แกนนำชาวบ้านชี้รัฐมอบโฉนดที่ดินบูโดไม่แก้ปัญหา เหตุอยู่นอกพื้นที่พิพาท
ภารกิจสำคัญอีกประการหนึ่งระหว่างลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาสของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อวันจันทร์ที่ 25 ก.ค.59 คือการเป็นประธานและสักขีพยานในพิธีมอบโฉนดที่ดินบริเวณเทือกเขาบูโด-สุไหงปาดี ให้กับตัวแทนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ 9 อำเภอรอบเทือกเขา เช่น อ.รือเสาะ อ.ระแงะ อ.บาเจาะ อ.ยี่งอ อ.สุไหงปาดี อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เป็นต้น
โฉนดที่ดินที่มอบให้ประชาชน มีจำนวนทั้งสิ้น 800 ราย รวม 1,000 แปลง เพื่อใช้ประโยชน์ในการทำกินโดยที่ไม่ต้องกลัวถูกกล่าวหาว่าบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ
ประเด็นนี้รัฐบาลบอกว่าเป็นการปลดล็อคปัญหาเรื่องที่ดินทำกินให้กับคนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ดำเนินการแก้ปัญหาต่อเนื่องมาหลายรัฐบาล เนื่องจากมีการโต้แย้งสิทธิ์กันว่าชาวบ้านทำกินมาก่อนประกาศเขตอุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดีหรือไม่
แต่ก็มีความเห็นแย้งจากแกนนำชาวบ้านว่า เอกสารสิทธิ์ที่รัฐบาลนำมาแจกนั้น แท้จริงแล้วอยู่นอกพื้นที่พิพาท
นายอาหะมะ ลีเห็ง คณะทำงานเครือข่ายที่ดินบูโด อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส กล่าวว่า ปัญหาใหญ่ของชาวบ้านรอบเทือกเขาบูโดใน 9 อำเภอ คือที่ดินถูกประกาศเขตป่าสงวนและอุทยานแห่งชาติทับที่ดินที่ชาวบ้านทำกินอยู่ก่อน โดยร้อยละ 80 เป็นการประกาศทับที่อุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี มีชาวบ้านได้รับผลกระทบกว่า 2 หมื่นครัวเรือน หรือ 1 ล้าน 2 แสนไร่
ที่ผ่านมาได้มีการพิสูจน์สิทธิ์ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 ต.ค.51 ที่ให้นายอำเภอและชาวบ้าน รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันสำรวจและพิสูจน์ โดยในวันที่ 28-29 ก.ค.นี้ คณะทำงานที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต.แต่งตั้งขึ้น จะไปปักแนวเขตสุดท้าย
“เราเสนอให้มีการกันพื้นที่ที่ชาวบ้านทำกินมาก่อนประกาศเขตอุทยานฯและป่าสงวนฯ ออกจากพื้นที่พิพาท ซึ่งเป็นหัวใจหลักของการแก้ไขปัญหาที่ดินรอบเทือกเขาบูโด” นายอาหะมะ กล่าว
ส่วนที่ดินที่รัฐบาลแจกเอกสารสิทธิ์จำนวน 1,000 แปลง ระหว่างนากยฯลงใต้เมื่อ 25 ก.ค.นั้น คณะทำงานเครือข่ายที่ดินบูโดฯ บอกว่า เป็นที่ดินนอกเขตป่าสงวนและนอกแนวเขตอุทยานฯ ซึ่งตามกฎหมาย ประชาชนควรได้รับเอกสารสิทธิ์มาตั้งนานแล้ว
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : นายกรัฐมนตรีเป็นสักขีพยานในการมอบโฉนดที่ดินให้กับตัวแทนชาวบ้าน โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เป็นผู้มอบเอกสารสิทธิ์ด้วยตนเอง