ถาม "พล.อ.สำเร็จ" เจ้าทฤษฎีบีอาร์เอ็น...ให้กี่เปอร์เซ็นต์ไฟใต้ขยายพื้นที่
ยังคงเป็นประเด็นถกเถียงกันแทบทุกวงสนทนาว่าเหตุระเบิดใน 7 จังหวัดภาคใต้เป็นฝีมือใครกันแน่
ผ่าน 1 สัปดาห์หลังเกิดระเบิด หลักฐานที่พบเริ่มชัดขึ้นว่ามีคนจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ร่วมขบวน ทำให้น้ำหนักของกลุ่มที่ออกมาวิเคราะห์ว่าเป็นฝีมือของ “บีอารเอ็น” ขยายพื้นที่ปฏิบัติการออกนอก 3 จังหวัดและ 4 อำเภอของสงขลา เริ่มมากขึ้น
แต่ก็มีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่เชื่อว่า กลุ่มติดอาวุธหรือนิยมความรุนแรงจากสามจังหวัด อาจรับจ้างกลุ่มการเมืองหรือกลุ่มผู้เสียผลประโยชน์จากนโยบายรัฐบาล แล้วปฏิบัติการระเบิดปูพรม
เพราะพื้นที่เกิดเหตุ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน ล้วนมีนัยทางการเมือง!
พูดถึงขบวนการบีอาร์เอ็น กลุ่มติดอาวุธที่ฝ่ายความมั่นคงไทยเชื่อว่ามีบทบาทสูงสุดในสถานการณ์ความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้ตลอด 12 ปีที่ผ่านมา ต้องบอกว่านายทหารท่านหนึ่งที่รู้เรื่องบีอารเอ็นเป็นอย่างดี เพราะเคยอยู่ในพื้นที่ และเขียนหนังสือเอาไว้หลายเล่ม จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “เจ้าทฤษฎีบีอาร์เอ็น” ก็คือ พล.อ.สำเร็จ ศรีหร่าย อดีตรองแม่ทัพภาคที่ 4
พล.อ.สำเร็จ เป็นตัวจริงทั้งในสนามรบ และสนามความคิด เขาคืออดีตนายทหารรบพิเศษที่ได้รับการยอมรับอย่างสูงในวงการ และเมื่อหันมารับผิดชอบภารกิจดับไฟใต้ ก็ศึกษาโครงสร้างของขบวนการก่อความไม่สงบอย่างจริงจัง ดึงกองกำลังฝ่ายที่ต่อสู้กับรัฐให้มาอยู่กับรัฐมากมาย และได้ถ่ายทอดออกมาเป็นหนังสือให้น้องๆ ที่ยังต้องรับผิดชอบงานสนามภาคใต้ได้ศึกษาเรียนรู้
“ทีมข่าวอิศรา” ติดต่อไปยัง พล.อ.สำเร็จ และยิงคำถามตรงๆ ง่ายๆ ว่า “คิดว่าระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้เป็นฝีมือบีอาร์เอ็นหรือเปล่า?” เจ้าตัวนิ่งไปนิดหนึ่ง ก่อนเอ่ยว่า “ก็ให้เปอร์เซ็นต์อยู่นะ”
พล.อ.สำเร็จ อธิบายว่า สิ่งสำคัญที่จะบอกได้คือหลักฐานเกี่ยวกับองค์ประกอบระเบิด ว่าเหมือนหรือแตกต่างจากที่เกิดในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่
“ได้ถามพวกคนเก่าๆ ในขบวนการที่ยังคุยกันอยู่ เขาบอกว่าเหมือนเกือบ 100% โดยเฉพาะทีมหนองจิก จ.ปัตตานี แต่ที่ยังไม่ให้น้ำหนักเกือบ 100% ก็เพราะมีจุดหนึ่งที่ไม่เหมือน คือเชื้อปะทุ และหลอดที่ใช้หุ้มเชื้อปะทุ ไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อนในพื้นที่”
พล.อ.สำเร็จ ยังแนะเป็นลายแทงอีกว่า หากเชื่อว่าบีอาร์เอ็นเป็นผู้ปฏิบัติการในครั้งนี้ คนที่ทำจะต้องเป็นคนมลายูทั้งหมดเท่านั้น เพราะบีอาร์เอ็นไม่เปิดรับคนนอกเลย วิธีการที่ไปก่อเหตุ จะต้องมีคนฝังตัวอยู่ในพื้นที่เป้าหมายก่อน อย่างน้อยๆ 3 เดือน หรืออาจจะเป็นปี คนเหล่านี้เรียกว่า "ทีมสนับสนุน" จะเป็นคนดูลาดเลา หาพื้นที่ที่เหมาะสมในการลงมือ
ขณะที่มือระเบิด หรือ "อาร์เคเค" จะเป็นอีกกลุ่มหนึ่ง อาจจะเข้าพื้นที่เพื่อเตรียมวางระเบิดก่อนอย่างมากที่สุดไม่เกิน 3 วัน พอวางเสร็จก็จะออกนอกพื้นที่ทันที
“ฉะนั้นหลังเกิดเหตุแล้วไม่มีทางจับพวกนี้ได้ ถ้าตำรวจจะจับ ต้องไปตามจับพวกที่เป็นทีมสนับสนุนที่ไปฝังตัวในพื้นที่อยู่ก่อน ต้องไปหาดูคนมลายูในพื้นที่เหล่านั้น เชื่อได้เลยว่าจุดที่พวกนี้อยู่จะต้องมีมัสยิด และมีชุมชนมุสลิมเล็กๆ รองรับ”
ถามต่อว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะเป็นการรับจ้างจากฝ่ายการเมืองหรือผู้มีอิทธิพล แต่ พล.อ.สำเร็จ ไม่ตอบคำถามนี้ บอกเพียงว่า “พวกนักรบนี้ ถ้าอายุเยอะขึ้น ออกจากขบวนการแล้ว หรือขบวนการไม่ใช้งานแล้ว ก็ยังให้ทำหน้าที่อื่น เช่น ไปเป็นครูสอน หรือไปบรรยายหาสมาชิก”
ถามอีกว่า บีอาร์เอ็นได้อะไรจากการปฏิบัติการนอกพื้นที่ชายแดนใต้ พล.อ.สำเร็จ บอกว่า ได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง
“บีอาร์เอ็นมีแต่ได้กับได้ สมมติว่าเขาทำจริง ก็เป็นการแสดงศักยภาพของกลุ่มเขา แต่ถ้าไม่ได้ทำ แล้วคนคิดว่าเขาทำ เขาก็ได้ประโยชน์อีก ส่วนรัฐบาลถือว่ามีแต่เสียกับเสีย ไม่มีได้อะไรเลย เพราะพอเกิดเหตุรุนแรงขึ้น ความเชื่อมั่นก็หาย ถ้ายังจับคนร้ายไม่ได้อีก ก็ยิ่งไปกันใหญ่”
ถามสุดท้ายว่าส่วนตัวให้น้ำหนักกี่เปอร์เซ็นต์ว่าเป็นการกระทำของบีอาร์เอ็น พล.อ.สำเร็จ ตอบว่า “80%”
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณ : ภาพจากสถานีโทรทัศน์ NOW26