เร็วไปที่บอกผิดพลาด! อสส.แจงปมคำสั่ง คสช.ย้าย 3 อัยการ-ยันยังไม่สอบ
รองโฆษก อสส. แจงปมคำสั่ง หน.คสช. ย้าย 3 อัยการนาทวี-สมุทรสาคร ยันยังไม่ได้รับข้อมูลจาก ศอตช. รอตั้ง กก.สอบฯก่อน ชี้เร็วเกินไปที่บอกว่าคำสั่งผิดพลาด การันตีเป็นคนมีประวัติไม่ด่างพร้อย ลั่นอัยการทั่วประเทศยังทำหน้าที่ได้ตามปกติ ไม่ต้องกังวล
จากกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 33/2559 ให้ข้าราชการที่ถูกร้องเรียนหรือกล่าวหาว่าปล่อยปละละเยให้มีการกระทำผิดในพื้นที่หรือมีการทุจริตประพฤติมิชอบย้ายไปปฏิบัติราชการใหม่ ซึ่งปรากฏชื่อของนายวาทิต สุวรรณยิ่ง อัยการจังหวัดนาทวี (อสส.) นายมาโนช รัมมะสินธุ์ รองอัยการจังหวัดนาทวี และนายนันทวุธ อุตสาหตัน รองอัยการจังหวัดสมุทรสาคร ไปปฏิบัติราชการในสำนักงาน อสส.
ขณะที่แหล่งข่าวจากกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงกรณีนี้ว่า ภายหลังที่ พล.อ.ประยุทธ์ มีคำสั่งดังกล่าว สำนักงาน อสส. ได้ดำเนินการตรวจสอบถึงสาเหตุว่าทำไมนายวาทิต และนายมาโนช จึงปรากฏชื่อในข้าราชการที่ถูกโยกย้ายด้วย พบข้อเท็จจริงว่า เป็นการเข้าใจผิดของทหารภายในพื้นที่ซึ่งได้รายงานให้หัวหน้า คสช. รับทราบแล้วนั้น
(อ่านประกอบ : ม.44 ย้ายผู้ว่าฯ-ตร.-อัยการฯถูกกล่าวหาทุจริต-สั่งสอบ 30 วันต้องเสร็จ, อสส.สอบแล้ว! ยันคำสั่ง คสช.ย้ายอัยการนาทวีผิดพลาด-ชง‘บิ๊กตู่’แก้)
ล่าสุด นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษก อสส. กล่าวชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวว่า ภายหลังหัวหน้า คสช. มีคำสั่งดังกล่าวแล้ว ได้มีข่าวเผยแพร่ทางสื่อมวลชนอย่างแพร่หลายว่า สำนักงาน อสส. ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีพนักงานอัยการทั้ง 3 คนถูกย้ายเสร็จสิ้นแล้วพบว่า ไม่มีการกระทำผิดใด ๆ และยังมีข่าวแพร่หลายทางสื่อมวลชนด้วยว่า อสส. ได้ประสานงานไปยังนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เพื่อแจ้งผลการตรวจสอบว่าพนักงานอัยการทั้ง 3 คนไม่มีความผิด และขอให้เสนอเรื่องให้หัวหน้า คสช. เพิกถอนเปลี่ยนแปลงคำสั่งนั้น ขอชี้แจงข้อเท็จจริงว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ปัจจุบันสำนักงาน อสส. ยังไม่ได้รับแจ้งเรื่องอันเป็นมูลเหตุให้พนักงานอัยการทั้ง 3 คน ถูกย้ายจากศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) จึงยังไม่อาจทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงอันเป็นมูลเหตุการณ์ถูกย้ายได้
นายประยุทธ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้เมื่อสำนักงาน อสส. ได้รับเรื่องจาก ศอตช. แล้ว อสส. จะได้แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน และผลการตรวจสอบเป็ฯประการใดจะได้ดำเนินการตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 33/2559 ต่อไป
