เพื่อปรองดอง! คสช.สั่งปรับทัศนคติคนเห็นต่างให้ชัดเจน-ไม่เคลียร์ส่งอบรม
มติที่ประชุม คตช. ‘บิ๊กตู่’ สั่ง ยธ.เร่งรัดคดีที่ประชาชนสนใจ ระวังหมดอายุความ เน้นคดีโกง แจงนักลงทุนต่างชาติ หากร่วมสนับสนุนทุจริตโดนโทษด้วย ให้ คสช. สร้างความปรองดอง ปรับทัศนคติคนเห็นต่างให้ชัด ถ้าไม่เคลียร์ต้องเข้าอบรม ยันดูแลอย่างดี หากทำผิดกฎหมายส่งเข้ากระบวนการยุติธรรม
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ คณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานฯ ได้มีข้อสรุปและมีมติข้อสั่งการในการประชุมครั้งที่ 2/2559
มีประเด็นสำคัญสรุปได้ทำนองว่า ให้กระทรวงยุติธรรม ดำเนินการติดตามคดีด้านการปราบปรามทุจริตคอร์รัปชั่น เน้นการดำเนินการคดีสำคัญที่จะต้องให้มีความชัดเจน ยุติธรรม และเท่าเทียม ให้เร่งรัดคดีที่เป็นความสนใจของประชาชน เน้นย้ำให้พึงระมัดระวังเรื่องของอายุความ และให้แยกการดำเนินคดีอันเกิดจากการทุจริตและการดำเนินงานตามโครงการออกจากกัน เพื่อให้โครงการสามารถดำเนินการให้เกิดประโยชน์ต่อรัฐและประชาชนต่อไปได้ในระหว่างการดำเนินคดี
ขณะเดียวกันการบริหารศูนย์รับเรื่องร้องเรียนนักลงทุนต่างชาติให้มีการสอบถามปัญหาและจะต้องทำความเข้าใจกับนักลงทุนต่างชาติ ในเรื่องพื้นฐานการทุจริตมิใช่เกิดจากการกระทำของข้าราชการแต่เพียงฝ่ายเดียว ภาคธุรกิจ/เอกชนก็มีส่วนสนับสนุนให้เกิดการทุจริตด้วย ดังนั้นหากปรากฏข้อเท็จจริงก็จะต้องได้รับโทษเช่นเดียวกัน
รวมถึงให้ประสานความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในการยกระดับการดำเนินการกับข้าราชการ นักการเมือง และนักธุรกิจที่มีพฤติกรรมทุจริตอย่างเคร่งครัด จริงจัง เพื่อป้องกันมิให้เกิดการทุจริตในอนาคต
นอกจากนี้ให้ คสช. โดยสำนักเลขาธิการ คสช. ดำเนินการสร้างความปรองดองและการปรับเปลี่ยนทัศนคติผู้มีความเห็นต่างให้มีความชัดเจน หากมีการกระทำผิดกฎหมาย หรือผิดคำสั่ง คสช. ซึ่งเป็นคดีอาญาให้ส่งเข้ากระบวนการยุติธรรม หากไม่ใช่ ให้ดำเนินการพูดคุยให้ความรู้ด้วยการเปิดหลักสูตรอบรม โดยให้มีการดูแลอย่างนี้ ทั้งนี้ไม่ต้องมีการทำประชาสัมพันธ์