ปลัดศธ.ยันนายกสภามหาวิทยาลัย ได้ค่าตอบแทน เบี้ยประชุมเช่นเดิม

ปลัดศธ.ยันคำสั่ง คสช. นายกสภา-กก.สภามหาวิทยาลัย ได้ค่าตอบแทน เบี้ยประชุมเช่นเดิม ดร. ภาวิช หวั่นสับสน แนะควรมีการตีความคำสั่งนี้ให้ชัดเจน          

รศ.นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอิศราถึงคำสั่ง หัวหน้า คสช.ที่ 39/2559 เรื่องการจัดระเบียบและแก้ไขปัญหาธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษา ประเด็น การแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งนายกสภาสถาบันอุดมศึกษา หรือกรรมการสภาสถาบันอุดมศึกษา นอกจากกำหนดหลักเกณฑ์การดำรงตำแหน่ง นายกสภาสถาบันอุดมศึกษาหรือกรรมการสภาสถาบันอุดมศึกษา แล้ว ยังมีข้อความระบุว่า "ผู้ดํารงตําแหน่งนายกสภาสถาบันอุดมศึกษาหรือกรรมการสภาสถาบันอุดมศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐตามวรรคหนึ่ง ไม่มีสิทธิได้รับค่าตอบแทน เบี้ยประชุม หรือสิทธิประโยชน์อื่นใดนอกเหนือจากในฐานะนายกสภาสถาบันอุดมศึกษาหรือกรรมการสภาสถาบันอุดมศึกษา จากสถาบันอุดมศึกษาแห่งนั้น เว้นแต่เป็นไปตามระเบียบหรือหลักเกณฑ์ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการกําหนดหรือให้ความเห็นชอบ"

รศ.นพ.กำจร กล่าวยืนยันว่า  นายกสภา และกรรมการสภาเท่านั้นที่จะสามารถได้เบี้ยประชุมและได้ค่าตอบแทน  ส่วนตำแหน่งที่ปรึกษางานวิจัยหรือตำแหน่งอื่นๆ จะไม่สามารถรับค่าตอบแทนและเบี้ยประชุมได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตีความ หากอ่านตามภาษาของกฎหมายอาจเข้าใจผิดได้

ขณะที่ศาสตราจารย์พิเศษ ดร. ภาวิช ทองโรจน์  นายกสภามหาวิทยาลัยนครพนม กล่าวถึงคำสั่ง คสช.ดังกล่าว ที่ระบุว่าผู้ดํารงตําแหน่งนายกสภาสถาบันอุดมศึกษาหรือคณะกรรมการสภาสถาบันอุดมศึกษา ไม่มีสิทธิได้รับค่าตอบแทน เบี้ยประชุม หรือสิทธิประโยชน์อื่นว่า ควรจะตีความคำสั่งนี้ให้ชัดเจน  

 "ถ้าเบี้ยประชุมจะถือเป็นอีกกรณีหนึ่ง ซึ่งไม่เกี่ยวกัน และที่ประชุมทุกวันนี้วิธีปฏิบัติก็หลากหลาย ซึ่งไม่ได้หมายความเฉพาะมหาวิทยาลัย แต่หมายถึงหน่วยงานราชการต่างๆด้วย ซึ่งบางที่ก็หักภาษี บางทีก็ไม่หัก ซึ่งยังมีอยู่ในระบบ"

ด้านรศ.ดร.ประเสริฐ ชิตพงศ์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โพสต์ข้อความในเฟชบุค ระบุ ตอนหนึ่งจากประสบการที่เป็นกรรมการสภาผู้ทรงคุณวุฒิทั้งของรัฐและเอกชน พบว่า ค่าตอบแทนไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะเล็กน้อยสำหรับนายกสภา ส่วนกรรมการก็มีเพียงเบี้ยประชุม

"แต่ที่เป็นปัญหาคือเวลาที่จะทุ่มเทให้ จึงทำให้เกิดปัญหามากมายทั้งในเรื่องการกำกับดูแลและการแก้ปัญหา และที่สำคัญก็คือปัญหาธรรมาภิบาล ซึ่งหากฝ่ายบริหารและสภาไม่เอาจริงเอาจังและระมัดระวังกับเรื่องเหล่านี้ปัญหาธรรมาภิบาลก็จะมีทุกระดับ ทั้งระดับบุคคล กลุ่ม องค์กรย่อยๆภายใน รวมทั้งองค์กรใหญ่คือระดับมหาวิทยาลัย"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บิ๊กตู่ ใช้ม.44 รื้อสถาบันอุดมศึกษา- ประเดิมฟันมรภ.สุรินทร์-ชัยภูมิ

เปิดโผมหาวิทยาลัยจ่อคิว รมว.ศึกษาใช้มาตรา 44 ฟัน แก้ปัญหาขัดแย้ง-ธรรมาภิบาล

คนเก่งมีน้อย!‘มีชัย-วิษณุ-สมบัติ-วิจิตร’ แชมป์นั่งนายกสภามหาวิทยาลัยหลายแห่ง