ไม่ต้มตุ๋นออกเอกสารปลอม! ตัวแทน 'มาสด้า' ยันส่งมอบรถคุณภาพดีให้ลูกค้า
ตัวแทน 'บ.แรงค์ พี.ที.ฯ' ยันส่งมอบ 'รถมาสด้า' คุณภาพดีให้ลูกค้า เซ็นรับรถในสภาพสมบูรณ์ ชี้ปัญหาเกิดจากข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ประกัน ฯ ผิดพลาด ทางฝ่าย บ.สินมั่นคง ฯ ก็ยอมรับ ย้ำไม่ร่วมมือต้มตุ๋นออกเอกสารปลอม! เผยลูกค้าลังเลซื้อรถใหม่เพียบ 5,000 คัน ถามกลับมาหมดว่าเอารถอะไรมาส่งมอบ ลั่นพร้อมเปิดเจรจารอบใหม่
กรณี นายบุญรัก อภิรติกุล เจ้าหน้าที่ระดับสูงสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง เข้าร้องเรียนสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2557 ได้ซื้อรถใหม่ป้ายแดง ยี่ห้อ MAZDA รุ่น CX5 2.2 ดีเซล จากโชว์รูมและศูนย์บริการ บริษัท แรงค์ พี.ที. โอคอร์เนอร์ จำกัด สาขาลาดพร้าว (เวิร์นส์มาสด้าลาดพร้าว) ซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ต่อมา วันที่ 15 พฤศจิกายน 2557 นายบุญรักขับไปเฉี่ยวชนเสาที่จอดรถ จึงเรียกเจ้าหน้าที่ประกันมา เพื่อออกใบแคลมประกัน ตามขั้นตอนปกติ
โดยเจ้าหน้าที่บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน)ได้ตรวจสอบรายการเลขที่กรมธรรม์ ,ทะเบียนรถ ,ตัวถังรถ แล้วแจ้งว่า รถคันนี้เคยเฉี่ยวชน หรือได้รับความเสียหายมาแล้ว 5 รายการ ทั้งที่ เพิ่งซื้อรถใหม่ป้ายแดงมาใหม่ จึงทำให้เกิดข้อสงสัยว่า รถป้ายแดงที่ซื้อมา อาจเป็นรถที่มีการเฉี่ยวชนมาก่อน ในช่วงการขนส่ง
(อ่านประกอบ : เปิดหลักฐานเชิงประจักษ์ ทำไม 'ลูกค้า'เชื่อซื้อMAZDA ป้ายแดง แต่ได้รถถูกเฉี่ยวชนแทน?)
ล่าสุด เมื่อวันที่ 30 พ.ค. 2559 ที่ผ่านมา นาย ระวี พงษ์พิทักษ์ ผู้จัดการฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ ตัวแทนผู้บริหาร บริษัท แรงค์ พี.ที. โอคอร์เนอร์ จำกัด ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ว่า จากกรณีที่ นายบุญรัก ได้ทำการร้องเรียนไปทางสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ในวันที่12 พฤษภาคม 2558 ทาง สคบ. ก็มีหนังสือถึงบริษัท แรงค์ ฯ ให้ชี้แจงข้อเท็จจริง ซึ่งทางบริษัทฯ ได้ชี้แจงไปว่า ในวันที่ 11 เมษายน 2557 นายบุญรักได้มารับรถมาสด้า cX5 2.2L รุ่นปี2014 เลขตัวถัง PP1KEB222EM001601 ในราคา 1,586,125 บาท ซึ่งนายบุญรักได้ส่งอีเมลยืนยันการรับรถ และได้เดินทางมารับรถจริงรวมถึงการเซ็นรับรถในสภาพที่สมบูรณ์
นาย ระวี ชี้แจงต่อว่า รถคันดังกล่าวมีประกันภัยชั้น1 โดยมีผลคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2557 ถึง11 เมษายน 2558
ต่อมานายบุญรัก ได้นำเอกสารที่ระบุว่ารถรถมาสด้า cX5 2.2L ที่ได้อ้างถึงการเฉี่ยวชนและพบว่ามีบาดแผล 5 รายการ ดังนี้ 1.กันชนหลังกลางครูด 2.ประตูหลังซ้ายครูด 3.บังโคลนหลังซ้ายครูด 4.สเกิร์ตกันชนหน้าซ้ายครูด 5.บันไดซ้ายครูด มาแสดง ซึ่งทางบริษัท แรงค์ ได้ให้ สคบ. ตรวจสอบถึงที่มาของเอกสารฉบับที่นายบุญรักนำมาอ้างว่ารถมีมีสภาพบาดแผลที่เกิดจากการเฉี่ยวชนก่อนการส่งมอบ เพราะไม่มั่นใจถึงที่มาของเอกสารและไม่มั่นใจว่าวัตถุประสงค์ของนายบุญรัก
“ที่มาของปัญหามันเกิดมาจากกระดาษแผ่นเดียว เป็นปัญหามาเป็นปีๆ และทางเราก็ไม่ทราบว่ากระดาษแผ่นนี้มาจากไหน แต่รู้ว่ามาจากนายบุญรักที่ถือเข้ามาแจ้งกับทางบริษัท ซึ่งไม่ทราบที่มาและไม่รู้ว่าใครเป็นคนออกเอกสารฉบับนี้ ซึ่งไม่สามารถอ้างอิงได้ตามกฎหมาย ลักษณะข้อความที่ระบุในกระดาษเหมือนมาจากข้อผิดพลาดในการพิมพ์ของระบบคอมพิวเตอร์ เพราะไม่มีใครพิมพ์เอกสารออกมาแบบนี้ โดยในเอกสารพบข้อพิรุธหลายอย่าง คือ รถยนต์ที่คุณบุญรักซื้อคือมาสด้ารุ่น cx 5 2.2 L เครื่องยนต์ดีเซล 2200 cc. แต่ข้อความในเอกสารกลับระบุเป็นมาสด้า cx5 2.5 เครื่องยนต์ดีเซล 2500 cc. ซึ่งเป็นรถคนละกลุ่มกัน “
ส่วนของแผล 5 รายการที่ปรากฏในเอกสารที่นายบุญรักอ้างนั้น นายระวี แจงต่อว่า รถมาสด้ารุ่น cx 5 2.2 L เครื่องยนต์ดีเซล 2200 cc. ไม่มีสเกิร์ตกันชน และไม่มีบันไดด้านข้าง ซึ่งนี่เป็นข้อพิรุธว่า มันมีบาดแผลได้อย่างไร ซึ่งเอกสารยังระบุอีกว่า นายจักรวาล เป็นผู้ตรวจในวันที่ 14 เมษา 2557 เวลา 13.oo น. (ซื้อรถ11 เม.ย 57 รถชน 15 พ.ย 57 ) ซึ่งทางบริษัทไม่รู้จักคนที่ชื่อนาย จักรวาล และไม่เชื่อว่าใครหรือบริษัทไหนจะมาตรวจรถในวันหยุดสงกรานต์
“ผมพูดมาตลอดว่ารถคันนี้มันเกิดมาจากความผิดพลาดของบริษัทสินมั่นคงฯ และทางบริษัทสินมั่นคงฯ ก็ยอมรับมาตลอดว่าการบันทึกข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ผิดพลาดหรือ Errorในระบบข้อมูลของเขา แต่คุณบุญรักจะเอาเป็นเอาตายกับบริษัทผมให้ได้ นายบุญรักคิดว่าบริษัทเรากับบริษัท สินมั่นคงฯ ร่วมกันต้มตุ๋นออกเอกสารปลอมซึ่งในธุรกิจมันเป็นไปไม่ได้”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายบุญรักยืนยันว่ารถมีบาดแผลของการเฉี่ยวชนจริงซึ่งนอกจากทางบริษัทสินมั่นคงฯแล้ว ยังได้จ้างบริษัทอื่นให้มาตรวจเช็คอีกครั้ง
