ปูดผู้มีอิทธิพลท้องถิ่นดีลสำนักพุทธ! ให้เงินวัดเกินก่อนเรียกคืน-รอง ผอ.ยังไม่แจง
รักษาการเจ้าอาวาสวัดชลธาราวาสปูด! ผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น-เลขาฯเจ้าคณะจังหวัด-อบต. ดีลสำนักพุทธฯ ให้เงินสนับสนุนกิจกรรมวัด แต่โอนเงินเกินก่อนเรียก ‘ตังทอน’ คืน ระบุเฉพาะในนราธิวาสมีถึง 17-18 วัดโดนแบบนี้ ด้าน ‘ผอ.สำนักพุทธฯสงขลา’ พักงานทางการแล้ว ‘รอง ผอ.สำนักพุทธฯแห่งชาติ’ ยังไม่แจง
จากกรณีศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ดำเนินการตรวจสอบ นายวีรเทพ หรือเสถียร ดำรงคดีราษฎร์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สงขลา และนางประนอม คงพิกุล รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในคดีร่วมกับนายเสถียรใช้อำนาจหน้าที่ในการจัดสรรเงินอุดหนุนโดยมิชอบ ให้วัดชลธาราวาส วัดยูปาราม และวัดสุริยาราม วัดละ 4 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 12 ล้านบาท แล้วให้ทั้ง 3 วัดถอนเงินสดบางส่วน (สำหรับวัดชลธาราวาสถูกนายเสถียรเรียกเก็บเงิน 3.2 ล้านบาท) มามอบให้นายเสถียร โดยอ้างว่า จะนำเงินไปให้สำนักสงฆ์ที่ไม่ได้จดทะเบียน
กระทั่งนายเสถียรถูกดำเนินการจับกุมเมื่อช่วงปลายปี 2558 แต่ต่อมาอัยการ จ.สงขลา ไม่ฟ้อง ล่าสุดคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเรียกสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงมาดำเนินการไต่สวนเอง และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจตามมาตรา 44 สั่งพักงานนายเสถียรไว้ก่อนนั้น
(อ่านประกอบ : รอง ผอ.สำนักพุทธฯโดนด้วย! ร่วม ผอ.สงขลา ปมเรียกเงินวัด 3 แห่ง-ศอตช.ลุยสอบ)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้รับการยืนยันจากพระปลัดสุวัฒน์กนฺตวีโร รักษาการเจ้าอาวาสวัดชลธาราวาส หนึ่งในวัดที่ถูกเรียกรับเงินดังกล่าวว่า สำหรับกรณีวัดชลธาราวาสนั้น ได้รับการประสานมาจากเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดนราธิวาส ที่ระบุว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ต้องการให้เงินสนับสนุนสำหรับจัดทำโครงการอบรมพระธรรมทูตเผยแผ่พุทธศาสนา ประจำปี 2558 โดยระบุตอนติดต่อกันเลยว่า จะให้เงิน 8 แสนบาท อาตมาเป็นคนเซ็นสัญญาทุกอย่าง แต่ต่อมากลับมีการโอนเงินมาให้วัด 4 ล้านบาท แล้วนายเสถียรติดต่อกลับมาว่า ให้ทางวัดนำเงินมาคืน 3.2 ล้านบาท จึงนำเงินไปคืนดังกล่าว ก่อนที่จะถูกจับกุมดำเนินคดีดังกล่าว ซึ่งหลังจากนั้นก็ไม่ทราบเรื่อง แต่ได้เข้าให้ข้อมูลกับ สตง. ไปหมดแล้ว
“เขา (สำนักพระพุทธศาสนาฯ จ.สงขลา) บอกอาตมาตอนแรกว่าจะให้เงิน 8 แสนบาท แต่ก็โอนมาให้ 4 ล้านบาท เขาโทรกลับมาบอกว่าโอนเกิน ขอเงินทอนคืน ก็นำเงินไปคืนให้ ก่อนที่จะมีการจับกุมดำเนินคดีดังกล่าว ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก เพราะก่อนหน้านี้ไม่เคยมีกรณีอย่างนี้มาก่อน” พระปลัดสุวัฒน์ฯ กล่าว
พระปลัดสุวัฒน์ฯ กล่าวอีกว่า นอกเหนือจากวัดชลธาราวาสแล้ว เท่าที่ทราบข่าว มีอีก 17-18 วัดใน จ.นราธิวาส ที่มีลักษณะการดำเนินการอย่างนี้ แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ อย่างวัดชลธาราวาสมีเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดเป็นคนประสานมา แต่พื้นที่อื่นก็มีพวกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หรือกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่เป็นคนประสานว่า จะให้เงินสนับสนุนเพื่อจัดกิจกรรมของวัดต่าง ๆ แต่ก็มีการเรียกรับเงินคืนเช่นกัน เท่าที่ทราบมีนายเสถียรดำเนินการประมาณ 5-6 วัด ส่วนวัดอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ดำเนินการ
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศราโทรศัพท์ติอต่อไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สงขลา เพื่อขอให้นายเสถียรชี้แจงข้อเท็จจริงดังกล่าว แต่มีเจ้าหน้าที่รายหนึ่งรับสาย ระบุว่า นายเสถียรถูกพักงานตามมาตรา 44 ไปแล้ว ทั้งนี้เมื่อติดต่อไปยังเบอร์โทรศัพท์ส่วนตัว 2 เลขหมายของนายเสถียร กลับติดต่อไม่ได้ โดยระบุทำนองว่า 2 เลขหมายดังกล่าวยังไม่เปิดใช้บริการ
นอกจากนี้ยังโทรศัพท์ติดต่อไปยังเลขานุการของนางประนอม เพื่อขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริงแล้ว แต่เลขานุการนางประนอม ระบุว่า นางประนอมติดประชุมอยู่ อย่างไรก็ดีจะโทรติดต่อกลับไปทีหลัง
อ่านประกอบ :
ขมวดปมซับซ้อน! คดีเรียกรับเงินวัด-ไฉน รอง ผอ.สำนักพุทธฯรอด ม.44?
หลักฐานไม่พอ! อัยการไม่ฟ้อง ผอ.สำนักพุทธฯสงขลาเรียกรับเงินวัด 3.2 ล.
ไขปริศนา? ทำไมอัยการไม่ฟ้อง ผอ.สำนักพุทธฯสงขลาเรียกรับเงิน 3.2 ล.
เพิ่งรับตำแหน่งไม่รู้เรื่อง! อัยการยันเห็นพ้อง ตร.ปมไม่ฟ้อง ผอ.สำนักพุทธฯสงขลา
อ้างฟังไม่ขึ้น! สตง.ยันให้วัดถือเงินสดคืน ผอ.สำนักพุทธสงขลา 3.2 ล.ผิดปกติ
ป.ป.ช.เรียกคืนสำนวน! ปมอัยการไม่ฟ้อง ผอ.สำนักพุทธฯสงขลาเรียกเงิน 3.2 ล.
กางระเบียบจ่ายเงินวัด! ขมวดพิรุธปม ผอ.สำนักพุทธฯสงขลาเรียกรับเงิน 3.2 ล.
หมายเหตุ : ภาพประกอบวัดจาก bloggang.com