ผบ.ทบ.ส่อพลิก! "บิ๊กเจี๊ยบ" ลุ้นแซง - "บิ๊กแดง" จ่อแม่ทัพ 1
ข่าวโผทหารพลิก โดยเฉพาะตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง
สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะ ผบ.ทบ.คนต่อไปนี้ จะดำรงตำแหน่งในช่วงคาบเกี่ยวของการเปลี่ยนผ่านทางการเมือง
ขณะที่ในประวัติศาสตร์การเมืองไทยสมัยใหม่ (ยุคประชาธิปไตย) มีเพียง ผบ.ทบ.คนเดียวเท่านั้นที่มีพลังอำนาจพอสำหรับการปฏิวัติรัฐประหาร
แม้กองทัพอื่นจะพยายามปฏิวัติ แต่หาก ผบ.ทบ.ไม่เอาด้วย ก็ยากจะสำเร็จ
ปีนี้ แคนดิเดต ผบ.ทบ.คนใหม่มีอยู่ 2 คน ทีแรกคิดว่าไม่มีอะไรลุ้น แต่หลังๆ เริ่มมีข่าวโผพลิก
เบื้องต้นมาทำความรู้จักก่อนว่าแคนดิเดต 2 คนมีใครกันบ้าง
คนแรก เคยเป็นเต็ง 1 มาก่อน คือ พล.อ.พิสิทธิ์ สิทธิสาร หรือ “บิ๊กแกละ” เสนาธิการทหารบก (เสธ.ทบ.) นักเรียนเตรียมทหารรุ่น 17 (ตท.17) มีความใกล้ชิดสนิทสนมกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม อย่างมาก โดยเฉพาะการที่ พล.อ.พิสิทธิ์ เป็นลูกเขยของ พล.อ.นิพนธ์ ภารัณนิตย์ อดีตผู้บังคับบัญชาของ พล.อ.ประวิตร ที่เรียกกันว่า “บิ๊กบราเธอร์บูรพาพยัคฆ์” ด้วย ทำให้ทั้งคู่สนิทแนบแน่นกันเป็นพิเศษ
คนที่สอง กำลังมาแรง และมีสิทธิ์แซงโค้ง คือ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท หรือ “บิ๊กเจี๊ยบ” ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก (ผช.ผบ.ทบ.) คนนี้เป็นนายทหารรบพิเศษ มีความใกล้ชิดกับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรีและอดีตนายกรัฐมนตรี
มีข่าวว่า พลเอกเฉลิมชัย มาแรงเพราะได้แรงหนุนจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีด้วย
การตัดสินใจเลือกใครในสองคนนี้เป็น ผบ.ทบ. จะส่งผลทางการเมืองแตกต่างกัน
หากเลือก พล.อ.พิสิทธิ์ หรือบิ๊กแกละ ก็จะเกิดการเลื่อนไหลในกองทัพ เพราะเหลืออายุราชการอีกเพียง 1 ปี เมื่อถึงปีหน้าก็จะสามารถผลักดันให้ พล.ท.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ หรือ "บิ๊กเข้" ปัจจุบันเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ขึ้นเป็น ผบ.ทบ.คนต่อไปได้ ซึ่ง พล.ท.เทพพงศ์ เป็นน้องรักของทั้ง พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ประยุทธ์
นอกจากนั้น พล.อ.พิสิทธิ์ เองยังเป็นนายทหารผู้มีคุณสมบัติพิเศษ เพราะเคยเป็นผู้บัญชาการมาแล้วทั้ง 2 กองพลสำคัญ คือ กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.2 รอ. – บูรพาพยัคฆ์) และกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (พล.1 รอ. – วงศ์เทวัญ) จึงถูกมองว่าเป็นลูกผสมบูรพาพยัคฆ์-วงศ์เทวัญ แม้จะเป็นน้องรักของ “บิ๊กป้อม” ก็คงมีข้อครหาว่าบูรพาพยัคฆ์ยึดเก้าอี้ ผบ.ทบ.มาหลายปีลงได้บ้าง
แต่หากเลือก พล.อ.เฉลิมชัย หรือ “บิ๊กเจี๊ยบ” จะมีปัญหาเรื่อง ผบ.ทบ.คนต่อไป เพราะ พล.อ.เฉลิมชัย แม้จะเป็นเตรียมทหารรุ่น 16 แต่เหลืออายุราชการ 2 ปี หากดำรงตำแหน่งต่อเนื่อง เมื่อรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ ก็จะได้นั่งเก้าอี้สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โดยตำแหน่งด้วย
