สธ.เปิดวอร์รูมรับเหตุฉุกเฉิน กำชับ รพ.ดูแลผู้บาดเจ็บเต็มที่
กระทรวงสาธารณสุขเปิดวอร์รูม ประชุมทางไกลผ่านวิดีโอกับจังหวัดที่เกิดเหตุระเบิดและไฟไหม้ กำชับดูแลผู้บาดเจ็บอย่างเต็มที่ รัฐบาลดูแลค่าใช้จ่ายเรื่องการรักษา ล่าสุด ณ เวลา 11.00 น. เบื้องต้น ผู้บาดเจ็บที่เข้ารับการรักษา 35 คน เสียชีวิต 4 ราย
วันที่ 12 สิงหาคม 2559 นายแพทย์โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยแพทย์หญิงประนอม คำเที่ยง รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะ ประชุมทางไกลผ่านวิดีโอกับจังหวัดที่เกิดเหตุระเบิดและไฟไหม้ประกอบด้วย ตรัง ประจวบคีรีขันธ์ ภูเก็ต พังงา กระบี่ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และระนอง ว่า ขอให้ทุกจังหวัดเตรียมพร้อมรับสถานการณ์อย่างเต็มที่ โดยให้ดำเนินการดังนี้
1.ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาลทุกแห่ง เตรียมพร้อมรับผู้บาดเจ็บอย่างเต็มที่ ทั้งบุคลากร ยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ ห้องผ่าตัด คลังเลือด ระบบส่งต่อ
2.เฝ้าระวังความปลอดภัยในสถานพยาบาล ตรวจสอบความพร้อมกล้องวงจรปิด ระบบรักษาความปลอดภัย ระบบสื่อสาร ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดกับฝ่ายความมั่นคง
3.ในเรื่องค่ารักษาพยาบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กำชับให้ดูแลอย่างเต็มที่ ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย รัฐบาลรับผิดชอบ ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ เป็นไปตามสิทธิการรักษาที่มีอยู่ ตามข้อสั่งการของท่านนายกรัฐมนตรี
ในส่วนกลางได้มีเปิดวอร์รูม เป็นศูนย์สั่งการและประสานข้อมูล โดยมีแพทย์หญิงประนอม คำเที่ยง รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ สั่งการให้ทุกจังหวัดเตรียมพร้อม สำหรับกรุงเทพมหานครให้กรมการแพทย์ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานครเตรียมพร้อมโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานคร กรมการแพทย์ มหาวิทยาลัย กองทัพ เอกชน เตรียมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทีมกู้ชีพชั้นสูง ระบบส่งต่อ รองรับในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล และพื้นที่ต่างจังหวัดตามสถานการณ์
อย่างไรก็ตามขณะนี้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและโรงพยาบาลในพื้นที่ยังดูแลสถานการณ์ได้ โดยมีการประสานความช่วยเหลือกันภายในเขตสุขภาพ เช่น หัวหิน จะมีโรงพยาบาลเพชรบุรี โรงพยาบาลราชบุรีเตรียมพร้อมรับการส่งต่อ และส่งผู้เชี่ยวชาญเข้าไปช่วยดูแลสำหรับข้อมูลผู้บาดเจ็บมีทั้งหมด ณ เวลา 11.00 น. มีผู้บาดเจ็บ 35 คน เสียชีวิต 4 ราย
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ล่าวกับผู้ปฏิบัติงาน โดยให้กำลังใจและขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่อยู่ปฏิบัติงานในวันหยุด วันแม่แห่งชาติ การเข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บขอให้ใช้ความระมัดระวัง เพราะหลายพื้นที่เกิดเหตุระเบิดซ้ำ ขอให้ดำเนินการตามแผนที่วางไว้ ในส่วนของโรงพยาบาลอื่นๆทั่วประเทศ ก็ขอให้เตรียมพร้อมรับเหตุการณ์ฉุกเฉินเช่นกัน ติดตามข้อมูลข่าวสารจากฝ่ายความมั่นคงอย่างใกล้ชิด