พล.อ.ปรีชา‘อนุมัติ’แลกเปลี่ยนซากรถยนต์ 128 คัน ปมเงื่อน‘ผู้ชนะ’โอนให้‘จิรภัทร’
เปิดไส้ในดีลแลกเปลี่ยนซากรถยนต์ 128 คัน ขส.ทบ. ประกวดราคา 2 ราย ก่อน‘ธนโชติ’ลูกน้อง ‘จิรภัทร’เข้าวิน ‘พล.อ.ปรีชา’อนุมัติเรียบร้อย ปมเงื่อน วันทำสัญญา‘ผู้ชนะ’โอนให้‘บอลบิน’อีกทอด ผช.ผบ.ทบ.รู้หรือไม่?
กรณีประมูลขายซากเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงแบบ 47 หรือ ฮ.ล.47 (CH-47D-ชีนุก) จำนวน 6 ลำ (เครื่อง) พร้อมชิ้นส่วน เครื่องมือซ่อมบำรุง และบริภัณฑ์ภาคพื้น โดย บริษัท ธนนิพัฒน์ยนต์ตระการ จำกัด ของ นายจิรภัทร วรรัฐกฤติกร (บอลบิน) นักธุรกิจรับซื้อของเก่าใน จ.นครปฐม เป็นผู้ชนะประมูล วงเงิน 420 ล้านบาท เมื่อ 24 ก.พ. 2559 ต่อมา กรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) ได้ยกเลิกประกวดราคา และดำเนินการประกวดราคาใหม่แต่ทว่ามีผู้เสนอราคาเพียงรายเดียว จึงยกเลิกประกวดราคา และได้ประกวดราคาครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.59 โดยบริษัท ภัทรกฤต 11 จำกัด เข้าร่วมประมูลอีกครั้ง ตามข่าวก่อนหน้านี้ (อ่านประกอบ:ประมูลชีนุกรอบ 3 ส่อล้ม 'จิรภัทร'ส่ง บ.ใหม่แข่ง- รับ ใช้ชื่อ'ลูกน้อง'ซื้อซากรถ 128 คัน)
กรณีดังกล่าวเกี่ยวโยงกับการประกวดราคาแลกเปลี่ยนยานพาหนะชำรุ จำนวน 128 คัน มูลค่า 10.6 ล้านบาท ของ ขส.ทบ. เมื่อ 28 พ.ย. 2557 เนื่องเพราะ ‘คู่สัญญา’ แลกเปลี่ยนซากรถยนต์ดังกล่าว เป็นบุคคลคนเดียวกับผู้เข้าประมูลซื้อซากชีนุกข้างต้น เพียงแต่ การแลกเปลี่ยนยานพาหนะชำรุด จำนวน 128 คัน นายจิรภัทร ไม่ได้เข้าร่วมประกวดราคาตั้งแต่แรก ทว่า‘รับโอน’มาจาก นายธนโชติ ดูเบย์ อีกทอดหนึ่ง (นายจิรภัทรชี้แจงว่า เข้าร่วมประมูลไม่ทัน จึงให้นายธนโชติลูกน้องเข้าร่วมประมูลแทน)
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้สัญญาแลกเปลี่ยนรถยนต์ สัญญาเลขที่ 1/2558 วันที่ 1 ก.ค. 2558 ระหว่างกองทัพบก กับนายธนโชติ ดูเบย์ อยู่บ้านเลขที่ 89 หมู่ที่ 3 ต.ลำลูกบัว อ.ดอนตูม จ.นครปฐมโดยนายจิรภัทรวรรัฐกฤติกร อยู่บ้านเลขที่ 1378 ถ.เพชรเกษม ต.ลำพระยา อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม ‘ผู้รับแลกเปลี่ยน’ มารายงานไปแล้ว
ล่าสุดนำความเป็นมาของประกวดราคาแลกเปลี่ยนรถยนต์ชำรุด 128 คันมาเสนอ ดังนี้
29 ธ.ค.57 คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา ทำบันทึกรายงานพิจารณาผลการประกวดราคา เสนอ จก.ขส.ทบ. ระบุว่า มีผู้มายื่นซองเสนอการแลกเปลี่ยนจำนวน 2 ราย คือ 1. นายทนง ชาติทองคำ และ 2.นายธนโชติ ดูเบย์
