พลิกแผ่นดินล่า "รถส่งนม" ทำคลิป 2 ภาษาให้ชาวบ้านแจ้งเบาะแส
สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ปั่นป่วนตั้งเมื่อวันอังคารที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากมีคนร้ายปล้นรถส่งนมโรงเรียนที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่เกรงว่าจะถูกนำไปติดตั้งระเบิด และก่อเหตุคาร์บอมบ์ซ้ำในช่วงนี้
ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ถึงขนาดจัดทำคลิปประชาสัมพันธ์ขึ้นเป็น 2 ภาษา คือทั้งภาษาไทย และภาษามลายูถิ่น เพื่อเผยแพร่ไปตามช่องทางต่างๆ โดยเฉพาะสื่อสังคมออนไลน์ ให้ประชาชนช่วยกันแจ้งเบาะแสรถส่งนมที่ถูกปล้น
เหตุปล้นรถส่งนม เกิดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ 30 ส.ค.59 ซึ่งเป็นช่วงก่อนถึงวันชาติมาเลเซีย และวันสถาปนาขบวนการเบอร์ซาตูในวันพุธที่ 31 ส.ค.เพียง 1 วัน โดยเมื่อ 4 ปีก่อน เคยมีคนร้ายสร้างสถานการณ์ด้วยการแขวนธงชาติมาเลเซียมากกว่า 300 จุดมาแล้ว ทำให้เจ้าหน้าที่มีการแจ้งเตือนให้เฝ้าระวังอย่างเข้มงวด ประกอบกับช่วงนี้เป็นช่วงใกล้ถึงวันนัดพบปะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ระหว่างคณะพูดคุยของรัฐบาลไทยกับกลุ่มมารา ปาตานี ที่ประเทศมาเลเซีย ในวันศุกร์ที่ 2 ก.ย.ทำให้บรรยากาศในพื้นที่เป็นไปอย่างตึงเครียด
โดยรถส่งนมที่ถูกคนร้ายปล้น เป็นรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมกซ์ สีเทา ต่อเติมด้านหลังเป็นห้องเย็นเพื่อเก็บนม ติดแผ่นป้ายทะเบียน บธ 1426 ปัตตานี เหตุเกิดหลังจาก นายอับดุลมากา มาลายา คนขับรถ ได้ขับรถเข้าไปส่งนมที่โรงเรียนบ้านชะเมาสามต้น อ.สายบุรี จ.ปัตตานี จากนั้นขณะขับรถออกจากโรงเรียน ปรากฏว่าถูกคนร้าย 6 คนอาวุธครบมือ ดักปล้นรถที่หน้าประตูโรงเรียน แล้วขับหลบหนีไป
หลังรถถูกปล้น เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยได้พยายามประสานเพื่อสกัดจับรถคันดังกล่าว โดยมีการนำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินไล่ล่า 3 ลำ และจัดชุดซุ่มสังเกตการณ์ ชุดลาดตระเวนเดินเท้าเพื่อติดตามทุกพื้นที่
สาเหตุที่ฝ่ายความมั่นคงต้องเร่งติดตามรถส่งนมที่ถูกปล้น เพราะเกรงว่าคนร้ายจะนำไปทำคาร์บอมบ์เหมือนที่หน้าโรงแรมเซาท์เทิร์น วิว อ.เมืองปัตตานี เมื่อคืนวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการปล้นรถโรงพยาบาลปะกาฮะรังไปติดตั้งระเบิด แล้วนำไปก่อเหตุทันทีในวันเดียวกัน โดยวิธีการเช่นนี้ คนร้ายนิยมทำในระยะหลัง เพราะสามารถหลุดรอดด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ได้ง่าย
มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่พบรถส่งนมขับผ่านกล้องวงจรปิดด้วยความเร็วสูง บริเวณแยกลำภู อ.เมืองนราธิวาส มุ่งหน้าอำเภอตากใบ จ.นราธิวาส แต่ยังตามรถไม่พบ มีการตั้งรางวัลให้กับผู้แจ้งเบาะแสถึง 1 แสนบาท และล่าสุด นายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องลงพื้นที่ อ.สายบุรี เพื่อกำชับเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยให้เร่งติดตามรถส่งนมให้ได้
มีรายงานด้วยว่า มาตรการไล่ล่ารถส่งนมอย่างเข้มข้นของเจ้าหน้าที่ ส่งผลกระทบกับรถส่งนมคันอื่นๆ ที่ยังต้องเข้าพื้นที่ส่งนมให้กับโรงเรียนต่างๆ ตามปกติ โดยโชเฟอร์รถบางคันเล่าว่า ใน 1 วันต้องถูกเรียกตรวจตามจุดต่างๆ มากกว่า 50 ครั้ง เพราะสงสัยว่าเป็นรถส่งนมคันที่ถูกปล้น
บึ้มทหารพรานไร้เจ็บ-ยิงถล่มกำนันตาแกะ
ด้านเหตุรุนแรงในพื้นที่นอกจากคาร์บอมบ์ใหญ่ที่หน้าโรงแรมเซาท์เทิร์น วิว อ.เมืองปัตตานี เมื่อวันที่ 23 ส.ค. ก็ยังมีเหตุอื่นบ้างประปราย
โดยเมื่อเวลาประมาณ 13.40 น.วันพุธที่ 31 ส.ค. คนร้ายลอบวางระเบิดชุดลาดตระเวนของทหารพราน หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 ขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่ในท้องที่หมู่ 8 บ้านกูแบปูยู ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นการวางแบบเร่งด่วน แรงระเบิดไม่ได้ทำอันตรายให้กับกำลังพล
ก่อนหน้านั้นเมื่อวันเสาร์ที่ 27 ส.ค.เวลา 07.30 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวน มีรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ 4 ประตู สีบรอนซ์ทองเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่ม นายอับดุลเลาะ ซีเดะ อายุ 56 ปี กำนัน ต.ตาแกะ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ขณะกำลังนั่งดื่มน้ำชาอยู่ในหมู่บ้านใน ต.ตาแกะ ทำให้นายอับดุลเลาะเสียชีวิตคาที่ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 ป้ายประชาสัมพันธ์เฝ้าระวังรถส่งนมที่ถูกปล้น
2 กล้องวงจรปิดจับภาพได้ขณะขับหลบหนีอยู่ในพื้ที่
3-5 เจ้าหน้าที่ตรวจเข้มรถส่งนมทุกคัน
ขอบคุณ : เจ้าหน้าที่ ศอ.บต.และฝ่ายความมั่นคง เอื้อเฟื้อภาพประกอบ