โชว์หนังสืออัยการชงสอบเพิ่ม! เบื้องหลัง‘ศุภชัย-วัฒน์ชานนท์-อดีตผช.รมต.’ โดนคดีฟอกเงิน
โชว์หนังสืออัยการชงดีเอสไอสอบเพิ่ม เบื้องหลัง ‘ศุภชัย-วัมน์ชานนท์-อดีต ผช.รมต.คลัง’ โดนลุยสอบคดีฟอกเงินด้วย ถามชัดโอนเงินให้มีหนี้ไหม-มีหลักฐานหรือเปล่า ?
สาธารณชนอาจทราบไปแล้วว่า คดียักยอกทรัพย์สินของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น มีทั้งหมด (เท่าที่ตรวจสอบพบ) จำนวน 9 คดี รวมมูลค่าความเสียหายเฉียด 2 หมื่นล้านบาท มี ‘ศุภชัย ศรีศุภอักษร’ อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น เป็น ‘คีย์แมน’ ในการโอนเงิน-เช็คไปที่ต่าง ๆ
แต่กรณีที่เกิดความเสียหายมากที่สุดนั้น ต้องยกให้กรณีที่นายพิษณุ ชีวะสิทธิ์ กับพวก ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับนายศุภชัย น.ส.ศรัณยา มานหมัด นายลภัส โสมคำ และนายกฤษฎา บุญมาก (ทั้งหมดเป็นอดีตกรรมการ และอดีตสมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น) ข้อหาร่วมกันยักยอกทรัพย์สิน ทำให้เกิดความเสียหาย 13,334,158,975 บาท (ประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาท)
ปัจจุบันดีเอสไอได้สรุปสำนวน และมีความเห็นสั่งฟ้องในคดีดังกล่าว พร้อมส่งสำนวนให้อัยการไปแล้วในช่วงเดือน ก.พ. 2557 อย่างไรก็ดีพนักงานอัยการมีคำสั่งให้สอบสวนเพิ่มในหลายประเด็น โดยมีประเด็นสำคัญคือ รายละเอียดของเช็คจำนวน 787 ฉบับ ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ได้สอบสวนเพิ่มเติมและทยอยส่งผลการสอบสวนให้พนักงานอัยการไปแล้วในช่วงเดือน พ.ย. 2558
ต่อมาในช่วงเดือน ม.ค. 2559 คณะพนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้องนายศุภชัย นายกฤษฎา กับบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องรวม 4 ราย ในข้อหายักยอกทรัพย์สินและปลอมแปลงเอกสารสิทธิ
พร้อมกับแนะนำให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับนายศุภชัยฐานฟอกเงิน เนื่องจากได้นำเช็ค เงินสด หรือทรัพย์สินอื่นที่ได้มาจากการกระทำความผิดไปโอนมอบให้บุคคลอื่นด้วย (ปัจจุบันดีเอสไอดำเนินคดีฟอกเงินกับนายศุภชัยแล้ว)
นอกจากนี้ยังมีความเห็นให้ ดีเอสไอตรวจสอบว่า นายวัฒน์ชานนท์ นวอิสรารักษ์ ประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนรัฐประชา และนายจิรเดช วรเพียลกุล อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการคลัง (สมัยนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นรัฐมนตรี) มีพฤติการณ์ฟอกเงิน และรับของโจรด้วยหรือไม่ ซึ่งปัจจุบันดีเอสไออยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล และพยานหลักฐานในกรณีดังกล่าวแล้ว
(อ่านประกอบ : เปิด 9 คดียักยอก-ฟอกเงินสหกรณ์คลองจั่นฯ-เครือข่ายธรรมกายหมื่นล.ก่อนจับ'ธัมมชโย', ได้รับเช็ค'ศุภชัย'! อัยการให้ดีเอสไอสอบ‘วัฒน์ชานนท์-อดีต ผช.รมต.’คดีฟอกเงิน)
บ่งชี้ให้เห็นว่าดีเอสไอสอบสวนคดีนี้เต็มไปด้วยความคลุมเครือ-ไม่รอบคอบ ?
