ชาวบ้านร้องผู้ตรวจการฯ ช่วยผลักดันต่อใบอนุญาตเหมืองทองอัคราฯ
ชาวบ้านเหมืองทองพิจิตร ร้องผู้ตรวจการแผ่นดินใช้อำนาจตรวจสอบการต่ออายุโรงประกอบโลหกรรมอัคราฯ หวั่นกระทบ ‘เศรษฐกิจ-พนักงาน-ชาวบ้าน’ พิจิตร - เพชรบูรณ์ เสียหาย
วันที่ 27 กรกฎาคม 2559 เวลาประมาณ 13.00 น. ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กลุ่มเครือข่ายผู้นำชุมชนและประชาชนรอบเหมืองแร่ทองคำชาตรี เดินทางเข้าพบผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อเรียกร้องให้ใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. 2552 ในการพิจารณาสอบสวนและแสวงหาข้อเท็จจริง ในประเด็นการต่ออายุใบอนุญาตประกอบโลหกรรมของ บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ไปอีก 5 ปี โดยมีนายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการ สำนักผู้ตรวจการแผ่นดิน รับหนังสือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มเครือข่ายผู้นำชุมชนและประชาชนรอบเหมืองแร่ทองคำชาตรี ได้ยื่นเอกสารสำคัญ 3 รายการได้แก่ 1. สรุปความคิดเห็นของประชาชนจากการประชุมรับฟังความเดือดร้อนของประชาชน เมื่อวันที่ 5 ก.ค 2559 2. รายชื่อพร้อมบัตรประชาชนจำนวน 5,787 รายชื่อที่อาศัยอยู่รอบเหมืองฯ ผู้ซึ่งสนับสนุนให้เหมืองเปิดดำเนินการต่อไป 3. หนังสือสนับสนุนการประกอบการจากกลุ่มผู้ประกอบการในพื้นที่ จ. พิจิตร เพชรบูรณ์ และจังหวัดอื่นๆ อีกเกือบ 300 บริษัท
นายฝ้าย มหาสัตย์ นายกอบต.วังโพรง อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ตัวแทนเครือข่ายผู้นำชุมชน และประชาชนรอบเหมืองแร่ทองคำชาตรี กล่าวถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหากหมืองแร่ทองคำต้องปิดตัวลงในสิ้นปีนี้ว่า ไม่เพียงเฉพาะพนักงานจำนวน 1,000 คน หรือ 80 % เป็นคนในพื้นที่ และครอบครัวพนักงานไม่น้อยกว่า 4,000 คน ที่จะได้รับผลกระทบโดยตรงจากการขาดรายได้เท่านั้น หากแต่จะขยายวงออกไปถึงประชาชนที่อยู่อาศัยอยู่บริเวณรอบเหมืองด้วย เนื่องจากไม่ได้รับการสนับสนุนในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อบจ. และ อบต.) โรงเรียน โรงพยาบาล วัด ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ผ่าน 1) เงินค่าภาคหลวงที่จัดสรรลงมาในพื้นที่ 2) เงินสนับสนุนกองทุนต่างๆ และกิจกรรมส่งเสริมอาชีพต่างๆ ทั้งที่เป็นไปตามเงื่อนไขการอนุญาตและเป็นพันธสัญญาด้วยใจระหว่างเหมืองกับชุมชนต่างๆ ในการให้ความเห็นชอบให้ทำเหมือง และ 3) การสนับสนุนชุมชนจากงบประมาณประจำปีของเหมือง
ทั้งนี้ เครือข่ายฯ ได้ทำสำเนารายชื่อประชาชนในพื้นที่จำนวนถึง 5,787 ราย พร้อมบัตรประชาชนแสดงความบริสุทธิ์ใจ สนับสนุนให้เหมือง ซึ่งเคยยื่นให้กับกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่แล้ว ในครั้งนี้นำมายื่นให้ผู้ตรวจการแผ่นดินอีกครั้งหนึ่ง พร้อมขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. 2552 ในการพิจารณาสอบสวนและแสวงหาข้อเท็จจริง ในประเด็นการต่ออายุใบอนุญาตประกอบโลหกรรมของ บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ไปอีก 5 ปี