ส่องงบดุลย้อนหลัง 5 ปี บ.เอเพกซ์ฯ ต้นสังกัด ‘สกาล่า’ ขาดทุนสูง 7 ล.
จุฬาฯ ต่อสัญญา 'โรงหนังสกาล่า' ถึงปี 63 ยันไม่รื้อทิ้ง 'อิศรา' เปิดงบกำไร-ขาดทุน ย้อนหลัง 5 ปี บ.เอเพกซ์ ภาพยนตร์ ต้นสังกัด พบขาดทุน หนี้สินเยอะ
แม้ผู้บริหารจุฬาฯ ออกมายืนยันจะไม่รื้อทิ้ง ‘โรงหนังสกาล่า’ หลังจากสิ้นสุดสัญญา ปี 2560 ตามที่เกิดกระแสข่าว แต่จะต่อสัญญาต่อไปถึงปี 2563 รวมระยะเวลา 3 ปี ซึ่งขณะนี้ขั้นตอนอยู่ระหว่างรอเจ้าของกิจการมาต่อสัญญา
พร้อมกับยอมรับว่า ในอนาคตเตรียมมีนโยบายพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว แต่ยังไม่มีแผนงานชัดเจนว่าจะพัฒนาอย่างไร ประกอบกับต้องเข้า พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2556 ซึ่งอาจใช้ระยะเวลาอีกหลายปีหลังจากนี้
นั่นหมายความว่า หากสิ้นสุดสัญญา ในปี 2563 โรงหนังสแตนด์อะโลน ‘สกาล่า’ ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางสยามสเเควร์ อาจต้องปิดกิจการลง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า โรงหนังสกาล่า อยู่ภายใต้บริษัท เอเพกซ์ ภาพยนตร์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2523 ทุนจดทะเบียนปัจจุบัน 140 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 216/1 ถ.พระราม 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
โดยวันที่ประชุมผู้ถือหุ้น เมื่อ 30 เมษายน 2558 นางนงนุช ตันสัจจา 25.96% น.ส.นันทา ตันสัจจา 24.43% นายกัมพล ตันสัจจา 24.36% นายวิวัฒน์ ตันสัจจา 24.36% นางพวงทอง ศิริวรรณ 0.87% นายประยูร พัฒนวิโรจน์ 0.0007% และนายพงศ์ อิงเจริญสุนทร 0.0007%
ทั้งนี้ งบกำไรขาดทุน ย้อนหลัง 5 ปี พบว่า ปี 2557 บริษัทฯ มีรายได้รวม 14 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากการบริการ 6.3 ล้านบาท และรายได้อื่น 7.66 ล้านบาท ขณะที่รายจ่ายรวม 7.78 ล้านบาท แบ่งเป็น ต้นทุนบริการ 2.67 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร 5.10 ล้านบาท
กำไร (ขาดทุน) ก่อนต้นทุนทางการเงิน 6.24 ล้านบาท ต้นทุนทางการเงิน 7.07 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 8.36 แสนบาท
ถึงปีนี้ รวมหนี้สิน 185.13 ล้านบาท
ปี 2556 มีรายได้รวม 13.14 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการบริการ 6.36 ล้านบาท และรายได้อื่น 6.78 ล้านบาท ขณะที่รายจ่ายรวม 7.74 ล้านบาท แบ่งเป็นต้นทุนบริการ 2.66 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร 5.08 ล้านบาท
กำไร (ขาดทุน) ก่อนต้นทุนทางการเงิน 5.39 ล้านบาท ต้นทุนทางการเงิน 7.24 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 1.84 ล้านบาท
ปี 2555 มีรายได้รวม 13.17 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการบริการ 6.36 ล้านบาท และรายได้อื่น 6.81 ล้านบาท ขณะที่รายจ่ายรวม 7.58 ล้านบาท แบ่งเป็นต้นทุนบริการ 2.63 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร 4.94 ล้านบาท
กำไร (ขาดทุน) ก่อนต้นทุนทางการเงิน 5.58 ล้านบาท ต้นทุนทางการเงิน 7.34 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 1.75 ล้านบาท
ปี 2554 มีรายได้รวม 13.64 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการบริการ 6.36 ล้านบาท และรายได้อื่น 7.28 ล้านบาท ขณะที่รายจ่ายรวม 7.27 ล้านบาท แบ่งเป็นต้นทุนบริการ 2.46 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร 4.81 ล้านบาท
กำไร (ขาดทุน) ก่อนต้นทุนทางการเงิน 6.37 ล้านบาท ต้นทุนทางการเงิน 7.40 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 1.03 ล้านบาท
ปี 2553 มีรายได้รวม 12.43 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการบริการ 6.74 ล้านบาท และรายได้อื่น 5.69 ล้านบาท ขณะที่รายจ่ายรวม 8.34 ล้านบาท แบ่งเป็นต้นทุนบริการ 2.94 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร 5.40 ล้านบาท
กำไร (ขาดทุน) ก่อนต้นทุนทางการเงิน 4.08 ล้านบาท ต้นทุนทางการเงิน 6.40 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 2.31 ล้านบาท
รวม 5 ปีย้อนหลัง ตั้งแต่ 2553-57 บริษัทฯ ขาดทุนสุทธิราว 7 ล้านบาท
สำหรับบริษัท เอเพกซ์ ภาพยนตร์ จำกัด ที่มีผู้ถือหุ้นใหญ่เดิมนั้น คือ นางนงนุช ตันสัจจา เป็นเจ้าของเดียวกับโรงหนังลิโด้ กับสวนนงนุช พัทยา เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อปลายปี 2558 ด้วยโรคชรา วัย 91 ปี อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมี น.ส.นันทา ตันสัจจา เป็นประธานโรงภาพยนตร์ในเครือเอเพกซ์
...สิ่งสำคัญมากกว่าผลกำไร คือ คุณค่าทางจิตใจ ของคนเเต่ละช่วงวัยที่ผูกพันกับ 'สกาล่า' อีกทั้ง ยังมีความงดงามของสถาปัตยกรรม เเบบอาร์ต เด โค ที่ควรอนุรักษ์ ดังนั้น การช่วยต่อชีวิตโรงหนังเเห่งนี้จึงเป็นเรื่องที่ควรกระทำอย่างยิ่ง .
อ่านประกอบ:หมดสัญญาปี 60! รณรงค์ผ่าน Change ค้านจุฬาฯ รื้อทิ้ง ‘โรงหนังสกาล่า’
จุฬาฯ ยัน ต่อสัญญา ‘โรงหนังสกาลา’ อีก 3 ปี
ลุยโรงหนังเก่า ‘พหลโยธินเธียเตอร์’ VS ‘งามวงศ์วานรามา’ ลมหายใจเฮือกสุดท้ายยุคปรับตัว
ชุบชีวิตความร้างให้มีสีสัน ‘โรงภาพยนตร์เก่า’ มหรสพบันเทิงบนแผ่นฟิล์ม