มติเอกฉันท์! ศาลรัฐธรรมนูญชี้ ม.61 วรรค 2 พ.ร.บ.ประชามติฯไม่ขัด รธน.
ศาล รธน.มีมติเอกฉันท์ ม.61 วรรคสอง พ.ร.บ.ประชามติฯ ไม่ขัด รธน. ชั่วคราวปี’57 หลังผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นเรื่องให้ตีความตามที่เครือข่ายนักวิชาการ iLaw เสนอ
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้ประชุมเพื่อวินิจฉัยกรณีผู้ตรวจการแผ่นดินได้ยื่นเรื่องให้ตีความ พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 (พ.ร.บ.ประชามติฯ) มาตรา 61 วรรคสอง ละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนและขัดต่อรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 มาตรา 4 จึงเป็นกฎหมายที่บังคับใช้ไม่ได้หรือไม่
ล่าสุด ศาลรัฐธรรมนูญได้เผยแพร่เอกสารการประชุมดังกล่าว ระบุว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยเสร็จสิ้นแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์เห็นว่า พ.ร.บ.ประชามติฯ มาตรา 61 วรรคสอง ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 มาตรา 4 จึงไม่มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 (ดูเอกสารประกอบ)
สำหรับกรณีนี้ เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2559 ที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่มีนายศรีราชา วงศารยางกูร ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นประธาน ได้พิจารณาคำร้องของเครือข่ายนักวิชาการซึ่งนำโดยนายจอน อึ๊งภากรณ์ ผู้อำนวยการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) ขอให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยว่า พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559 (พ.ร.บ.ประชามติ) มาตรา 61 วรรคสอง ละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนและขัดต่อรัฐธรรมนูญ จึงเป็นกฎหมายที่บังคับใช้ไม่ได้
โดยที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติเอกฉันท์ให้ส่งเรื่องดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย พ.ร.บ.ประชามติ มาตรา 61 วรรคสอง เนื่องจากมีเนื้อหาไม่ชัดเจน คลุมเครือ อาจทำให้ประชาชนเกิดความสับสน จนไม่กล้าที่จะแสดงความคิดเห็นต่อเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. …. ที่จะมีการลงประชามติในวันที่ 7 สิงหาคม 2559 และอาจมีการใช้เนื้อหาดังกล่าวไปดำเนินการกับประชาชนได้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
พ.ร.บ.ประชามติฯ วรรคสอง มีเนื้อหาว่า ผู้ใดดําเนินการเผยแพร่ข้อความ ภาพ เสียง ในสื่อหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์หรือในช่องทางอื่นใด ที่ผิดไปจากข้อเท็จจริงหรือมีลักษณะรุนแรง ก้าวร้าว หยาบคาย ปลุกระดม หรือข่มขู่โดยมุ่งหวังเพื่อให้ผู้มีสิทธิออกเสียงไม่ไปใช้สิทธิออกเสียง หรือออกเสียงอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือไม่ออกเสียงให้ถือว่าผู้นั้นกระทําการก่อความวุ่นวายเพื่อให้การออกเสียงไม่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย