คลิปผู้ใหญ่บ้านเป็นเรื่อง! สตง.ลุยตรวจปมหัวคิวประชารัฐ จว.นครศรีฯ ทุกอำเภอ
คลิปผู้ใหญ่บ้าน 'อับอาย' เรียกเก็บหัวคิวโครงการประชารัฐ เป็นเรื่อง! สตง.แจ้งผู้ว่าฯ เปิดตรวจการใช้จ่ายเงินทุกอำเภอ -จี้เตรียมพร้อมให้ความร่วมมือ
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 11 ส.ค.2559 สำนักตรวจสอบพิเศษภาค 14 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อขอให้จังหวัดนครศรีธรรมราช ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานโครงการประชารัฐในอำเภอต่างๆ เนื่องจาก สตง.จะเข้าตรวจสอบการใช้จ่ายเงินตามโครงการนี้
ในหนังสือ สำนักตรวจสอบพิเศษภาค 14 ระบุว่า "ตามที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ดำเนินการตามโครงการประชารัฐในอำเภอต่างๆ นั้น สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน โดยสำนักตรวจสอบพิเศษภาค 14 จะเข้าทำการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินตามโครงการดังกล่าว เพื่อให้การตรวจสอบเป็นไปอย่างรวดเร็ว จึงขอให้จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการโครงการดังกล่าว ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบของสำนักตรวจสอบพิเศษภาค 14 ด้วย" (ดูเอกสารประกอบ)
แหล่งข่าวจากสำนักตรวจสอบพิเศษภาค 14 เปิดเผยสำนักข่าวอิศราว่า การเข้าตรวจสอบการใช้จ่ายเงินตามโครงการประชารัฐในอำเภอต่างๆ ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ดังกล่าว เป็นเพราะมีสื่อมวลชนหลายแห่ง นำเสนอข่าว เมื่อวันที่ 9 ส.ค.2559 ว่า ในการประชุมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ของอำเภอสิชล จ.นครศรีธรรมราช ได้มีผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่ง ก้มกราบประธานที่ประชุม และระบุว่าอับอายที่ต้องเก็บค่าหัวคิวโครงการประชารัฐ พร้อมระบุว่ามีสูตรการเก็บเงินจากอำเภอ
"สตง.โดยสำนักตรวจสอบพิเศษภาค 14 พิจารณาแล้วเห็นว่า กรณีตามข่าวเป็นการทำให้เงินงบประมาณแผ่นดิน ที่จะนำไปใช้เพื่อประโยชน์ของประชาชนไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ และเป็นกรณีที่อยู่ในการควบคุม กำกับ ดูแล ของผู้ว่าฯ นครศรีธรรมราช จึงได้มีการทำหนังสือแจ้งถึงผู้ว่าฯ อีก 1 ฉบับ เพื่อขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามอำนาจหน้าที่ด้วย" แหล่งข่าวระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 9 ส.ค.2559 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการเปิดเผยข้อมูลการกินหัวคิวจากโครงการประชารัฐ ที่อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้รายงานและสั่งการไปแล้วให้มีการสอบสวนในเรื่องดังกล่าว ซึ่งตนก็รับทราบแล้วถ้าผิดก็ลงโทษ ทั้งทางวินัยและอาญา อย่างไรก็ตามเมื่อมีการกล่าวหาขึ้นมาก็ต้องมีการสอบสวนก่อน จากนั้นก็จะเป็นเรื่องของการลงโทษทางด้านวินัย ว่าจะต้องเอาออกจากตำแหน่ง ปลด หรือจะต้องดำเนินคดีทางอาญา ขั้นตอนทางกฎหมาย ระเบียบวินัยของข้าราชการมีอยู่อย่างชัดเจนแล้ว ความจริงเรื่องของการทุจริตไม่ควรจะเกิดขึ้น แต่ถ้ามันเกิดขึ้นแล้วก็ต้องลงโทษสถานหนัก ตนบอกมาตลอดว่าจะไม่มีการละเว้น (ดูข่าวและคลิป หัวคิวโครงการประชารัฐ ที่อำเภอสิชล จังหวัด นครศรีธรรมราช จาก now26 http://www.now26.tv/view/85029)