กรณีธรรมกาย : ลูกระเบิดเวลาลูกใหญ่
ถ้ายังลังเลใจและปล่อยให้การท้าทายกฎหมายยืดเยื้อต่อไปอีก กรณี ธรรมกายจะกลายเป็นลูกระเบิดเวลาลูกใหญ่ลูกหนึ่งที่ทำความเสียหายร้ายแรงให้แก่บ้านเมืองไม่น้อยกว่าที่เคยปรากฏมาแล้วในประวัติศาสตร์ของ เมืองไทย
ถ้าหากจะเปรียบกับภาพยนตร์ กรณีธรรมกายก็เหมือนภาพยนต์เรื่อง ใหญ่ที่กำลังใกล้จะจบ และผู้ชมก็กำลังแขม่วท้องตั้งตาดูว่าอวสานของเรื่องจะเป็นอย่างไร พระเอกจะเป็นฝ่ายชนะ หรือผู้ร้ายจะกลายเป็นฝ่ายชนะ หรือจะจบแบบหักมุมอย่างที่คนดูคาดไม่ถึง
สาวกของสำนักธรรมกายทั้งที่ห่มและไม่ห่มผ้าเหลืองได้ดาหน้ากัน ออกมาแสดงให้เห็นแล้วโดยไม่ปิดบังว่าจะไม่ยอมให้กรมสอบสวนคดี พิเศษจับกุมนายไชยบูลย์ สุทธิผลหรือพระธัมมชโย แม้จะมีหมายจับของศาลแล้ว แรกทีเดียวทนายความของนายไชยบูลย์ได้อ้างผลการตรวจของแพทย์ว่านายไชยบูลย์กำลังป่วยหนัก ไม่สามารถจะไปพบเจ้าหน้าที่ตามหมายได้ แต่เมื่อปรากฏว่าแพทย์ชุดที่อ้างว่าตรวจและวิเคราะห์อาการของนายไชยบูลย์เป็นแพทย์ของคลินิกที่ตั้งอยู่ในสำนักธรรมกาย และทำให้มีผู้ แคลงใจว่าผลการตรวจวิเคราะห์จะมิได้เป็นไปอย่างสุจริตถูกต้องสำนักธรรมกายก็ไปนำใบสำคัญความเห็นแพทย์ของโรงพยาบาลภาณุรังษีมาอ้าง ร้อนถึงผู้อำนวยการโรงพยาบาล ซึ่งเป็นโรงพยาบาลทหารบกและตั้งอยู่ที่ จังหวัดราชบุรีต้องออกมาปฏิเสธว่าใบสำคัญนั้นออกมาโดยไม่ถูกต้อง เพราะนายไชยบูลย์ไม่เคยไปรับการตรวจที่โรงพยาบาลภาณุรังษี และจนกระทั่งทางโรงพยาบาลต้องตั้งกรรมการขึ้นเพื่อสอบสวนและเอาผิดกับนายแพทย์ผู้ลงชื่อในใบสำคัญความเห็นแพทย์ฉบับนั้น
ในขณะเดียวกัน พระนพดล สิริวังโส แห่งสำนักธรรมกายได้ลงข้อความทางเฟซบุ๊ก เชิญชวนศิษย์ธรรมกายให้ร่วมกันลงชื่อในเว็บไซต์ของทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเพื่อร้องขอให้ประธานาธิบดีีบารัก โอบามาและคณะช่วยเหลือนายไชยบูลย์ พระนพดลอ้างว่าหากมีผู้ลงชื่อถึง 100,000 ชื่อภายในวันที่ 17 มิถุนายนประธานาธิบดีโอบามาและคณะจะ เดินทางมาช่วยนายไชยบูลย์
หากจะดูท่าทีของสาวกสำนักธรรมกายทั้งที่ห่มและไม่ห่มผ้าเหลือง แล้วก็คงพอสรุปได้ว่านายไชยบูลย์คงจะไม่ยอมมอบตัวต่อกรมสอบสวนดคีพิเศษเพื่อต่อสู้คดี แต่คงจะซ่อนตัวอยู่ในสำนักธรรมกาย โดยมีสานุศิษย์ช่วย ป้องกันมิให้เจ้าหน้าที่เข้าไปจับกุม และเมื่อดูจำนวนของสานุศิษย์หลายพัน คนที่เข้าไปชุมนุมอยู่ในสำนักธรรมกายเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม โดยอ้างว่าเข้าไปเพื่อบำเพ็ญกุศลเนื่องในวันวิสาขบูชาแล้ว ก็น่าเชื่อว่าหากกรมสอบ สวนคดีพิเศษส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปเพื่อจับกุมนายไชยบูลย์ สานุศิษย์เหล่านั้นก็ คงจะต่อสู้ขัดขวางอย่างแน่นอน
สำนักธรรมกายเป็นสำนักใหญ่มีเครือข่ายกว้างขวางขยายออกไปใน รูปของศูนย์ประสานงานและวัดในต่างประเทศหลายประเทศทั่วโลก ทั้ง ในสหรัฐอเมริกา ทวีปยุโรป และแม้แต่ในทวีปอาฟริกา ผู้หลงเชื่อและเลื่อม ใสในคำสอนของสำนักธรรมกายทั้งในประเทศและต่างประเทศมีจำนวน เป็นล้าน
หากกรมสอบสวนคดีพิเศษไม่หาทางดำเนินการกับนายไชยบูลย์ แต่ปล่อยให้การณ์ยืดเยื้อนานออกไป ก็ย่อมเสียหายไม่ใช่แต่แก่เฉพาะชื่อเสียงของกรมสอบสวนคดีพิเศษเท่านั้น แต่กระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยทั้งระบบก็จะได้รับความกระทบกระเทือนเสียหายด้วยประชาชนคน ไทยและต่างชาติจะเห็นว่ากฎหมายไทยไม่ศักดิ์สิทธิ์ เจ้าหน้าที่ไม่สามารถจะบังคับใช้กฎหมายแก่ผู้ที่ละเมิดได้
ลำพังแต่กรมสอบสวนคดีพิเศษกรมเดียวน่าจะไม่สามารถเผชิญกับสำนักธรรมกายได้ จึงอาจจำเป็นที่รัฐบาลจะต้องพิจารณาใช้กำลังจากส่วนราช การอื่นเข้าเสริม ที่สำคัญที่สุดก็คือการดำเนินมาตรการต่อสำนักธรรมกาย จะต้องเป็นไปโดยเด็ดขาดฉับไวไม่ล่าช้า
ถ้ายังลังเลใจและปล่อยให้การท้าทายกฎหมายยืดเยื้อต่อไปอีก กรณี ธรรมกายจะกลายเป็นลูกระเบิดเวลาลูกใหญ่ลูกหนึ่งที่ทำความเสียหายร้ายแรงให้แก่บ้านเมืองไม่น้อยกว่าที่เคยปรากฏมาแล้วในประวัติศาสตร์ของ เมืองไทย