ก่อนที่ดีเอสไอจะกลับไปดำเนินการสอบสวนอีกครั้ง และส่งให้อัยการเพื่อสั่งฟ้องบุคคลเพิ่มอีกหลายราย !
เพื่อขยายความให้ชัดขึ้น สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org เปิดเผยหนังสือของอัยการที่มีข้อเสนอให้ดีเอสไอไปสอบเพิ่มเติมในอีกหลายประเด็น ให้สาธารณชนรับทราบ ดังนี้
คดีนี้มีผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด 6 ราย ได้แก่ นายศุภชัย (ผู้ต้องหาที่ 1) น.ส.ศรัณยา มานหมัด (ผู้ต้องหาที่ 2) นายลภัส โสมคำ (ผู้ต้องหาที่ 3) นายกฤษฎา บุญมาก (ผู้ต้องหาที่ 4) นายจิรเดช (ผู้ต้องหาที่ 5) และนายวัฒน์ชานนท์ (ผู้ต้องหาที่ 6)
กรณีนี้ดีเอสไอได้ส่งสำนวนการสอบสวนให้อัยการเพื่อสั่งฟ้องบุคคลผู้ถูกกล่าวหา 2 ราย (นายศุภชัย และ น.ส.ศรัณยา) เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2557 ต่อมา เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 2557 นายชาติพงษ์ จีระพันธุ อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 (ขณะนั้น) ได้ส่งหนังสือตอบกลับไปยังดีเอสไอ มีเนื้อหา ดังนี้
คณะทำงานคดีนี้ได้ประชุมปรึกษาเพื่อพิจารณาสำนวนคดีนี้แล้ว เห็นว่า ข้อเท็จจริงในสำนวนหลายประการยังไม่กระจ่างชัด ประกอบกับผู้เสียหายในคดีนี้มีเป็นจำนวนมาก จำนวนค่าเสียหายมีจำนวนสูง และผลการสั่งคดีจะกระทบต่อความเชื่อมั่นในระบบสหกรณ์ของประเทศ จึงเห็นควรดำเนินการอย่างละเอียด รอบคอบ ครบประเด็น และเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย
จึงมีคำสั่งให้พนักงานสอบสวน ดีเอสไอ จัดการสอบสวนเพิ่มเติมในประเด็นดังต่อไปนี้
1.ให้จัดส่งเอกสารสำเนาคำฟ้องคดีอาญาและคดีแพ่งที่ คระกรรมการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ชุดที่ 28 ยื่นฟ้องผู้ต้องหาที่ 1 (นายศุภชัย) กับพวก ต่อศาลอาญา และศาลแพ่งพร้อมคำร้องขอถอนฟ้องทั้งสองนี้ และคำสั่งศาล มาประกอบสำนวน
2.ให้สอบสวนพยานผู้เกี่ยวข้องกับการฟ้องคดีอาญา ตามเอกสารข้อ 1 ว่า
2.1 เหตุใดการฟ้องคดีดังกล่าวต่อศาลอาญา จึงมีจำนวนเพียง 323 กรรม ทั้ง ๆ ที่ปรากฏตามรายการสอบสวนข้อเท็จจริง ตามคำสั่งคณะกรรมการสหกรณ์ฯ ชุดที่ 28 ว่า มีการกระทำผิดด้วยการออกเช็คถึง 878 กรรม จำนวนเช็คและจำนวนเงินที่ไม่รงกันในเอกสารทั้งสองชุด คือจำนวนใด และเหตุใดจึงไม่ครบถ้วน และตรงกัน
2.2 เหตุใดจึงยื่นฟ้องคดีอาญาเฉพาะผู้ต้องหาที่ 1 (นายศุภชัย) และผู้ต้องหาที่ 2 (น.ส.ศรัณยา) ไม่ยื่นฟ้องผู้ต้องหาอื่น ๆ ด้วย
