขื่อนแม่วงค์
สืบเนื่องจากกรณีที่ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้ให้สัมภาษณ์หลังลงพื้นที่ดูปริมาณน้ำเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก โดยมีแนวคิดจะใช้มาตรา 44 ในการผลักดันสร้างเขื่อนแม่วงก์ จังหวัดนครสวรรค์นั้น
คปสม. ระบุในแถลงการณ์ว่า เป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่งในใช้มาตราการดังกล่าวเนื่องจากเรื่องโครงการเขื่อนแม่วงค์ไม่ใช่เรื่องความผิดอันใด แต่เป็นเรื่องที่ต้องใช้เหตุและผลในการดำเนินการ อีกทั้งการเร่งรัดก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 โดยมิได้พิจารณาผลกระทบและทางเลือกจัดการน้ำอย่างรอบด้าน มีแต่จะทำให้เกิดความเสียหาย ต่อทรัพยากรธรรมชาติ และไม่มีทางเลือกในการจัดการน้ำ ซึ่งไปขัดแย้งกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งประเทศไทยไปลงนามรับรองไว้กับ สหประชาชาติ เครือข่ายฯ จึงขอคัดค้านการ ใช้ มาตรา 44 ผลักดัน เร่งรัด การก่อสร้างโครงการเขื่อนแม่วงก์ ด้วยเหตุผลดังนี้
1. ขัดต่อนโยบายรัฐบาล ในการรักษาผืนป่า และเพิ่มพื้นที่ป่าประเทศไทยที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพราะการสร้างเขื่อนแม่วงก์จะทำลายผืนป่าสมบูรณ์และป่าต้นน้ำในเขตอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ และผืนป่าตะวันตก
2. ขัดต่อข้อเสนอ 15 ข้อของมูลนิธิสืบ ที่ยื่นข้อเสนอทางออกการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง ในลุ่มน้ำแม่วงค์ ที่ได้ยื่นต่อ รมต.เกษตรและสหกรณ์ ไปแล้ว
3.ขัดต่อเจตนารมณ์ของข้อตกลง สหประชาชาติ “เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” SDGs ที่นายกรัฐมนตรีไปลงนามข้อตกลงทั้ง 17 เป้าหมาย
4.ขัดต่อหลักการรักษา ดูแล ปกป้องระบบนิเวศของผืนป่า ส่งผลให้ระบบบริหารจัดการทรัพยากรโดยธรรมชาติที่มีมายาวนาน ถูกทำลาย
ดังนั้นหากมีการนำ ม.44 มาใช้ผลักดันการสร้างเขื่อนแม่วงก์ จะเป็นการลำลายทรัพยากรธรรมชาติครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่งของประเทศไทย ด้วยมือรัฐบาล และอาจจะส่งผลกระทบไปสู่การใช้แนวทางเดียวกันกับโครงการอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับโครงการด้านสิ่งแวดล้อม ที่มีกรณีพิพาทระหว่างรัฐ และชาวบ้านทั่วประเทศ ซึ่งจะไม่ได้ใช้การตัดสินใจ ที่ยื่นอยู่บนเหตุและผลทางวิชาการ
เครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง (คปสม.) ขอคัดค้านแนวคิดของ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ที่จะใช้ ม. 44ในการผลักดันสร้างเขื่อนแม่วงก์
ทั้งนี้ เครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง(คปสม.) เป็นการรวมตัวกันตั้งแต่ปี 2549 โดยเครือข่ายประกอบด้วย 1)เครือข่ายชาวเล 2)เครือข่ายชนเผ่าฯ ภาคใต้ 3)เครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมืองจังหวัดพังงา 4)เครือข่ายผู้ประสบภัยสึนามิ 5)เครือข่ายสิทธิคนจนพัฒนาภูเก็ต 6)เครือข่ายการแก้ปัญหาคืนสัญชาติคนไทยพลัดถิ่น จังหวัดระนอง ประจวบฯ 7)เครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง จ.อุบล 8)เครือข่ายชุมชนจัดการภัยพิบัติ 9)สภาชนเผ่าพื้นเมืองภาคใต้ 10)เครือข่ายภัยพิบัติตำบลท่าหิน จ.สงขลา 11)เครือข่ายสิ่งแวดล้อมจังหวัดปทุมธานี 12)เครือข่ายรักอ่าวไทยตอนบนอ่าว ก. โดยทางเครือข่ายฯร่วมรับผิดชอบสังคมอย่างต่อเนื่อง ทั้งปัญหาที่ดินทำกิน ปัญหาสิทธิสถานะบุคล ปัญหาสิทธิมนุษยชน ปัญหาผู้ได้รับผลกระทบจากการละเมิดสิทธิชุมชน จากทุกกรณี เราเป็นชุมชนที่ร่วมกันสร้างทางเลือกใหม่ กับสังคมเช่น ชุมชนจัดการภัยพิบัติ ชุมชนจัดการทรัพยากร ชุมชนจัดการเศรษฐกิจชุมชน กลุ่มออมทรัพย์ และเสนอต่อสังคมสาธารณะเพื่อเกิดทางเลือกใหม่ๆ
ขอบคุณภาพประกอบจากhttp://www.guitarthai.com/picpost/gtpicpost/A3004096.jpg