ติดคุกอยู่ยังโดนอีก! ป.ป.ช.ฟันอดีต‘บิ๊ก’กรุงไทย! อ้างเอาเงินค่านายหน้าใช้ส่วนตัว
โดนอีก! ป.ป.ช. เชือด 'โสมนัส' อดีตรองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายบริหารสินทรัพย์ ธ.กรุงไทย อ้างเป็นคนแนะนำให้ซื้อที่ดินของแบงก์ ก่อนเอาเงินไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว โดนไล่ออกแล้ว-ส่ง อสส. ฟ้องอาญาต่อ ก่อนหน้านี้ถูกศาลพิพากษาคุก 12 ปี คดีทุจริตกรุงไทยปล่อยกู้ - จนท.กรมสรรพามิตโดนด้วย เรียกรับเงินร้านขายบุหรี่นอก
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่ของรัฐในหลายตำแหน่ง โดยมีกรณีที่น่าสนใจได้แก่ กรณีร้องเรียนกล่าวหานายโสมนัส หรือฐณพบ ชุติมา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารสายงานบริหารสินทรัพย์ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ว่า แอบอ้างชื่อบุคคลภายนอกว่าเป็นผู้แนะนำให้ซื้อที่ดินของธนาคารแล้วรับเงินที่ธนาคารจ่ายเป็นค่าแนะนำไปเป็นประโยชน์สำหรับตนเองโดยมิชอบ
คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า นายโสมนัส หรือฐณพบฯ มีมูลความผิดทางอาญา ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 8 และมาตรา 11 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 และมาตรา 91 สำหรับความผิดทางวินัยนั้นคณะกรรมการธนาคารกรุงไทย ได้มีมติลงโทษไล่ออกแล้ว
สำหรับนายโสมนัส หรือฐณพบ ก่อนหน้านี้เคยถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุก 12 ปี ในคดีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้สินเชื่อให้เครือกฤษดามหานครโดยมิชอบด้วย
(อ่านประกอบ : จำแนกจำเลย-โทษเรียงตัวคดีกรุงไทย ไขปริศนา? ไฉนไม่มีชื่อ“พานทองแท้”)
อีกกรณีหนึ่งคือเรื่องร้องเรียนกล่าวหา (1) นายสุธี สุถินบุตร เจ้าพนักงานสรรพสามิตชำนาญงาน สำนักตรวจสอบป้องกันและปราบปราม กรมสรรพสามิต (2) นายปุณณะ วัชฤทธิ์ (3) นายพงษ์พล อริยะวงศ์ (4) นายวิทยา เหมสูงเนิน ว่าเรียกรับเงินจากร้านค้าที่จำหน่ายบุหรี่ต่างประเทศ โดยไม่ได้รับอนุญาตเพื่อละเว้นไม่ดำเนินคดี
คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า (1) นายสุธีฯ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 (2) นายปุณณะฯ (3) นายพงษ์พลฯ (4) นายวิทยาฯ มีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 86
สำหรับการชี้มูลความผิดในทางอาญานั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. ส่งสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริง พร้อมความเห็นประกอบให้กับสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนินการต่อไปแล้ว