จนท.ที่ดินแจงไม่มีผล ปย.!ปมบ้านหรูบนเขา‘นักวิชาการ’ตระกูลดัง ยังไม่ถูกรื้อถอน
เจ้าพนักงานที่ดิน แจงไม่มีผลประโยชน์ ปมบ้านหรูเชิงเขา อ่าวทุ่งทราย อ.ปะทิว จ.ชุมพร‘นักวิชาการ’ตระกูลดัง หลังถูกกรมที่ดินเพิกถอนโฉนดตั้งแต่ปี 48 แต่ยังไม่ถูกรื้อถอน รอ กก.สอบข้อเท็จจริงชุดผู้ว่าฯ เปิดแผนที่แนบท้ายประกาศสงวนหวงห้ามปี 30 รอพิสูจน์อยู่ในเขตหรือไม่
กรณีปัญหาบ้านพักตากอากาศของนักวิชาการชื่อดังบนเชิงเขา อ่างทุ่งทราย หมู่ 3 ต.ปากคลอง อ.ปะทิว จ.ชุมพร มูลค่านับร้อยล้านบาทซึ่งถูกกรมที่ดินมีคำสั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิ์เป็นเวลากว่าสิบปีแต่ทว่าปัจจุบันยังไม่ถูกรื้อถอนซึ่งตกเป็นข่าวก่อนหน้านี้ (อ่านประกอบ: เล่าฉากหลัง กรณี 'บ้านหรูบนเขา' อ่าวทุ่งทราย อ.ปะทิว)
ล่าสุด นายทะนง รุ่งเรือง เจ้าพนักงานที่ดินสาขาอำเภอปะทิว เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranewsorg ว่า กรณีดังกล่าวผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรได้ตั้งคณะกรรมการะดับจังหวัดขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริง ปัจจุบันอยู่ระหว่างสอบสวนข้อเท็จจริง
นายทะนง เปิดผยว่า กรณีนี้อธิบดีกรมที่ดินได้มีคำสั่งเพิกถอนโฉนดเจ้าของที่ดินเมื่อปี 2548 เหตุผล คือ ส.ค 1 จำนวน 3 แปลงที่ผู้ขอออก น.ส.3 ก. เป็น ส.ค.1 ที่ไม่ถูกต้อง ฉะนั้นเมื่อ น.ส.3 ก.ออกไม่ถูกต้อง แล้วนำมาออกโฉนดก็เป็นโฉนดที่ไม่ถูกต้องตามไปด้วย ต่อมาปี 2549 เจ้าของที่ดินได้ยื่นฟ้องศาลปกครองนครศรีธรรมราช มีอธิบดีกรมที่ดินเป็นผู้ถูกร้อง เป็นคดีพิพาท ออกคำสั่งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ปรากฎว่า ปี 2552 ศาลยกคำร้อง ต่อมาผู้ฟ้องได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดและศาลปกครองสูงสุดได้ยกคำร้องเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่ออธิบดีกรมที่ดินสั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ในปี 2548 เหตุใดจึงไม่มีรื้อถอนบ้านหลังดังกล่าว?
นายทะนง ตอบว่า เนื่องจากไม่แน่ชัดว่าที่ดินตั้งอยู่ในพื้นที่สาธารณะหรือไม่ อีกทั้งคำสั่งเพิกถอนของกรมที่ดินก็มิได้ระบุว่าที่ดินตั้งอยู่บนที่สาธารณะ คำสั่งเพิกถอนระบุเพียงว่าเอกสารสิทธิ์ออกโดยมิชอบ และเจ้าของที่ดินได้อ้างสิทธิครอบครองต่อเนื่องอีกและเพื่อจะดำเนินการขอออกเอกสารสิทธิ์ใหม่ ต่อมามีชาวบ้านขอให้ตรวจสอบพื้นที่สาธารณะแปลงบริเวณหมู่ 3 จากเดิมมีอยู่กว่า 565 ไร่ พบว่ามีเพียง 100 ไร่ พอช่างรังวัดจะเข้าไปรังวัดในพื้นที่แต่เข้าพื้นที่ไม่ได้เนื่องจากถูกล้อมรั้ว จึงไปร้องให้เจ้าหน้าที่ทหารเข้ามาตรวจสอบ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าที่ดินแปลงนี้อยู่ในพื้นที่สาธารณะพลเมืองใช้ร่วมกันหรือไม่ ขึ้นอยู่กับหลักฐาน
“ผมมารับตำแหน่งเมื่อเดือนสิงหาคม 2558 ยืนยันว่าปฏิบัติหน้าที่ตรงไปตรงมา ผิดก็ว่าไปตามผิด ขึ้นอยู่กับหลักฐาน”นายทะนงกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนถูกเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ ที่ดินของนักวิชาการสกุลดังรายนี้เป็น น.ส.3 .ก 2 แปลง แปลงแรก เลขที่ 1472 เนื้อที่ 8-0- 83 ไร่ ออกมาจาก ส.ค.1 จำนวน 3 ใบ ได้แก่ เลขที่ 13, 125 และ 124 อ้างว่าได้ซื้อที่ดินและครอบครองทำประโยชน์โดยการปลูกมะม่วงหิมพานต์และปาล์มน้ำมันมาตั้งแต่ปี 2531 ยื่นขอออก น.ส. 3 ก.เมื่อ วันที่ 21 ม.ค.2545 อีกแปลง น.ส.3 ก.เลขที่ 1743 เนื้อที่ 9-3-73 ไร่ เป็น ส.ค.1 จากที่ดินแปลงอื่น
ผู้สื่อข่าวตรวจสอบพบว่า คณะกรรมการจัดรูปที่ดินแห่งชาติ เมื่อวันที่ 10 ก.พ.2530 ได้ประกาศให้ที่ดินหมู่ 3 ต.ปากคลอง อ.ปะทิว จ.ชุมพร (แปลงที่ 4) เนื้อที่ 565 ไร่ 3 งาน เป็นที่ดินสงวนหวงห้ามเพื่อประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งแผนที่แนวท้ายของประกาศดังกล่าวระบุทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันตก จดที่ดินที่มีการครอบครอง ส่วนทิศตะวันออกระบุจดทะเล