2.3 เหตุใดจึงไม่มีการยื่นฟ้องการกระทำความผิดอาญา กลุ่มความผิดที่ผู้ต้องหาที่ 1 กับพวก เบิกเงินสดหน้าเคาน์เตอร์ และตู้เก็บรักษาเงิน (ตามรายงานการสอบสวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการสหกรณ์ฯ ชุดที่ 28 รวมทั้งสิ้น 86 กรรม จำนวนเงิน 1,966,940,162 บาท
2.4 เหตุใดจึงไม่มีการยื่นฟ้องการกระทำความผิดอาญา กลุ่มความผิดที่ผู้ต้องหาที่ 1 กับพวกทำเอกสารเท็จเกี่ยวกับสัญญาการกู้ยืมเงิน สัญญาจำนอง ฯลฯ จำนวน 27 ราย (ตามรายงานสอบสวนข้อเท็จจริงคณะกรรมการสหกรณ์ฯ ชุดที่ 28)
2.5 ในขณะเกิดเหตุมีระเบียบข้อบังคับใดของสหกรณ์ที่กำหนดไว้เกี่ยวกับการถอนฟ้องคดีว่าต้องดำเนินการอย่างไร หรือไม่
3.คณะกรรมการสหกรณ์ฯชุดที่ 27, 28, 29 แต่ละชุดประกอบด้วยผู้ใดบ้าง แต่ละชุดเข้าและพ้นจากการดำรงตำแหน่งเมื่อใด ขณะนี้คณะกรรมการชุดใดทำหน้าที่บริหาร องค์ประกอบคณะกรรมการมีใครบ้าง
4.ตามรายงานการสอบสวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการสหกรณ์ฯชุดที่ 28 กล่าวถึงพฤติการณ์ของผู้ต้องหาที่ 1 (นายศุภชัย) โอนเงินของสหกรณ์ฯไปยังบุคคลภายนอก (รวมถึงผู้ต้องหาที่ 5 (นายวัฒน์ชานนท์) และผู้ต้องหาที่ 6 (นายจิรเดช)) โดยปราศจากมูลหนี้นั้น ให้สอบสวนบุคคลภายนอกที่ปรากฏตามรายงานการสอบสวนที่อ้างถึงว่า การโอนดังกล่าว มีมูลหนี้อะไร มีเอกสารหลักฐานอ้างอิงได้หรือไม่ ให้ส่งมาประกอบสำนวนการสอบสวน
5.สืบเนื่องจากข้อ 4 ในส่วนที่เกี่ยวกับผู้ต้องหาที่ 6 (นายวัฒน์ชานนท์) ปรากฏข้อเท็จจริงตามสำนวนการสอบสวนว่า เคยได้รับเช็คจากผู้ต้องหาที่ 1 (นายศุภชัย) ไป 21 ครั้ง รวมจำนวนเงิน 667,950,000 บาท แต่ปรากฏตามรายงานการสอบสวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการสหกรณ์ฯชุดที่ 28 ว่า นายวัฒน์ชานนท์ เคยได้รับเช็คจากนายศุภชัยไป 61 ครั้ง รวมจำนวนเงิน 1,927,326,027 บาท
จึงให้ตรวจสอบว่า ข้อเท็จจริงใดถูกต้อง แลหากข้อเท็จจริงตามรายงานการสอบสวนข้อเท็จจริงฯถูก ให้แก้ไขการแจ้งข้อกล่าวหา และพฤติการณ์ในการกระทำผิดให้นายวัฒน์ชานนท์ทราบ
6.ให้สอบสวนสมาชิกสหกรณ์ฯ จำนวน 136 ราย ที่ลงลายมือชื่อไว้แนบท้ายคำให้การนายพิษณุ ไว้ในฐานะพยานผู้เสียหายโดยเฉพาะ ให้สอบสวนว่าแต่ละคนถือหุ้นในสหกรณ์ฯคนละเท่าไหร่ และทราบถึงความเสียหายดังกล่าวตั้งแต่เมื่อไหร่ พฤติการณ์ที่เสียหายอย่างไร
7.ให้สอบสวนนายพิษณุว่า ในขณะร้องทุกข์ สหกรณ์ฯมีสมาชิกจำนวนเท่าใด เหตุใดคดีนี้สมาชิกทั้งหมดและคณะกรรมการสหกรณ์ฯชุดที่มีอำนาจบริหารอยู่ในณะที่นายพิษณุฯร้องทุกข์ จึงไม่ได้มาร้องทุกข์ด้วย