การนั่งเก้าอี้ ผบ.ทบ.ปีที่ 2 ของ พล.อ.เฉลิมชัย หากได้รับแต่งตั้งในปีนี้ จะอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านทางการเมืองพอดี มีการเลือกตั้ง มี ส.ว.สรรหาที่มีสิทธิ์โหวตเลือกนายกฯ จึงต้องวัดใจว่าทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร จะตัดสินใจให้ พล.อ.เฉลิมชัย ซึ่งไม่ใช่นายทหารสายบูรพาพยัคฆ์ ขึ้นดำรงตำแหน่งหรือไม่ หรือจะออกทางสายกลาง คือทำสัญญาลูกผู้ชายให้นั่งเก้าอี้แค่ปีเดียว ก่อนดันขึ้นผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) เปิดทางให้ พล.ท.เทพพงศ์ นายทหารสายบูรพาพยัคฆ์แท้ ได้นั่งเก้าอี้ ผบ.ทบ.ช่วงเปลี่ยนผ่านการเมือง ซึ่งแน่นอนว่าทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร คงเบาใจได้เป็นพิเศษ
ดูจากปูมหลัง เส้นทาง และการเลื่อนไหล จะเห็นได้ว่า พล.อ.พิสิทธิ์ ดูมีภาษีกว่ามาก โดยเฉพาะการสนิทแนบแน่นกับ “บิ๊กป้อม” พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ที่แม้แต่นายกฯยังต้องเกรงใจ
แต่ชื่อ พล.อ.เฉลิมชัย มาแรง เพราะนายกฯประยุทธ์ ออกโรงสนับสนุนด้วยตัวเอง เนื่องจากเป็นที่รู้กันดีว่าหากพิจารณาที่ “ชื่อ-ชั้น” และ “ฝีมือ” แล้ว พล.อ.เฉลิมชัย ดูดีกว่ามาก นายกฯจึงต้องการใช้งานในช่วงที่บ้านเมืองส่อเค้าวุ่นวาย
ระเบิดป่วน 7 จังหวัดหลังประชามติร่างรัฐธรรมนูญ คือตัวอย่าง (เลว) ที่ดี และว่ากันว่า พล.อ.เฉลิมชัย มามีลุ้นจริงจังก็หลังจากสิ้นเสียงระเบิดนี่แหละ เพราะสถานการณ์ไว้วางใจไม่ได้อีกแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น หากให้ พล.อ.เฉลิมชัย มานั่ง ผบ.ทบ.คั่น ไม่ว่าจะ 1 หรือ 2 ปีก็ตาม ก็จะลบข้อครหาที่ว่าบูรพาพยัคฆ์ยึดครองเก้าอี้ ผบ.ทบ.ไปได้ เนื่องจาก “บิ๊กเจี๊ยบ” คือนายทหารรบพิเศษตัวจริง
ขณะที่ พล.อ.พิสิทธิ์ ข่าวว่านายกฯไม่ค่อยชอบ และเคยมีเรื่องไม่ค่อยเป็นบวกนักสมัยดำรงตำแหน่งผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสด้วย
การเลือก ผบ.ทบ.หนนี้ จึงเป็นโจทย์ที่ท้าทายผู้มีอำนาจอย่างแท้จริง!
อีกหนึ่งตำแหน่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ เก้าอี้แม่ทัพภาคที่ 1 เพราะคุมกำลังหลักในพื้นที่ภาคกลาง และดูแลสถานที่สำคัญของบ้านเมือง
แคนดิเดตเบื้องต้นมี 3 คน คือด้วยกัน คือ “บิ๊กตู่” หรือ “ตู่น้อย” พล.ต.กู้เกียรติ ศรีนาคา รองแม่ทัพภาคที่ 1 น้องรักของ พล.อ.ประวิตร “บิ๊กแดง” พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพน้อยที่ 1 ซึ่งมีแบ็คอัพใหญ่ระดับนายกรัฐมนตรีสนับสนุน และสุดท้ายคือ พล.ท.ณัฐ อินทรเจริญ น้องรักอีกคนหนึ่งของ พล.อ.ประวิตร ซึ่งทั้ง 3 คนล้วนเป็นเพื่อนเตรียมทหารรุ่น 20 ด้วยกัน
แต่แคนดิเดตที่มาแรงจริงๆ มีเพียง “บิ๊กตู่ (น้อย)” กับ “บิ๊กแดง”
จะว่าไปใครจะได้นั่งแม่ทัพภาคที่ 1 อาจต้องดูว่า ผบ.ทบ.คนใหม่เป็นใครดเวย เพราะต้องทำงานเข้าขากัน ฉะนั้นหาก “บิ๊กแกละ” คุมทัพบก โอกาสที่ “บิ๊กตู่ – พล.ต.กู้เกียรติ” จะได้เป็นแม่ทัพก็มีสูง เพราะลึกๆ แล้ว หลายคนรู้ดีว่า “บิ๊กแกละ” ไม่ค่อยกินเส้นกับ “บิ๊กแดง” หรือ พล.ท.อภิรัชต์ ทายาทของ “บิ๊กจ๊อด” พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ เจ้าของฉายานายพลเสื้อคับผู้โด่งดังในอดีต
แต่หาก “บิ๊กเจี๊ยบ- พล.อ.เฉลิมชัย” ได้คุมทัพบก โอกาสของ “บิ๊กตู่ – พล.ต.กู้เกียรติ” และ “บิ๊กแดง – พล.ท.อภิรัชต์” ก็สูสีกัน สุดท้ายต้องไปดูว่า รัฐมนตรีกลาโหม กับนายกฯ จะเลือกใคร
แต่ต้องไม่ลืมว่าตั้งแต่ คสช.เข้ายึดอำนาจ บทบาทของ พล.ท.อภิรัชต์ จัดว่าโดดเด่น เพราะได้รับมอบงานสำคัญๆ ไปทำมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะประธานบอร์ดกองสลากแก้หวยแพง!
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : (ซ้าย) พล.อ.พิสิทธิ์ (ขวา) พล.อ.เฉลิมชัย