แถลงการณ์ปกป้องอุทยานแห่งชาติค้าน"ท่าเรือปากบารา-แลนด์บริดจ์ สงขลา – สตูล"
"...โครงท่าเรือน้ำลึกปากบารา และแลนด์บริดจ์ สงขลา – สตูลนั้นถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ระดับประเทศ หรือระดับภูมิภาคอาเซียน หากแต่ได้สร้างความขัดแย้งในพื้นที่การก่อสร้างโครงการ แม้จะมีเสียงทักท้วงอย่างมากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเพื่อให้มีการทบทวนโครงการก็ตาม แต่กลับได้รับท่าทีที่เพิกเฉยของรัฐบาล..."
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม2559 ที่สำนักงานข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เครือข่ายประชาชนปกป้องอุทยานแห่งชาติ เภตรา – ตะรุเตา และเครือข่ายศิลปินอิสระ ประมาณ10 คน ร่วมออกแถลงการณ์ คัดค้านการพิจารณารายงานการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) กรณีเส้นทางรถไฟเชื่อมการขนส่งสินค้าระหว่างท่าเรือน้ำลึกปากบาราและท่าเรือสวนกง (แลนด์บริดจ์สงขลา - สตูล ) ของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กกวล.) โดยมีรายละเอียดดังนี้
การพัฒนาประเทศที่จะนำความผาสุกมาสู่ประชาชนในชาติ เป็นสิ่งที่เรายอมรับได้ หากแต่ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของเหตุผล และความเหมาะสมของสภาพพื้นที่นั้นๆ และจะต้องน้อมรับเสียงทักท้วงของคนในพื้นที่ด้วยเช่นกัน มิเช่นนั้นแล้วการพัฒนาประเทศที่อ้างว่าจะนำไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนนั้น ก็จะกลายเป็นเพียงวาทะกรรมสวยหรู แต่กลับไม่มีความหมายสำคัญที่จะทำให้เกิดการยอมรับได้อย่างแท้จริง
โครงท่าเรือน้ำลึกปากบารา อันเป็นส่วนหนึ่งของโครงการสะพานเชื่อมเศรษฐกิจสองฝั่งทะเล อันดามัน และอ่าวไทย หรือที่เรียกว่า แลนด์บริดจ์ สงขลา – สตูลนั้น เป็นโครงการที่ต้องการเชื่อมโครงข่ายคมนาคมสองฝั่งทะเล ที่ถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ระดับประเทศ หรือระดับภูมิภาคอาเซียน หากแต่ได้สร้างความขัดแย้งในพื้นที่การก่อสร้างโครงการระหว่างชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบ กับกลุ่มสนับสนุนที่อยากเห็นการพัฒนาไปตามเสียงโฆษณาชวนของภาครัฐ เพียงด้านเดียว แม้จะมีเสียงทักท้วงอย่างมากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเพื่อให้มีการทบทวนโครงการก็ตาม แต่กลับได้รับท่าทีที่เพิกเฉยของรัฐบาลที่มา และรวมถึงรัฐบาลปัจจุบัน
เหตุผลมากมายที่เสนอให้มีการทบทวนโครงการ และหนึ่งในนั้นคือ เหตุผลในการใช้พื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตราจำนวน 4,734 ไร่ ใช้เป็นที่ตั้งโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา
และรวมถึงช่องทางเดินเรือที่จะต้องผ่านเส้นทางท่องเที่ยวทางทะเลของอุทยานแห่งชาติตะรุเตา อันเป็นแหล่งที่มีปะการังอ่อนเจ็ดสีที่สวยงาม ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญเป็นที่เชิดหน้าชูตาของคนสตูล และเป็นสมบัติล้ำค่าของคนไทยทั้งประเทศ
ถึงจะมีเสียงเอ่ยอ้างของฝ่ายสนับสนุน หรือจากหน่วยงานภาครัฐผู้เป็นเจ้าของโครงการที่ว่า พื้นที่เหล่านี้นั้นเป็นเพียงส่วนน้อยของพื้นที่อุทยานฯทั้งหมด จึงอยากให้คนสตูลยอมรับและเสียสละบ้าง จึงถือเป็นเหตุผลที่รับฟังไม่ได้ ด้วยพื้นที่ดังกล่าวแม้จะเพียงน้อยนิด แต่ถือได้ว่าเป็นบริเวณสำคัญเสมือนพื้นที่ไข่แดงของจังหวัดสตูล ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลที่มีความหมาย และมีความสำคัญของคนสตูล และยังรวมถึงพื้นที่เสี่ยงจากการเดินเรือที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตาด้วยเช่นกัน
เครือข่ายประชาชนปกป้องอุทยานแห่งชาติเภตรา – ตะรุเตา จึงขอคัดค้านการถอนสภาพพื้นที่อุทยานแห่งชาติเพื่อสังเวยให้กับโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา และโครงการแลนด์บริดจ์สงขลา – สตูล ที่คาดว่าจะส่งผลกระทบอย่างประเมินค่าไม่ได้กับอุทยานแห่งชาติทั้งสองแห่งนี้ ทั้งนี้เพื่อปกป้องและเก็บรักษาไว้ซึ่งสมบัติของคนไทยทั้งประเทศ และเพื่อให้คงอยู่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยั่งยืนใน ยาวนานตลอดไป พร้อมกันนี้เราขอประกาศว่า เราจะเดินหน้าสร้างปฏิบัติการเพื่อปกป้องอุทยานแห่งชาติเภตรา - ตะรุเตาอย่างถึงที่สุด เพื่อให้คนไทยทั้งประเทศได้รับรู้ถึงการสูญเสียดังกล่าวอย่างทั่วถึงกัน.
-ขอบคุณภาพประกอบจากhttp://news.mthai.com/