คณะกรรมการผลการประกวดราคาแลกเปลี่ยน ได้ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เสนอราคา, บัญชีรายชื่อผู้มาขอรับประกาศฯ, ตรวจสอบผู้มีผลประโยชน์ร่วมกัน และตรวจสอบรายชื่อผู้ทิ้งงานแล้ว ปรากฏว่ามี 2 ราย มีชื่อผู้มาขอรับประกาศฯ , ไม่มีรายชื่อผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันและไม่มีรายชื่อเป็นผู้ทิ้งงาน คณะกรรมการฯจึงรับไว้พิจารณาทั้ง 2 ราย ซึ่งทั้ง 2ราย ได้เสนอยานพาหนะใหม่ให้พิจารณาดังนี้
หนึ่ง นายทนง ชาติทองคำ ได้เสนอยานพาหนะใหม่ จำนวน 5 รายการ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 10,269,000 บาท กำหนดยืนราคา 180 วัน นับแต่วันเปิดซองประกวดราคา กำหนดส่งมอบภายใน90วัน นับถัดจากวันลงนามในสัญญาแลกเปลี่ยน รับประกันความชำรุดบกพร่อง หรือขัดข้องของพัสดุเป็นเวลา 12 เดือน นับถัดจากวันที่ผู้แลกเปลี่ยนได้รับมอบยานพาหนะใหม่ถูกต้อง มีรายละเอียด
1. รถโดยสารขนาดเล็ก ขนาด 12 ที่นั่ง สีขาวตามมาตรฐานผู้ผลิต เครื่องยนต์ดีเซล หลังคาสูง ปริมาตรกระบอกสูบไม่ต่ำกว่า 2,450 ซีซี มีคอนโซลหลังคนขับ ปูพื้น และกรุผนังโดยรอบ แยกที่นั่ง พนักพิงปรับเอนนอนได้หลายระดับ พร้อมเครื่องปรับอากาศ ฟิล์มกรองแสง และพ้นกันสนิม ยี่ห้อ โตโยต้า คอมมิวเตอร์ หลังคารุ่น 3.0 เกียร์ธรรมดา 5 สปีด เป็นผลิตภัณฑ์จากประเทศญี่ปุ่นประกอบในประเทศไทย ในราคาคันละ 1,269,000 บาท จำนวน 5 คัน เป็นเงินทั้งสิ้น 6,345,000 บาท
2. รถยนต์บรรทุกปกติขนาดเล็ก ยี่ห้อ โตโยต้า วีโก้ สมาร์ทแคบ ดีเซล รุ่น 2.5 อี 4X4 เกียร์ธรรมดา 5 สปีด แบบ 4X4 ชนิดมีช่องว่างด้านหลังพลขับ เครื่องยนต์ดีเซล พร้อมหลังคาผ้าใบ ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ฟิล์มกรองแสง พ่นกันสนิม พร้อมวิทยุสื่อสารและสัญญาณไฟวับวาบ เป็นผลิตภัณฑ์จากญี่ปุ่น ประกอบในประเทศไทย จำนวน 1 คัน ในราคาคันละ 769,000 บาท
3. รถยนต์ตรวจการณ์ ยี่ห้อ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ 4X4 รุ่น 3.0 วีเอที เกียร์อัตโนมัติ ดีเซลแบบ 4X4 เครื่องยนต์ดีเซล ปริมาตรกระบอกสอบไม่น้อยกว่า 2,900 ซีซี พร้อมเครื่องปรับอากาศ ฟิล์มกรองแสง และพ่นกันสนิม เป็นผลิตภัณฑ์จากประเทศญี่ปุ่น ประกอบในประเทศไทย จำนวน 1 คัน ในราคาคันละ 1,456,000 บาท
4. รถยนต์ขนาด 1,600 ซีซี ยี่ห้อ โตโยต้า โคโรล่า อัลติส รุ่น 1.6 จี เอที เกียร์อัตโนมัติ พร้อมเครื่องปรับอากาศ ฟิล์มกรองแสง และพ่นกันสนิม เป็นผลิตภัณฑ์จากประเทศไทย ประกอบในประเทศไทย จำนวน 1 คัน เป็นเงินทั้งสิ้น 829,000 บาท
5 รถจักรยานยนต์ ขนาดความจุกระบอกสูบไม่น้อยกว่า 123 ซีซี ติดเครื่องยนต์ด้วยมือ เกียร์อัตโนมัติ ยี่ห้อ ซูซูกิ 125 ซีซี ดิสเบรกหน้ารุ่น สตาร์ทมือ / ล้อซี่ลวด เป็นผลิตภัณฑ์จากประเทศประเทศญี่ปุ่น ประกอบในประเทศไทย ในราคาคันละ 53,500 บาท จำนวน 20 คัน เป็นเงินทั้งสิ้น 870,000 บาท
