เปิดข้อมูลใหม่! คดีซ่อมรถน้ำท่วมปี54 หจก.ฟ้องเทศบาลบางบัวทอง เบี้ยวค่าจ้าง7.1ล.
เปิดข้อมูลชุดใหม่! คดีซ่อมรถยนต์น้ำท่วมปี 2554 อิศรา ตรวจสอบพบ 'หจก.ชัยธนาพรกลการ' เคยฟ้องร้อง เทศบาลเมืองบางบัวทอง-นายกเทศมนตรี' ค้างชำระเงินค่าเงิน ช่วงปี 2556 กว่า 7.1 ล้าน หลังท้วงถามแล้วไม่ยอมจ่าย ขณะที่ฝ่ายจำเลยให้การ ไม่เคยตกลงว่าจ้าง แค่ให้ประมาณราคาค่าซ่อม
จากกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อยู่ระหว่างการตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีกล่าวหา นายอาวุธ เจริญนนทสิทธิ์ นายกเทศมนตรีเมืองบางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี กับพวกจำนวน 18 ราย กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือ กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ โดยการให้ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) ชัยธนาพรกลการ ซ่อมรถยนต์ของเทศบาลเมืองบางบัวทอง ที่เสียหายจากน้ำท่วมเมื่อปี 2554 ก่อนที่จะมีการทำเอกสารหลักฐานจัดจ้างตามระเบียบของทางราชการ และบางรายการไม่มีการซ่อมแซมจริง ทำให้เทศบาลบางบัวทองได้รับความเสียหาย
ขณะที่ นายอาวุธ นายกเทศมนตรีเมืองบางบัวทอง ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า การซ่อมรถยนต์ของเทศบาลเมืองบางบัวทอง ที่เสียหายจากน้ำท่วมเมื่อปี 2554 เป็นการปฏิบัติงานตามนโยบายของผู้ว่าราชการจ.นนทบุรี ที่ต้องการให้หน่วยงานราชการในจังหวัด รีบดำเนินการซ่อมแซมทรัพย์สินของทางราชการที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม กลับมาใช้งานได้ตามปกติ ส่วนขั้นตอนการดำเนินงานต่างๆ นั้น เป็นเรื่องที่อยู่ในความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ ไม่มีปัญหาตามที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด
(อ่านประกอบ : ป.ป.ช.โชว์คำสั่งไต่สวน นายกเล็กบางบัวทอง-พวก18ราย คดีทุจริตซ่อมรถน้ำท่วมปี 54, พร้อมแจงป.ป.ช.! นายกเล็กบางบัวทอง ยันซ่อมรถน้ำท่วม 49 คัน ทำตามนโยบายผู้ว่าฯ)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบข้อมูลใหม่ว่า ในช่วงปี 2556 หจก.ชัยธนาพรกลการ เคยเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง เทศบาลเมืองบางบัวทอง เป็นจำเลยที่ 1 นายอาวุธ เจริญนนทสิทธิ์ จำเลยที่ 2 ต่อศาลจังหวัดนนทบุรี เป็นคดีหมายเลขดำที่ ผบ. 2631/2556 ให้ชำระหนี้คงค้างจากการ ซ่อมรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมปี 2554 จำนวน 59 คัน เป็นจำนวนเงิน 7,122,568.20 บาท
ปรากฎข้อมูลคดีตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาลตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล พ.ศ. 2542 มาตรา 10 วรรคหนึ่ง (3) ซึ่งเป็นกรณีคู่ความฝ่ายที่ถูกฟ้องโต้แย้งเขตอำนาจศาลที่รับฟ้องคดี โดยเบื้องต้นคณะกรรมการมีคำวินิจฉัยชี้ขาดว่า คดีนี้อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม
ระบุข้อเท็จจริงในคดีว่า เมื่อวันที่ 12 พ.ย.2554 เทศบาลเมืองบางบัวทองจำเลยที่ 1 นายอาวุธ เจริญนนทสิทธิ์ จำเลยที่ 2 ได้ตกลงว่าจ้างโจทก์ซ่อมรถยนต์ของจำเลยที่ 1 ซึ่งได้รับความเสียหายจากอุทกภัย รวม 59 คัน แต่ในขณะนั้นอู่ซ่อมรถยนต์ของโจทก์ถูกน้ำท่วมเช่นกัน โจทก์ได้เช่าที่ดินของบุคคลภายนอกเพื่อใช้เป็นพื้นที่ในการซ่อมรถยนต์ดังกล่าว มีกำหนดระยะเวลา 3 เดือน เป็นเงิน 210,000 บาท
จากนั้น โจทก์ ได้ว่าจ้างนายนันท์ เทศแก้ว เป็นผู้ดำเนินการเคลื่อนย้ายรถยนต์รวม 59 คัน มาไว้ยังพื้นที่ดังกล่าว และดำเนินการซ่อมรถยนต์ทั้ง 59 คัน รวมเป็นเงินค่าซ่อมและบำรุงรักษาทั้งสิ้น จำนวน 7,469,209.90 บาท และส่งมอบรถยนต์คันแรกให้แก่จำเลยที่ 1 เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2554 และส่งมอบรถยนต์คันสุดท้ายเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2555 ซึ่งจำเลยทั้งสองได้ชำระค่าซ่อมและค่าบำรุงรักษาให้แก่โจทก์บางส่วนรวมเป็นเงิน 356,614.70 บาท คงเหลือยอดหนี้ค้างชำระเป็นเงิน 7,112,568.20 บาท
ต่อมาโจทก์ได้ทวงถามให้จำเลยทั้งสองชำระหนี้ดังกล่าว แต่จำเลยทั้งสองเพิกเฉย ขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยทั้งสองชำระค่าเช่าที่ดิน ค่าซ่อมและบำรุงรักษารถยนต์พร้อมดอกเบี้ยให้แก่โจทก์
สำหรับรถยนต์ของเทศบาลเมืองบางบัวทอง จำนวน 59 ที่ หจก.หจก.ชัยธนาพรกลการ ซึ่งปรากฎอยู่ในข้อมูลการฟ้องร้องคดี ประกอบด้วย รถกระบะ รถเก็บขยะ รถเก็บขนขยะ(รถอุโมงค์) รถเก็บขนขยะ(รถกระโปรง) รถเก็บขนขยะ(รถดั๊ม) รถสุขาเคลื่อนที่ รถดูดสิ่งปฏิกูล รถลอกท่อระบายน้ำ รถกระบะตรวจงาน รถตักหน้าขุดหลัง รถฉีดพ่นยากันยุง รถตู้พยาบาล รถกระบะหางเหยี่ยว รถบรรทุกดั๊ม รถเทลเลอร์ รถบรรทุกน้ำ รถกระเช้า รถดั๊ม รถบรรทุกไดน่า รถแทร็คเตอร์ รถดับเพลิง รถบรรทุกน้ำ(ดับเพลิง) รถกู้ภัย รถปิ๊กอัพกู้ภัย(กระบะตรวจการ) รถปิ๊กอัพสองตอน(กระบะ) รถกระบะดั๊มเทศกิจ และรถตู้ (อ่านคำวินิจฉัยฉบับเต็ม ที่นี่)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบคำวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาลในคดีนี้ พบว่า มีการระบุคำให้การของจำเลยทั้งสอง ว่า ไม่เคยตกลงว่าจ้างโจทก์ให้ซ่อมรถยนต์ของจำเลยที่ 1 ซึ่งได้รับความเสียหายจากเหตุอุทกภัย เพียงแต่ให้โจทก์ประมาณราคาค่าซ่อมเพื่อจะได้ดำเนินการจัดจ้างโดยวิธีการพิเศษตามระเบียบต่อไป
"การที่โจทก์มิได้แจ้งประมาณราคา แต่กลับซ่อมรถยนต์จนแล้วเสร็จ จึงเป็นการดำเนินการโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่ได้รับความยินยอมจากจำเลยที่ 1 จำเลยทั้งสองจึงไม่ต้องรับผิดชำระหนี้ สัญญาจ้างทำของระหว่างโจทก์กับจำเลยทั้งสองยังไม่เกิดขึ้น จำเลยทั้งสองไม่ได้เป็นผู้ว่าจ้างโจทก์ โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยทั้งสองรับผิดตามสัญญาเช่าที่ดินที่จำเลยทั้งสองมิได้เป็นคู่สัญญาหรือมีนิติสัมพันธ์ใดๆ อีกทั้งที่ดินที่โจทก์เช่าดังกล่าวเป็นการเช่าสถานที่สำหรับใช้ทำงานของโจทก์ให้สำเร็จ เป็นหน้าที่ของผู้รับจ้างต้องเป็นผู้จัดหา จำเลยทั้งสองจึงไม่ต้องรับผิด"
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า คำให้การของ เทศบาลเมืองบางบัวทอง จำเลยที่ 1 และ นายอาวุธ จำเลยที่ 2 เป็นข้อมูลใหม่ที่เพิ่ม จากพฤติการณ์ข้อกล่าวหาของ ป.ป.ช. ที่ระบุว่า นายอาวุธ ได้สั่งการด้วยวาจาให้ หจก.ชัยธนาพรกลการ ซึ่งมี นาย กิตติ์ธนา ธนกรมนพร เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ ให้ลากจูงรถยนต์ของเทศบาลเมืองบางบัวทองซึ่งเสียหายจากถูกน้ำท่วมไปซ่อมแซม และนายอาวุธ เป็นผู้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองบางบัวทอง แต่ละกองหรือสำนักจัดทำเอกสารเกี่ยวกับการจัดจ้างซ่อมแซมรถยนต์ของเทศบาลเมืองบางบัวทองที่เสียหายเนื่องจากน้ำท่วม
(อ่านประกอบ :พฤติการณ์ 'นายกเล็กบางบัวทอง-พวก18ราย คดีซ่อมรถน้ำท่วมปี 54 ชั้นไต่สวนป.ป.ช.)
รวมถึงข้อมูลที่นายอาวุธ เคยให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ว่า ขั้นตอนการดำเนินการต่างๆ เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ ตนเองไม่ทราบรายละเอียด
ขณะที่ สำนักข่าวอิศรา ได้สอบถามนายอาวุธ ถึงการฟ้องร้องคดีระหว่าง หจก.ชัยธนาพรกลการ กับ เทศบาลเมืองบางบัวทอง เรื่องค่าจ้างในการซ่อมแซมรถยนต์ดังกล่าว
นายอาวุธ ยอมรับว่า เคยมีการฟ้องร้องคดีจริง แต่สุดท้ายเทศบาลเมืองบางบัวทอง ก็ได้จ่ายเงินให้กับ หจก.ฯ ไปหมดแล้ว แต่จำรายละเอียดไม่ได้
อ่านประกอบ :
ป.ป.ช.โชว์คำสั่งไต่สวน นายกเล็กบางบัวทอง-พวก18ราย คดีทุจริตซ่อมรถน้ำท่วมปี 54
ยันบริสุทธิ์ไม่หนีคดี! จนท.พัสดุบางบัวทอง แจงรับคำสั่งไต่สวนซ่อมรถน้ำท่วมแล้ว