ปลัดยธ.แฉ 2 หัวโจกยุจลาจล ไม่เกี่ยวคดีความมั่นคง วอด 4 ล้าน
วิกฤติการณ์ในเรือนจำกลางปัตตานีจบลงแล้ว โดยเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างสมบูรณ์ และได้สั่งดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ โดยเฉพาะบรรดาหัวโจกที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 3 ราย รวมทั้งสั่งย้ายผู้ต้องขังบางส่วนไปคุมขังยังเรือนจำอื่น
นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเดินทางลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์ด้วยตนเอง ได้เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ 16 ก.ค.59 ร่วมกับ นายปฏิคม วงษ์สุวรรณ อธิบดีกรมราชทัณฑ์, รองอธิบดี, ผู้บัญชาการเรือนจำ และนางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ทั้งนี้ นายชาญเชาวน์ ได้ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ตลอดจนการระงับเหตุจนสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ก่อนจะสรุปว่าเหตุจลาจลครั้งนี้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 7 ราย ทั้งหมดเป็นผู้ต้องขัง และมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย
นายชาญเชาวน์ บอกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับคดีความมั่นคงสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะที่ นายมูฮำหมัดอัณวัร หะยีเตะ หรืออันวาร์ ผู้ก่อตั้งสื่อทางเลือก “บุหงารายา” ซึ่งเป็นผู้ต้องขังในเรือนจำนี้ ก็ไม่ได้เป็นแกนนำก่อจลาจลตามที่เป็นข่าว แต่สาเหตุเกิดจากแกนนำ 2 คน คือ นายแวอุสมาน แวสือเมาะ และนายอัสฮีร่า ดอเลาะ เป็นผู้ต้องขังคดีลักทรัพย์และคดียาเสพติด ไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ปรับกฎระเบียบในเรือนจำให้เข้มงวดขึ้น ไม่ให้นำของเยี่ยมเข้าไปได้ง่ายๆ ขณะที่โทรศัพท์และยาเสพติดเป็นสิ่งต้องห้าม ทั้งสองคนไม่พอใจจึงไปชักจูงคนอื่นๆ ให้มาก่อจลาจล
สำหรับผู้เสียชีวิต 3 ราย เป็นผู้ต้องขังชั้นดี ประกอบด้วย นายเกียรติศักดิ์ พรหมดวง, นายเสริม จันขุนทร ทั้งสองคนถูกเผาในที่เกิดเหตุ และ นายสุอนันท์ ป้องเศร้า ถูกแทงระหว่างเกิดจลาจล โดยปลัดกระทรวงยุติธรรมบอกว่า จะชันสูตรพลิกศพผู้ตายทุกรายตามกฎหมาย ก่อนส่งสำนวนให้อัยการยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อไต่สวนการตาย และแจ้งความตำรวจให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดต่อไป
นอกจากนี้ได้ย้ายผู้ต้องขังจำนวน 333 คนไปคุมขังยังเรือนจำในพื้นที่จังหวัดสงขลา ผู้ที่ถูกย้ายไม่ได้หมายความว่าเป็นแกนนำหรือหัวรุนแรง แต่เป็นการย้ายเพื่อปรับพื้นที่ใหม่ และจะอำนวยความสะดวกเรื่องรถ-รับส่งสำหรับญาติที่จะไปเยี่ยม โดยกำหนดวันลงทะเบียนญาติที่ต้องการไปเยี่ยม วันที่ 21 กรกฎาคม
สำหรับเรือนจำ 4 แห่งที่รับผู้ต้องขังจากเรือนจำกลางปัตตานี คือ เรือนจำกลางสงขลาจำนวน 125 คน, เรือนจำจังหวัดสงขลาจำนวน 45 คน, ทัณฑสถานบำบัดจังหวัดสงขลา จำนวน 100 คน และเรือนจำจังหวัดนาทวี จำนวน 63 คน
นายนพพร รัตนวัย ผู้บัญชาการเรือนจำกลางปัตตานี กล่าวว่า นักโทษ 2 คนที่ก่อเหตุครั้งนี้ เคยก่อจลาจลในเรือนจำกลางจังหวัดสงขลาและนราธิวาสมาแล้ว โดยเพิ่งย้ายมาที่เรือนจำกลางปัตตานีได้เพียง 2 เดือน สำหรับประมาณการค่าเสียหายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเหตุเผาอาคาร 3 หลัง รวมประมาณ 4 ล้านบาท
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ขณะนั่งแถลงข่าวที่เรือนจำกลางปัตตานี