ปรากฏชื่อนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ (ขณะนั้น) ลงนามตอบรับเมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2557 (ดูเอกสารประกอบ)
หลังจากนั้นดีเอสไอได้ทำการสอบสวนเพิ่มเติม ก่อนจะส่งสำนวนใหม่ให้กับอัยการในช่วงปลายกลางเดือน พ.ย. 2558 กระทั่งอัยการมีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาบางราย และไม่สั่งฟ้องผู้ต้องหาบางรายในคดีดังกล่าว สรุปได้ ดังนี้
หนึ่ง มีคำสั่งฟ้องนายศุภชัย น.ส.ศรัณยา นายลภัส และนายกฤษดา ในฐานความผิดร่วมกันลักทรัพย์นายจ้าง และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิ โดยให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อเท็จจริงและข้อหาดังกล่าว พร้อมทั้งสอบคำให้การผู้ต้องหาทั้งหมด ส่งให้พนักงานอัยการต่อไป
สอง ให้สอบสวนเพิ่มเติม กรณีนางทองพิน กันล้อม เหรัญญิกคณะกรรมการสหกรณ์ฯ (ชุดนายศุภชัย เป็นประธาน) ซึ่งมิใช่ผู้ต้องหาในคดีนี้ ได้ร่วมลงลายมือชื่อกับนายศุภชัย สั่งจ่ายเช็คของสหกรณ์ฯ (ปัจจุบันถูกดีเอสไอแจ้งข้อกล่าวหา และมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว)
สาม สั่งไม่ฟ้องนายจิรเดช และนายวัฒน์ชานนท์ ในข้อหาร่วมกันยักยอกทรัพย์ แต่ให้สอบสวนทั้งสองราย ว่ากระทำความผิดฐานรับของโจรหรือฟอกเงินหรือไม่ (ปัจจุบันดีเอสไออยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน)
สี่ ให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับนายศุภชัย ฐานฟอกเงิน เนื่องจากได้นำเช็ค เงินสด หรือทรัพย์สินอื่น ที่ได้มาจากการกระทำความผิดไปโอนมอบให้บุคคลอื่นอีกหลายรายหลายครั้ง (ปัจจุบันดีเอสไอทำคดีนี้เป็นคดีพิเศษแล้ว)
ทั้งหมดคือเบื้องลึก-ฉากหลังในคดีดังกล่าว ซึ่งอาจเห็นได้ว่าในช่วงเวลาขณะนั้น ดีเอสไอ สอบสวน ‘ไม่รอบคอบ’ จนทำให้ฝั่งอัยการต้องมา ‘กระตุ้น’ เพื่อดำเนินการให้เรียบร้อยรัดกุม ก่อนจะมีคำสั่งฟ้อง
ท้ายสุดคดีนี้จะมีบทสรุปอย่างไร คงต้องติดตามกันต่อไปยาว ๆ
อ่านประกอบ :
โชว์หนังสืออัยการชงสอบเพิ่ม! เบื้องหลัง‘ศุภชัย-วัฒน์ชานนท์-อดีตผช.รมต.’ โดนคดีฟอกเงิน
ขมวดเงื่อนปมซับซ้อน! การขายที่ดิน‘ศุภชัย’ 477 ล.ชดใช้หนี้คดีคลองจั่น
ยลโฉมที่ดิน 36 แปลงโคราช‘ศุภชัย’ ก่อนขายใช้หนี้สหกรณ์ฯ-‘ธาริต’เซ็นเพิกถอน
‘ธาริต’เซ็นรับรองไม่พบความผิดสหกรณ์ฯคลองจั่น-เจ้าตัวให้ดีเอสไอตอบ
เบื้องหลัง! โชว์หนังสือ‘ศุภชัย’ขอ‘ธาริต’รับรองสหกรณ์ฯ-สยบข่าวลือบริหารพลาด?