สอง นายธนโชติ ดูเบย์ ได้เสนอยานพาหนะใหม่ จำนวน 5 รายการ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 15,137,000 บาท กำหนดยืนราคา 180 วัน นับแต่วันเปิดซองประกวดราคา กำหนดส่งมอบภายใน 60 วัน นับจากวันลงนามในสัญญาแลกเปลี่ยน รับประกันความชำรุดบกพร่อง หรือขัดข้องของพัสดุเป็นเวลา 12 เดือน นับจากวันที่ผู้ให้แลกเปลี่ยนได้รับมอบยานพาหนะใหม่ถูกต้อง ดังมีรายละเอียดดังนี้
1. รถโดยสารขนาดเล็ก ขนาด 12 ที่นั่ง สีขาวตามมาตรบานผู้ผลิต เครื่องยนต์ดีเซล หลังคาสูง ปริมาตรกระบอกสูบไม่ต่ำกว่า 2,450 ซีซี มีคอนโซลหลังคนขับ ปูพื้น และกรุผนังโดยรอบ แยกที่นั่ง พนักพิงปรับเอนนอนได้หลายระดับ พร้อมเครื่องปรับอากาศ ฟิล์มกรองแสง และพ่นกันสนิม ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น คอมมิวเตอร์ เป็นผลิตภัณฑ์จากประเทศไทย ประกอบในประเทศไทย ในราคาคันละ 1,215,000 บาท จำนวน 7 คัน เป็นเงินทั้งสิ้น 8,505,000 บาท
2. รถยนต์บรรทุกปกติขนาดเล็ก ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น ไฮลักซ์วีโก้แชมป์ สมาร์ทแคป แบบ 4X4 ชนิดมีช่องว่างด้านหลังพลขับ เครื่องยนต์ดีเซล พร้อมหลังคาผ้าใบ ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ฟิล์มกรองแสง พ่นกันสนิม พร้อมวิทยุสื่อสารและสัญญาณไฟวับวาบ เป็นผลิตภัณฑ์จากประเทศไทย ประกอบในประเทศไทย ในราคาคันละ 749,000 บาท จำนวน 2 คัน เป็นเงินทั้งสิ้น 1,498,000 บาท
3. รถยนต์ตรวจการณ์ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น ฟอร์จูนเนอร์ แบบ 4X4 เครื่องยนต์ดีเซล ปริมาตรกระบอกสูบไม่น้อยกว่า 2,900 ซีซี พร้อมเครื่องปรับอากาศ ฟิล์มกรองแสง พ่นกันสนิม เป็นผลิตภัณฑ์จากประเทศไทย ประกอบในประเทศไทย ในราคาคันละ 1,468,000 บาท จำนวน 2 คัน เป็นเงินทั้งสิ้น 2,936,000 บาท
4. รถยนต์นั่งขนาด 1,600 ซีซี ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น อัลติส พร้อมเครื่องปรับอากาศ ฟิล์มกรองแสง พ่นกันสนิม เป็นผลิตภัณฑ์จากประเทศไทย ประกอบในประเทศไทย ในราคาคันละ 829,000 บาท จำนวน 2 คัน เป็นเงินทั้งสิ้น 1,658,000 บาท
5. รถจักรยานยนต์ ขนาดความจุไม่น้อยกว่า 123 ซีซี ติดเครื่องยนต์ด้วยมือ เกียร์อัตโนมัติ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น เวฟ125ไอ เป็นผลิตภัณฑ์จากประเทศไทย ประกอบในประเทศไทย ในราคาคันละ 54,000 บาท จำนวน 10 คัน เป็นเงินทั้งสิ้น 540,000 บาท
คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาแลกเปลี่ยนฯ ได้ร่วมกันพิจารณาแล้ว นายธนโชติ ดูเบย์ เป็นผู้เสนอยานพาหนะใหม่ที่ให้ผลประโยชน์กับทางราชการสูงสุด โดยเสนอราคารถยนต์โยสารขนาดเล็ด (ดีเซล) แบบที่ 2 ให้กับทางราชการ จำนวน 7 คัน รายการรถยนต์บรรทุกขาดเล็ก จำนวน 2 คัน, รายการรถยนต์ตรวจการณ์ จำนวน 2 คัน ,รายการรถยนต์นั่งขนาด 1,600 ซีซี จำนวน 2 คัน และรายการรถจักรยานยนต์ ขนาดความจุกระบอกสูบไม่น้อยกว่า 125 ซีซี จำนวน 10 คันรวมมูลค่ายานพาหนะใหม่ จำนวน 5 รายการ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 15,137,000 บาท ซึ่งให้ราคาสูงกว่าราคากลางของยานพาหนะชำรุด จำนวน 128 คัน ที่คณะกรรมการกำหนดราคากลางกำหนดไว้ เป็นเงินทั้งสิ้น 4,502,000 บาท ซึ่งคณะกรรมการกำหนดราคากลางได้กำหนดราคากลางของยานพาหนะชำรุด จำนวน 128 คัน ไว้เป็นเงินทั้งสิ้น 10,635,000 บาท (15,137,000,-10,635,000) แต่เพื่อให้ทางราชการได้รับผลประโยชน์สูงสุด คณะกรรมการฯ จึงได้เจรจาขอให้ นายธนโชติ ดูเบย์ เพิ่มจำนวนยานพาหนะใหม่ให้กับทางราชการอีก แต่นายธนโชติ ดูเบย์ ไม่สามารถเพิ่มยานพาหนะใหม่ให้กับทางราชการได้อีก จึงขอยืนยันจำนวนยานพาหนะใหม่ตามที่เสนอไว้
คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาแลกเปลี่ยนฯ จึงได้พิจารณาให้ นายธนโชติ ดูเบย์ ซึ่งเป็นผู้ให้ผลประโยชน์สูงสุดกับทางราชการ เป็นผู้เข้าประกวดราคาแลกเปลี่ยนยานพาหนะชำรุด จำนวน 128 คัน กับยานพาหนะใหม่ จำนวน 5 รายการ มีมูลค่ายานพาหนะใหม่ จำนวน 5 รายการ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 15,137,000 บาท กำหนดยืนราคา 180 วัน นับแต่วันเปิดซองประกวดราคา กำหนดส่งมอบภายใน 60 วัน นับจากวันลงนามในสัญญาแลกเปลี่ยน รับประกันความชำรุดบกพร่อง หรือขัดข้องของพัสดุเป็นเวลา 12 เดือน นับจากวันที่ผู้ให้แลกเปลี่ยนได้รับมอบหมายยานพาหนะใหม่ถูกต้อง กับนายนายธนโชติ ดูเบย์
9 มิ.ย.58 พล.ท.สมชาย ยังพิทักษ์ เจ้ากรมส่งกำลังบำรุงทหารบก (จก.กบ.ทบ.)ทำหนังสือถึง ผบ.ทบ. (ผ่าน ผช.ผบ.ทบ.(2)) ของอนุมัติแลกเปลี่ยนฯ ผ่าน รองเสธ.ทบ.4 และ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ผช.ผบ.ทบ. ‘อนุมัติตามเสนอ’เมื่อ 11 มิ.ย.58
นี่คือความเป็นมา
อย่างไรก็ตาม เห็นได้ว่า ‘ผู้ชนะประกวดราคา’กับ ‘ผู้ลงนามเป็นคู่สัญญา’แลกเปลี่ยนเป็นคนละคนกัน?
กรณีนี้ ‘ผู้อนุมัติ’ คือ ‘ผช.ผบ.ทบ.’ เป็นการอนุมัติให้มีการแลกเปลี่ยนซากรถยนต์ฯ ระหว่าง ทบ.โดย ขส.ทบ. กับ ผู้ชนะประกวดราคา คือ นายธนโชติ ดูเบย์ แต่ในขั้นตอนการทำสัญญา บุคคลผู้ลงนามในสัญญาแลกเปลี่ยนกลับ เป็นนายจิรภัทร วรรัฐกฤติกร ซึ่งเป็นเจ้านายนายธนโชติ (โดยการรับมอบอำนาจ)
ประเด็นก็คือ 1.ขณะลงนาม ผช.ผบ.ทบ รู้หรือไม่ว่า ผู้ชนะตัวจริงคือ นายจิรภัทร?
2.หาก ผช.ผบ.ไม่รู้ ต้องผ่านความเห็นชอบจาก จก.กบ.ทบ. และ ผช.ผบ.ทบ. อีกหรือไม่
3.และชอบตามระเบียบพัสดุฯหรือไม่?
น่าจะมีคนชี้ขาด?
อ่านประกอบ:
โชว์‘สัญญาแลกเปลี่ยน’ซากรถยนต์ 128 คัน ทบ. ‘จิรภัทร’ โผล่รับโอนจาก'ลูกน้อง'
ประมูลชีนุกรอบ 3 ส่อล้ม 'จิรภัทร'ส่ง บ.ใหม่แข่ง- รับ ใช้ชื่อ'ลูกน้อง'ซื้อซากรถ 128 คัน
พบ‘บอลบิน’คู่ค้าแลกรถยนต์ชำรุด 128 คัน ทบ. ที่แท้ ‘รับโอน’จาก‘ผู้ชนะ’ประมูล
'อิศรา'ถาม บิ๊ก บ.ไทยแอโรสเปซฯ ตอบ เบื้องหลังดีลแลกแบล็คฮอว์ค-ปมชีนุก420 ล