นายระวี ย้ำ “ผมไม่ทราบ แต่ผมยินดีให้ตรวจสอบทุกอย่าง”
เมื่อถามต่อถึงการเรียกร้องความเสียหายจากนายบุญรัก รวมไปถึงท่าทีต่างๆ นายระวี กล่าวว่า "เขาจะเอาเงินอย่างเดียว ซึ่งทางบริษัท แรงค์ฯได้เจรจามาตลอดว่าอยากให้ชดเชยอย่างไร เพราะทางบริษัทจะไปเก็บกับทางบริษัทสินมั่นคงฯให้ แต่นายบุญรักไม่พูด บ่ายเบี่ยงมาตลอด ซึ่งทางเราก็ไม่ทราบว่าวัตถุประสงค์ต้องการอะไร พอเรื่องไปถึง สคบ. แล้วถึงแจ้งว่าเขาต้องการค่าเสียหาย 333,000 บาท ซึ่งทางบริษัทรู้สึกว่ามันเกินกว่าเหตุ จำนวนเงินที่เรียกเยอะเกินไป ทางบริษัทเลยต้องปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอน ทุกครั้งที่มีการเจรจาไม่ว่าจะทาง สคบ. เราคุยกันด้วยเหตุผล และทุกคนต้องยอมรับการชี้แจงว่าอะไรเป็นอะไร"
“นายบุญรักไม่ยอมจบ ถ้าเรื่องที่เขาร้องเรียนกับทางอิศราเงียบลง เขาก็จะไปร้องเรียนกับที่อื่นอีก และผมจะชวนทางบริษัทสินมั่นคงไปร้องเรียนที่ธนาคารไทยพาณิชย์บ้าง ให้เขายุติเรื่องนี้กับหัวหน้าของเขา เพราะ ว่าเราเสียหายและเสียลูกค้าไปมาก” นายระวี กล่าว
นายระวี ยืนยันว่า ทางบริษัทฯได้ส่งรถอย่างถูกต้องและดีที่สุดให้กับลูกค้า ลูกค้าก็รับไป แต่ปัญหาที่เกิดไม่ได้มาจากเราและทางบริษัท สินมั่นคงฯ ก็รับผิด ถ้าจะชดเคยให้นายบุญรักไปเจรจากับทางบริษัทสินมั่งคงฯจะดีกว่า ส่วนการเรียกร้องในจำนวน 333,000 บาท นั้นทางเราคิดว่าเกินความจำเป็นและดูไม่ดี ซึ่งเราคุยกับเขามาตลอด พอเขาเรียกร้องมากขนาดนี้ เราก็มองวัตถุประสงค์เขาเปลี่ยนทันที
นายวีระ ปิดท้ายกับผู้สื่อข่าวว่า “ความเสียหายที่เกิดจากเรื่องนี้คือความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อบริษัท แรงค์ พี.ที. โอคอร์เนอร์ จำกัด และทางบริษัท มาสด้าเซลส์ ประเทศไทย จำกัด ลูกค้าที่ซื้อรถไปไม่ต่ำกว่า 5,000 คัน ถามกลับมาหมดเลยว่าทางบริษัทเอารถอะไรมาส่งมอบ และลูกค้าที่จะตัดสินใจจะซื้อใหม่ เกิดลังเลหมดเลย ซึ่งประเมินค่าไม่ได้แต่เสียหายมาก ฝากถึงคุณบุญรักด้วย ถ้าตรงนี้จบ จะเข้ามาคุย หรือให้เราชี้แจงโดยตรง เราก็ยินดีหรือจะมีกรรมการมาทางเราก็ยินดีแต่ขอให้หยุดเถอะ”
อ่านประกอบ :
เปิดหลักฐานเชิงประจักษ์ ทำไม 'ลูกค้า'เชื่อซื้อMAZDA ป้ายแดง แต่ได้รถถูกเฉี่ยวชนแทน?
โปรดระวัง! ซื้อรถ MAZDA ป้ายแดง อาจได้รถที่ถูกเฉี่ยวชน มามอบให้?