ACT ชี้ภาพลักษณ์ความโปร่งใสไทยในสายตานานาชาติ ดีสุดในรอบ 10 ปี
องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ รวบรวมรายงานของสถาบันและองค์กรทั้งไทย-ต่างประเทศ ระบุสถานการณ์คอร์รัปชันและภาพพจน์ประเทศในสายตาคนไทยและนานาชาติ ดีที่สุดในรอบ 10 ปี การเรียกรับสินบนลดลงเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับ 15 ปีที่แล้ว เชื่อว่าแนวโน้มจะดีขึ้นในปีข้างหน้า
ดร. มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) กล่าวถึงสถานการณ์คอร์รัปชันและภาพพจน์ของประเทศในสายตาคนไทยและนานาชาติ โดยการรวบรวมจากรายงานของสถาบันและองค์กรทั้งไทยและต่างประเทศ ประเมินได้ว่า
1. ภาพลักษณ์ความโปร่งใสของไทยในสายตานานาชาติดีที่สุดในรอบ 10 ปี นับแต่ปี 2549
2. การเรียกรับสินบนที่สร้างภาระ สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ประชาชนเมื่อไปติดต่อราชการ ลดลงเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับ 15 ปีที่แล้ว และเชื่อว่าแนวโน้มจะดีขึ้นในปีข้างหน้า
3. การเรียกรับสินบนนักธุรกิจนักลงทุนมีความรุนแรงลดลง
4. สถานการณ์คอร์รัปชันของไทยดีที่สุดในรอบ 6 ปี
5. ในช่วงสองปีมานี้มีการออกมาตรการกลไกเพื่อแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันอย่างเป็นระบบ เป็นรูปธรรมมากที่สุดนับแต่มีรัฐธรรมนูญ ปี 2540 เป็นต้นมา
6. การคอร์รัปชันเชิงระบบ (Systemic corruption) ระบบพวกพ้องและความสามารถในการป้องกันปราบปรามคอร์รัปชันระยะยาว ยังต้องติดตามประเมินผลจากมาตรการระยะยาวที่ออกมา
ปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งของความก้าวหน้าเหล่านี้ เลขาธิการ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ ระบุว่า คือ ประชาชนและภาคธุรกิจมีความตื่นตัวและตั้งใจเข้ามามีส่วนร่วมในการต่อสู้กับคอร์รัปชันสูงมาก จากการที่รัฐบาล คตช. หน่วยงานของรัฐ โดยการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน นักวิชาการและองค์กรภาคประชาชน ได้ออกกฎหมาย มาตรการ กลไกและนโยบายเพื่อแก้ปัญหาคอร์รัปชันที่มีผลบังคับใช้แล้วและอยู่ระหว่างดำเนินการในกระบวนการนิติบัญญัติอีกจำนวนหนึ่งที่เชื่อได้ว่าจะส่งผลดีทั้งระยะสั้นและระยะยาวในการแก้ปัญหาคอร์รัปชันของประเทศที่อยู่ในขั้นวิกฤติตามที่รัฐบาลกำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติที่ต้องเร่งแก้ไข
“มาตรการและกลไกเหล่านี้ นอกจากจะเป็นการวางระบบพื้นฐานที่ดี ในการป้องกันและปราบปรามคอร์รัปชันตามหลักสากลแล้ว ยังสามารถสร้างความเชื่อมโยงและนำไปขยายผลมาตรการต่างๆ ให้การเกิดขับเคลื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป”