แซด!สนง.ผู้ตรวจฯหักเงินเดือน พนง. 0.5% เข้ากองทุน-เลขาฯยันไม่บังคับทำเพื่อทุกคน

วิจารณ์ขรม! สนง.ผู้ตรวจการแผ่นดิน หักเงินเดือนร้อยละ 0.5 เข้ากองทุนสวัสดิการ เลขาฯยันไม่ได้บังคับใคร เสียงส่วนใหญ่เห็นด้วย ระบุทำเพื่อพนักงานทุกคน ช่วยค่างานศพ-งานเลี้ยง เตรียมอธิบายพนักงาน-ลูกจ้างให้เข้าใจอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ประชุมสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติเห็นชอบให้พนักงานและลูกจ้างทุกคนบริจาคเงินเดือนขั้นต่ำในอัตราร้อยละ 0.5 ของเงินเดือนเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 2 ปี เพื่อหักเข้ากองทุนสวัสดิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยมีผลตั้งแต่เดือน ก.ค. 2559 เป็นต้นไป (ดูเอกสารประกอบ)

อย่างไรก็ดีกรณีนี้ถูกพนักงานและลูกจ้างหลายคนวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม ถามหาสาเหตุที่แท้จริงในการหักเงินเดือนดังกล่าว

ล่าสุด นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงกรณีนี้ว่า ในการประชุมเจ้าหน้าที่ของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินทั้งหมดเพื่อพิจารณาเรื่องประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่ เมื่อถึงวาระอืนๆมีเจ้าหน้าที่หยิบยกเรื่องสวัสดิการขึ้นมาหารือว่า กองทุนที่มีอยู่ไม่เพียงพอ ซึ่งที่ประชุมได้ถกเถียงกันโดยเห็นว่า ไม่ควรออกไปหาเงินบริจาคภายนอก ไม่อยากไปรบกวนใคร ที่ประชุมจึงมีมติดังกล่าวออกมา ตนในฐานะประธานที่ประชุมไม่ได้เป็นผู้เสนอ แต่เป็นข้อเสนอของเจ้าหน้าที่กันเอง ซึ่งเงินที่ถูกหักไปเป็นเฉพาะเงินเดือน ไม่รวมเงินประจำตำแหน่งที่แยกต่างหาก และเงินเหล่านี้ก็ถูกส่งเข้ากองทุนสวัสดิการฯ ซึ่งเป็นเงินรวมของพนักงานและลูกจ้างทุกคน เอาไว้ใช้ช่วยเหลือในโอกาสต่าง ๆ เช่น งานศพ งานเลี้ยง ไม่ได้เอาเข้าสำนักงานแต่อย่างใด

นายรักษเกชา กล่าวอีกว่า มติดังกล่าว ไม่ได้เป็นการบังคับใคร ในที่ประชุมสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินซึ่งมีพนักงานและลูกจ้างกว่า 200 คน ไม่มีการบังคับใครทั้งสิ้น เสียงส่วนใหญ่ก็เห็นด้วย และลงนามบริจาคเงินกันแล้ว เหลือเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ที่ยังไม่ลงนาม ก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงทำให้เรื่องแบบนี้กลายเป็นเรื่องขึ้นมาได้ แต่จะอธิบายให้กับพนักงานและลูกจ้างทั้งหมดให้เข้าใจอีกครั้งหนึ่ง

“คือหักเงินร้อยละ 0.5 จากเงินเดือน ถ้าผมมีร้อยบาท ก็หัก 0.5 บาทเท่านั้น และเงินเหล่านี้ก็เอาไปเข้ากองทุน เสียงส่วนใหญ่ก็เห็นด้วย เหลือไม่กี่คนที่ยังไม่เซ็นหนังสือ (บริจาคเงิน) แล้วกองทุนเหล่านี้เราก็เอาไปช่วยเหลือเขา ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า เขาไม่เข้าใจตรงหรือสงสัยตรงไหน ไม่มาถามผม ตอนประชุมก็ไม่ได้บังคับใคร เสียงส่วนใหญ่ก็เห็นด้วย คุณจะไม่ยอมทำตามเสียงของประชาคมหรือ” นายรักษเกชา กล่าว

หมายเหตุ : ภาพประกอบนายรักษเกชา จาก thaipost