แกะรอย‘โชคอนันต์’คนโอนค่าที่ดิน-ที่แท้หักจากบัญชี‘ศุภชัย’กระจายเครือข่าย
INFO:ขมวดเส้นทางเงินขายที่ดิน 477 ล. ‘ศุภชัย’ใครได้เท่าไหร่-อยู่ไหนบ้าง?
‘โชคอนันต์’รับเงิน 477 ล.ค่าที่ดินแทน‘ศุภชัย’-ทำสัญญาหลังวันโอนเช็ค
ไม่ใช่แค่ บ.อดีตพระธรรมกาย! บ.ประกันภัย‘ศุภชัย’ได้ด้วย 30 ล.ค่าขายที่ดิน
ยังไม่หมด! สหกรณ์ฯมงคลเศรษฐีเครือเดียว‘ศุภชัย’ได้ค่าขายที่ด้วย 30 ล.
ดีเอสไอขยายผลสอบปมฟอกเงินขายที่ดิน‘ศุภชัย’-คนรับโดนด้วย
บ.อดีตพระธรรมกายโผล่รับเงินค่าที่ดิน‘ศุภชัย’ 40 ล.-อดีตนายแบงก์คนสั่งโอน
ขมวดปมพิรุธค่านายหน้าขายที่‘ศุภชัย’ 60 ล.ก่อน‘กุนซือ’ปธ.ผู้ตรวจฯ ไขก๊อก
พูดอย่างลูกผู้ชาย! ‘กุนซือ’ปธ.ผู้ตรวจฯเคลียร์ปมค่านายหน้าที่ดิน‘ศุภชัย’
กุนซือ ปธ.ผู้ตรวจการแผ่นดินไขก๊อก-เซ่นค่านายหน้าขายที่ดิน ‘ศุภชัย’
เบื้องหลัง‘ศุภชัย’โชว์สัญญาขายที่ดินกลางวงประชุมฯ-อ้างดีลคนซื้อได้
เจาะงบดุล บ.'กุนซือปธ.ผู้ตรวจการแผ่นดิน' ไม่พบค่านายหน้าขายที่ ศุภชัย 15 ล.
'อดีตนายแบงก์'เอี่ยว! เปิดหนังสือลับ'ณฐพร'แจงหยิบค่านายหน้าขายที่ศุภชัย 60 ล.
ปูด! 'บิ๊กดีเอสไอ'ได้รับส่วนแบ่งขายที่ดิน'ศุภชัย'-ตั้ง กก.สอบปีกว่าไม่คืบหน้า
เปิดบันทึก กก.คุ้มครองสิทธิฯเทียบคำชี้แจง‘สีหนาท’ไฉนปล่อย‘ศุภชัย’ขายที่เอง
เชื่อทำธุรกิจปกติ!'ศรีราชา'ไม่ปลด'กุนซือ'พันคดีรับเช็คขายที่ดิน‘ศุภชัย’ 60 ล.
กุนซือ ปธ.ผู้ตรวจการแผ่นดินได้เช็ค 60 ล.อ้างค่านายหน้าขายที่ดิน‘ศุภชัย’
กางระเบียบปปง.!จับพิรุธ กุนซือปธ.ผู้ตรวจการแผ่นดิน รับค่านายหน้าขายที่ดิน‘ศุภชัย’ 60 ล.?
โชว์ชัดๆ สัญญา ‘ศุภชัย’ขายที่ดินได้เงิน477ล. ไฉนคืนส.คลองจั่นแค่100 ล.?
เปิดตัวบ.ซื้อที่ศุภชัย 477ล. ที่แท้คนตระกูล 'อัษฎาธร' บิ๊กธุรกิจน้ำตาลไทย
ระดมกู้บริษัทในเครือ!เจาะแหล่งเงินคนตระกูล'อัษฎาธร' รับซื้อที่ ‘ศุภชัย’ 477ล.
ดีเอสไอไม่เคยแจ้งข้อมูล! ปปง.ปัดเอี่ยวปมคืนเงินขายที่249 ล.ให้ศุภชัย
ปปง.-ดีเอสไอ ขายที่'ศุภชัย' 477ล. ตีเช็คให้ตัวเอง249 ล. คืนสหกรณ์แค่100 ล.