“คำสั่งของนายกฯ ถือเป็นคำสั่งของผู้บังคับบัญชาข้าราชการทั้งหมด เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายต้องปฏิบัติตาม ซึ่งได้กำหนดกรอบไว้ชัดเจนว่า ให้ความเป็นธรรมกับทุกคน ใช้เวลาไม่เกิน 30 วัน เพื่อสอบข้อเท็จจริงให้ถูกต้อง หากไม่พบความผิดใด ๆ ก็จะต้องเยียวยาคืนตำแหน่งในระนาบเดิมแต่นอกพื้นที่เดิม แต่หากพบว่ามีความผิดก็ต้องดำเนินการทางวินัยต่อไป” นายประยุทธ กล่าว
เมื่อถามว่า กรณีพนักงานอัยการจังหวัดนาทวีรายหนึ่งเพิ่งได้รับการแต่งตั้ง อาจเป็นคำสั่งที่ผิดพลาดหรือไม่ นายประยุทธ กล่าวว่า ยังไม่สามารถตอบได้ว่าผิดพลาดหรือไม่ เนื่องจาก อสส. ยังไม่ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ดังนั้นยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าผิดพลาด ต้องรอให้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบก่อน
เมื่อถามว่า กรณีการโยกย้ายพนักงานอัยการดังกล่าว โดยเฉพาะคนที่มีส่วนทำคดีค้ามนุษย์ ที่มีผู้ต้องหาหลายคนเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เจ้าหน้าที่ทหาร ต่อไปอาจเกิดความไม่น่าเชื่อถือในการสั่งคดีหรือไม่ นายประยุทธ กล่าวว่า ยังทำงานได้ตามปกติ แต่ต้องรอการตรวจสอบก่อน หากพบอุปสรรคก็อาจต้องคุยกับผู้บริหารระดับสูง เยียวยาแก้ไขปัญหาได้ แต่ต้องรอการตรวจสอบก่อน การทำหน้าที่ของพนักงานอัยการทั่วประเทศยังทำโดยปกติ ส่วนกรณีที่เกิดขึ้น ต้องรอการตรวจสอบข้อเท็จจริง และเงื่อนเวลาในฐานะหัวหน้า คสช. ดำเนินการคือภายใน 30 วัน
เมื่อถามว่า ประวัติการทำงานของพนักงานอัยการทั้ง 3 รายที่ผ่านมาเป็นอย่างไร นายประยุทธ กล่าวว่า เท่าที่ผ่านมาเคยทำงานร่วมกันกับนายวาทิตแค่คนเดียว ซึ่งมีประวัติน่าชื่นชม ไม่มีอะไรด่างพร้อย ส่วนอีก 2 ราย ทราบจากผู้บังคับบัญชาว่า ได้รับการการันตีว่าเป็นผู้มีประวัติการทำงานไม่มีอะไรตำหนิหรือด่างพร้อย
“แต่สิ่งที่เรารู้จักกัน อาจสรุปว่าไม่ต้องสอบไม่ได้ เมื่อมีคำสั่งก็ต้องสอบ ภาษาทางกฎหมายสอบให้รู้ดำรู้แดง รู้ข้อเท็จจริง แล้วสรุปอีกครั้ง ถ้าดูประวัติก็เป็นที่รับรองในแวดวงอัยการ แต่เมื่อมีคำสั่งอย่างนี้ เป็นเฉพาะกรณี ต้องตรวจสอบและฟังเป็นเรื่อง ๆ ไป” นายประยุทธ กล่าว
ส่วนกรณีที่มีพนักงานอัยการไม่พอใจนั้น นายประยุทธ กล่าวว่า ยังไม่มี เพราะพนักงานอัยการทั่วประเทศต้องปฏิบัติตามกรอบของกฎหมาย และข้อกฎหมาย ระเบียบและแนวทางการปฏิบัติยึดความยุติธรรมให้พี่น้องประชาชน ส่วนการโยกย้ายครั้งนี้ อาจมีคนแสดงความเห็นบ้าง แต่ทั้งหมดอย่างที่เรียนว่าถ้าได้ข้อมูลจาก ศอตช. ซึ่งปัจจุบันยังไม่ทราบมูลเหตุว่าเกิดจากอะไร จึงยังไม่ได้สอบ ถ้าได้ข้อมูลดังกล่าวมาประกอบ และดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 30 วัน ซึ่งใช้เวลาไม่นาน
อ่านประกอบ : ผู้ต้องหารับสารภาพฟ้องด้วยวาจาได้! สนง.ศาลแจงปมคำสั่ง คสช.ย้ายอัยการนาทวี