ร้องสอบนายก อบต.บ้านบัวเรียกเงินฝากเข้า ตร. เจ้าตัวยันเข้าใจผิด-เคลียร์แล้ว
กลุ่มธรรมาภิบาลร้องแทนชาวบ้าน อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ กล่าวหานายก อบต.บ้านบัว เรียกเงินฝากเข้า ตร. รายละ 2 แสน แต่สอบจริงแล้วไม่ติด – เจ้าตัวยันเรื่องเข้าใจผิด เคลียร์เงินแล้ว
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 2559 นายวิวัฒน์ สมบัติหลาย ประธานกลุ่มธรรมาภิบาล เป็นตัวแทนชาวบ้าน ต.บ้านบัว อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนกล่าวหาต่อ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กรณีนายสวัสดิ์ จิตรโคตร นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บ้านบัว กับพวก ฐานร่วมกับเรียกรับเงินจากชาวบ้าน โดยอ้างว่าจะช่วยให้เข้าบรรจุแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการตำรวจได้
กรณีนี้มีการกล่าวหาว่า เมื่อประเดือน ก.ย.-ธ.ค. 2558 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดยกองบัญชาการศึกษา ได้เปิดรับสมัครและสอบแข่งขันบุคคลภายนอกผู้มีวุฒิ ม.ปลาย หรือเทียบเท่า บรรจุเข้าแต่งตั้งข้าราชการตำรวจชั้นประทวน ดำรงตำแหน่งในกลุ่มงานอำนวยการและสนับสนุน ทำหน้าที่อำนวยการและสนับสนุน และทำหน้าที่ฝ่ายปกครองการฝึก
โดยในช่วงเวลาดังกล่าวนายสวัสดิ์ กับพวก ทำการติดต่อประสานงานกับชาวบ้านหลายหมู่บ้าน ในพื้นที่ อ.เกษตรสมบูรณ์ และพื้นที่อื่น ๆ โดยอ้างว่า ตนเองได้โควตาการบรรจุแต่งตั้งบุคคลภายนอกเข้าเป็นข้าราชการตำรวจชั้นประทวน ที่จะเปิดสอบดังกล่าวจาก ‘ผู้ใหญ่’ ใน สตช. หลายอัตรา ชาวบ้านจึงได้บอกเล่าต่อ ๆ กันมา จนมีชาวบ้านหลายสิบรายสนใจ และหลงเชื่อนายสวัสดิ์ เนื่องจากนายสวัสดิ์มีตำแหน่งเป็น นายก อบต.บ้านบัว โดยนายสวัสดิ์ได้เรียกเก็บเงินค่าดำเนินการจากชาวบ้านรายละกว่า 2 แสนบาท จากนั้นจึงมีการเปิดอบรมการสอบประมาณสามสัปดาห์ โดยใช้สถานที่ อบต.บ้านบัว เป็นที่ฝึกอบรม ต่อมาเมื่อมีการประกาศผลสอบ ปรากฏว่า ไม่ได้มีรายชื่อผู้ที่เข้าอบรมฝึกการสอบกับนายสวัสดิ์กับพวก เป็นผู้สอบผ่านแม้แต่รายเดียว
จากข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้น การกระทำของนายสวัสดิ์กับพวก เชื่อได้ว่าเป็นการกระทำใด ๆ ด้วยข้อความอันเป็นเท็จแก่ประชาชน หรือด้วยการปกปิดความจริง มีเจตนามุ่งหมายต้องการให้ได้ทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 381 ประกอบมาตรา 341 และมาตรา 59
จึงขอให้ ผบ.ตร. สั่งการตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องจนถึงที่สุด อีกทั้งขอให้แจ้งเตือนประชาชนทั่วไปถึงกรณีดังกล่าว โดยขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อด้วย
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 12 พ.ค. 2559 ชาวบ้านในพื้นที่ อ.เกษตรสมบูรณ์ กว่า 30 คน ได้เข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม อ.เกษตรสมบูรณ์ ในกรณีนี้ด้วย ซึ่งได้ติดตามทวงถามเงินคืนจากนายสวัสดิ์กับพวกแล้ว แต่ยังไม่ได้รับเงินคืนแต่อย่างใด
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้รับการยืนยันจากนายสวัสดิ์ ถึงกรณีนี้ว่า ตนไม่รู้เห็นในเรื่องดังกล่าว และเรื่องนี้ก็จบไปแล้ว เนื่องจากตำรวจในท้องที่ไม่ได้มีการดำเนินคดีความ เป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน และเคลียร์เงินกับชาวบ้านเรียบร้อยแล้ว
นายสวัสดิ์ ระบุว่า ในช่วงที่ สตช. เปิดสอบดังกล่าว มีบุคคลชื่อ ‘ณรงค์พล’ ติดต่อผ่านตนว่า จะมีการเปิดรับสมัครสอบตำรวจ จึงขอให้ตนช่วยกระจายข่าวให้ และในฐานะเป็นนายก อบต.บ้านบัว จึงบอกผ่านไปยังชาวบ้านที่อยากสมัครว่าให้ติดต่อนายณรงค์พลเอง โดยนายณรงค์ ได้พาเพื่อนคือ ‘ตรี’ เปิดศูนย์ฝึกอบรมการสอบตำรวจ ซึ่งตนได้ให้บุตรไปเข้าอบรมด้วย โดยต้องเสียเงินค่าเข้าฝึกอบรมรายละ 2 แสนบาท ฝึกเป็นเวลา 2 เดือน มีชาวบ้านนำบุตรหลานเข้ามาร่วมฝึกอบรมเป็นจำนวนไม่น้อย แต่นายณรงค์พล กับนายตรี ได้บอกชาวบ้านแล้วว่า แม้จะเข้ามาฝึกแต่ก็ไม่ได้การันตีว่า จะติดเข้ารับราชการตำรวจ หลังจากนั้นเมื่อประกาศผลสอบ มีคนไม่ติดขึ้นมา จึงมีการร้องเรียนดังกล่าวเกิดขึ้น แต่ปัจจุบันนายณรงค์พลได้นำเงินไปคืนแก่ชาวบ้านจนครบจำนวนแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างพูดคุยนายสวัสดิ์ มีท่าทีไม่ค่อยพอใจที่ถูกซักถาม และไม่ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่ารู้จักกับนายณรงค์พลได้อย่างไร