โฆษก รบ.เผยรองฯ วิษณุ รายงานครม.ให้รับทราบข้อพิพาทค่าโง่ทางด่วน
วิษณุ –รมว.คมนาคม รายงานครม.คดีความต่างๆ ที่รัฐเป็นโจทก์และเป็นจำเลย มีมูลค่าหลักเป็นพันล้านบาทขึ้นไป พล.ต.สรรเสริญ ยันที่ประชุมครม. นายกฯ ไม่ได้เน้นย้ำอะไรเป็นพิเศษ ยันเคยมีข้อสั่งการก่อนหน้านี้แล้ว ทุกกระทรวง ทบวง กรม ต้องไม่ละเลย ถึงเวลาฟ้อง ต้องยื่นเรื่องอย่าปล่อยให้ขาดอายุความ
วันที่ 24 พฤษภาคม 2559 พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ตอนหนึ่งได้ตอบคำถามสื่อมวลชนถึงกรณีข้อพิพาทที่เกิดขึ้นระหว่างการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลทางด่วนกับผู้รับสัมปทานทางด่วนขั้นที่ 2 คือ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีอีเอ็ม วันนี้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้แจ้งความคืบหน้าให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบถึง คดีความต่างๆ ที่มีอยู่กว่า 17 คดีว่า แต่ละคดีคืบหน้าไปถึงไหน และดำเนินการไปถึงไหนอย่างไรแล้ว จากนั้น นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม รายงานให้ครม.รับทราบถึงการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
“ในที่ประชุมครม. นายกฯ ไม่ได้เน้นย้ำอะไรเพิ่มเติม แต่นายกฯ เคยมีข้อสั่งการก่อนหน้านี้ไปแล้ว ให้ทุกกระทรวง ทบวง กรม ไปตรวจสอบดูคดีความใหญ่ๆ ที่มีการฟ้องร้องทั้งรัฐเป็นโจทก์และเป็นจำเลย ที่มีมูลค่าหลักเป็นพันล้านบาทขึ้นไป หน่วยงานทุกกระทรวง ทบวง กรม ต้องให้ความสนใจติดตามโดยเฉพาะอย่างยิ่งระยะเวลาของอายุความ ต้องอย่าให้ขาดอายุความ อะไรที่เป็นหน้าที่ที่ข้าราชการพึงปฏิบัติเพื่อจะดูแลผลประโยชน์ของชาติบ้านเมืองต้องไม่ละเลย 1. ผิดกฎหมาย 2. อายเขาว่า รัฐบาลทำไมไม่ดูแลสิ่งที่เป็นผลประโยชน์ เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้นายกฯ ถือเป็นความเร่งด่วนลำดับหนึ่งที่ทุกกระทรวงติดตาม ถึงเวลาต้องร้องทุกข์กล่าวโทษ ต้องฟ้อง ต้องยื่นเรื่อง จะปล่อยให้ขาดอายุความแล้วมารู้เรื่องภายหลังว่าเลยอายุความไปแล้วยื่น ไม่ทำไม่ได้ “
ทั้งนี้ พลตรีสรรเสริญ กล่าวด้วยว่า กรณี กทพ. คงมีการร้องต่อศาลปกครอง ซึ่งต้องเป็นไปตามนั้น