ฮือฮา! รถมิตซูฯ ทะเบียนเดียวขับเจอกัน-กรมขนส่งฯ ลุยสอบกลุ่มมิจฉาชีพ
ฮือฮาโลกออนไลน์! เจ้าของรถ มิตซูบิชิ สีดำ 2 คัน ขับมาเจอกันโดยบังเอิญ เล่นเอางงทั้งคู่ ทำไมใช้เลขทะเบียนเดียวกัน ส่วนกรมขนส่งทางบก ลุยสอบแล้ว ชี้ปัญหากลุ่มมิจฉาชีพ ตะเวณถ่ายรูปป้ายปลอมสวมทะเบียนรถที่ขโมยมา เตรียมทำหนังสือเชิญตัวของรถให้ข้อมูลยืนยันความบริสุทธิ์แล้ว
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ขณะนี้ในโลกออนไลน์ได้มีการส่งแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับรถ Mitsubishi สีดำ 2 คัน รุ่นเดียวกัน และที่มีเลขทะเบียนเดียวกัน มาพบกันโดยบังเอิญ ซึ่งสร้างความฮือฮาเป็นอย่างมาก ทำให้ถูกตั้งข้อสังเกตว่าต้องมีรถคันใดคันหนึ่งเป็นรถที่ถูกสวมทะเบียนปลอม (ดูภาพประกอบ)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ ภายหลังจากที่ข้อมูลดังกล่าว ถูกส่งแชร์ต่อในโลกออนไลน์จำนวนมาก ทางกรมขนส่งทางบก ได้เข้าทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีนี้ และพบว่าน่าจะกลุ่มมิจฉาชีพ ที่ตระเวณตรวจสอบสอบป้ายทะเบียนรุ่นรถที่จอดตามที่ต่างๆ และนำไปทำป้ายปลอมเพื่อสวมทะเบียนกับรถที่ขโมยมา โดยจัดทำเล่มทะเบียนปลอมขึ้นเพื่อจำหน่ายและจัดการปลอมแปลงเอกสาร
"เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ออกหนังสือแจ้งเจ้าของรถในระบบ คือ รถ Mitsubishi สีดำ 1กภ 4437 เจ้าของรถ ชื่อนายอุตส่าห์ คำดี เลขตัวรถ MMTJNKA50DD021246 , เลขเครื่องยนต์ 4G64UCAT0125 มาตรวจสอบเพื่อยืนยันความถูกต้อง ขณะที่รถอีกคันไม่มีในระบบทะเบียน จึงขอให้สื่อช่วยประชาสัมพันธ์ให้เจ้าของรถคันดังกล่าว มายืนยันความบริสุทธิ์ที่มาของรถด้วย" เจ้าหน้าที่กรมขนส่งทางบก ยืนยันข้อมูลกับสำนักข่าวอิศรา
ในวันเดียวกัน กรมขนส่งทางบก ได้ออกข่าวประชาสัมพันธ์ แจ้งเตือนกรณีนี้ โดย นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ระบุว่า ในระบบทะเบียนจะมีรถที่ถูกต้องเพียงคันเดียว โดยขณะนี้ได้ประสานไปยังเจ้าของรถที่ปรากฏข้อมูลในระบบทะเบียนของกรมการขนส่งทางบกให้นำรถเข้ามาตรวจสอบยืนยันความถูกต้อง และสำหรับรถอีกคันที่ไม่ปรากฏข้อมูลในระบบนั้น กรมการขนส่งทางบกขอให้ผู้ครอบครองรถคันดังกล่าวเข้ามายืนยันที่มาของรถ พร้อมแนะนำให้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนเพื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบตามกฎหมายเพื่อให้ความเป็นธรรมต่อไป ซึ่งจะมีการตรวจสอบหลักฐานการดำเนินการทางทะเบียนและตรวจสอบเลขตัวรถ เลขเครื่องยนต์ เพื่อพิจารณาว่ารถคันใดเป็นรถที่จดทะเบียนถูกต้อง กรณีพบว่ามีเลขตัวรถและเลขเครื่องยนต์ซ้ำซ้อนกัน ต้องส่งพิสูจน์หลักฐานโดยกองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อตรวจพิสูจน์ว่ามีการขูดลบเลขตัวรถ เลขเครื่องยนต์ และสีรถหรือไม่ กรณีที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ชัดเจนจะส่งตัวรถไปให้บริษัทผู้ผลิตตรวจรหัสลับของตัวรถ เพื่อประกอบการตรวจพิสูจน์ยืนยันตัวรถที่ถูกต้องอีกทางหนึ่ง
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับปัญหารถฝาแฝดทะเบียนซ้ำซ้อนกันดังกล่าวอาจเกิดจากกลุ่มมิจฉาชีพได้นำรถที่โจรกรรมมาหลอกขาย โดยทำการปลอมแปลงใบคู่มือจดทะเบียนรถ หรือปลอมแปลงเอกสารทางราชการ ซึ่งรถที่นำไปสวมทะเบียนอาจมีการแก้ไขเลขตัวรถร่วมด้วย มักเกิดขึ้นกับการซื้อขายรถด้วยวิธีการโอนลอยที่ผู้ซื้อไม่นำรถไปดำเนินการจดทะเบียนและตรวจสภาพรถด้วยตนเองตามขั้นตอนของกรมการขนส่งทางบก โดยมอบให้ผู้ขายเป็นผู้ดำเนินการแต่เพียงฝ่ายเดียว ซึ่งทำให้เกิดช่องว่างในการปลอมแปลงเอกสารจนอาจเป็นสาเหตุของ การสวมทะเบียนรถดังเช่นที่ปรากฏ
ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยผู้ซื้อควรดำเนินการโอนทะเบียนรถด้วยตนเอง และควรตรวจสอบหลักฐานเกี่ยวกับตัวรถโดยละเอียด ซึ่งสภาพรถต้องตรงตามที่ระบุในคู่มือจดทะเบียน หรือหากมีการแก้ไขดัดแปลงสภาพรถต้องมีเอกสารหลักฐานระบุชัดเจน เช่น มีการติดตั้งแก๊ส การเปลี่ยนสีรถ เปลี่ยนเครื่องยนต์ เป็นต้น โดยสามารถขอหลักฐานทะเบียนรถจากเจ้าของรถหรือผู้ขายมาขอตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นที่สำนักงานขนส่งจังหวัดหรือสำนักงานขนส่งสาขา และเพื่อเพิ่มความมั่นใจยิ่งขึ้นสามารถนำรถเข้ามาตรวจสอบความถูกต้อง ณ สำนักงานขนส่งจังหวัดหรือสำนักงานขนส่งสาขาที่รถนั้นจดทะเบียนไว้ หากผลการตรวจสอบถูกต้องจึงค่อยดำเนินการซื้อขายรถต่อไป
"ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้เข้มงวดกวดขันการตรวจสภาพรถตามรายการที่กำหนดทุกคัน เพื่อป้องกันไม่ให้รถผิดกฎหมายดำเนินการทางทะเบียนได้โดยเด็ดขาด ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจพบจะมีการระงับ การดำเนินการทางทะเบียนที่ไม่ถูกต้องทันที" อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวในที่สุด