ออกหมายเรียก"ศรีราชา-รสนา-ปานเทพ"แจง ข้อกล่าวหาปตท.อ้างหมิ่นศาลคดีท่อก๊าซ
ศาลปกครองสูงสุด ออกหมายเรียก 'รสนา-ศรีราชา-ปานเทพ' ให้ถ้อยคำ 28 มิ.ย.นี้หลัง ปตท.ยื่นคำร้องอ้างให้สัมภาษณ์สื่อ แสดงความเห็นเข้าข่ายหมิ่นศาลคดียกฟ้องท่อก๊าซ
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ศาลปกครองสูงสุด ได้ออกหมายเรียกตัว น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และเครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย ไปให้ถ้อยคำต่อศาลปกครองสูงสุด ในวันที่ 28 มิ.ย.2559 นี้ เพื่อไต่สวนข้อเท็จข้อเท็จจริงว่า การให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน และการแสดงความเห็นในคดีที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กับพวก ยื่นฟ้องคณะรัฐมนตรี , นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และบริษัท ปตท จำกัด (มหาชน) ร่วมกันกระทำการแบ่งแยกทรัพย์สินในส่วนที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน สิทธิการใช้ที่ดินเพื่อวางระบบการขนส่งปิโตรเลียมทางท่อ (คดีคืนท่อก๊าซปตท.) ซึ่งศาลปกครองสูงสุดได้พิพากษาให้ยกคำขอของผู้ฟ้องคดีไปแล้ว เข้าข่ายข่ายเป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลหรือดูหมิ่นศาลหรือไม่
ทั้งนี้ ศาลปกครองสูงสุด ได้แจ้งเหตุผลการออกหมายเรียกตัว น.ส.รสนา โตสิตระกูล เข้าให้ถ้อยคำกรณีนี้ว่า ได้พิจารณาคำร้องของ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 คือ บริษัท ปตท จำกัด (มหาชน) ลงวันที่ 27 พ.ค.2559 มีข้อความตามสำเนาคำร้องและสำนวนพยานหลักฐาน ซึ่ง ปตท. อ้างว่า น.ส.รสนา นายศรีราชา วงศารยางกูร ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน และนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ อดีตโฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านทางสื่อช่องต่างๆ เผยแพร่สู่ประชาชนเป็นวงกว้าง เกี่ยวกับคำพิพากษาและคำสั่งศาลคดีนี้หลายครั้ง ซึ่ง ปตท. เห็นว่า การให้สัมภาษณ์ดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสียหาย และเสื่อมเสียต่อชื่อเสียงของศาล บุคคล และองค์กรที่ถูกพาดพิง ทั้งอาจทำให้ผู้ที่ได้รับชมข่าวสาร หรือบทสัมภาษณ์ดังกล่าวเหล่านั้น เกิดความเกลียดชัง ดูหมิ่นดูแคลน และไม่เชื่อถือต่อการปฏิบัติหน้าที่หรือดำเนินการของศาลและองค์กรที่เกี่ยวข้องต่างๆ จึงขอให้ศาลพิจารณามีคำสั่งให้บุคคลดังกล่างหยุดการกระทำในลักษณะดังกล่าว หรือมีคำสั่งตามที่เห็นสมควรอย่างใดๆ ต่อไป
ดังนั้น เพื่อประโยชน์ในการพิจารณาว่าการแสดงความคิดเห็นและการให้สัมภาษณ์ของน.ส.รสนา เข้าข่ายเป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลหรือดูหมิ่นศาลหรือไม่ และเพื่อให้การพิจารณาคำร้องดังกล่าวเป็นไปด้วยความยุติธรรม จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 61 แห่งพ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครอง และวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 จึงมีคำสั่งให้น.ส.รสนา นายศรีราชาและนายปานเทพ มาให้ถ่อยคำต่อศาลปกครองสูงสุด
ทั้งนี้ ผู้ขัดขืนไม่ไปศาลตามคำสั่งนี้ อาจถูกฟ้องตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 180 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (ดูหมายเรียกประกอบ)