ศาลไฟเขียว! ออกหมายจับ‘ธัมมชโย’ คดีร่วมกันฟอกเงินหลังดีเอสไอขอครั้ง 2
ศาลไฟเขียว! ออกหมายจับ‘พระธัมมชโย’ ตามที่ดีเอสไอร้องขอรอบ 2 คดีร่วมกันฟอกเงิน-รับของโจรสหกรณ์คลองจั่น หลังทนายส่งใบรับรองแพทย์-เอกสารเวชระเบียนมาไม่ครบถ้วน เชื่อมารับทราบข้อกล่าวหาด้วยตัวเองได้ เหตุมีภาพกำลังปล่อยนกในวันเกิดลูกศิษย์เมื่อต้น พ.ค.
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินการให้คณะพนักงานสอบสวนดำเนินการยื่นเรื่องขออำนาจศาลอนุมัติหมายจับพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ฐานความผิดร่วมกันสนับสนุนการฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร เป็นครั้งที่ 2 โดยจะนำเอกสารที่ทางทนายความฝ่ายพระธัมมชโยไปให้ศาลพิจารณาด้วย
ล่าสุดมีรายงานข่าวจากศาลอาญา แจ้งว่า ศาลอนุมัติหมายจับพระธัมมชโยแล้ว
ขณะที่เว็บไซต์เดลินิวส์ออนไลน์รายงานว่า ภายหลังรับคำร้องของดีเอสไอ และคำคัดค้านของทนายความแล้ว ศาลได้เรียกพ.ต.ท.ปกรณ์ เพื่อสอบถามเกี่ยวกับพยานหลักฐานในคำร้อง จนกระทั่งเวลา 18.15 น .ศาลจึงมีคำสั่งอนุมัติหมายจับตามที่พนักงานสอบสวน ดีเอสไอ ร้องขอ จากนั้น นายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ อัยการพิเศษ ฝ่ายคดีสอบสวน 3 สำนักการสอบสวน กล่าวว่า ศาลพิจารณาหลักฐานที่คณะทำงานเสนอไปแล้ว มีคำสั่งอนุมัติหมายจับทุกข้อหาที่ขอไป ส่วนเรื่องการปฏิบัติตามหมายจับ ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะต้องแจ้งเรื่องให้อธิบดีดีเอสไอ รวมทั้งคณะทำงานทราบก่อน เพื่อจะดำเนินการต่อไปว่าจะมีการประชุมร่วมกันอีกเมื่อใด รวมถึงแนวทางการดำเนินการจะใช้วิธีอย่างไร
ส่วนนายสัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความวัดธัมมชโย กล่าวว่า จากนี้ไปก็ต้องแจ้งคำสั่งศาลให้พระธัมมชโยทราบ ซึ่งขณะนี้ท่านมีอาการอาพาธอยู่ที่วัด ส่วนจะดำเนินการอย่างไรก็ต้องขอปรึกษากันอีกครั้ง
ด้าน พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เปิดเผยภายหลังศาลอนมุติหมายจับพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ในคดีฟอกเงินและรับของโจรว่า เบื้องต้นจะให้เวลาพระธัมมชโยเข้ารับทราบข้อกล่าวหาภายใน 7 วัน โดยจะส่งหนังสือถึงพระธัมมชโยให้เดินทางเข้ารับทราบข้อหาตามกำหนดนัด ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เกิดการปะทะและเข้าใจถึงอาการอาพาธ จึงจะให้โอกาสและเวลาตามสมควร หากภายใน 7 วันไม่เข้ารับทราบข้อกล่าวหาพนักงานสอบสวนจะดำเนินการตามหมายจับต่อไป
อนึ่ง ในช่วงเช้า พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ ระบุถึงกรณีนี้ว่า ในการประชุมวันนี้มีการพิจารณากรณีนายสัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายวัดพระธรรมกาย ส่งเอกสารเวชระเบียนเพิ่มเติมหลังก่อนหน้าดีเอสไอสั่งให้ทางวัดนำมาส่งใหม่โดยคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้รับเอกสารเพิ่มเติมจากทนายความพระธัมมชโยแล้ว เมื่อเวลา 10.00 น. ซึ่งเอกสารการมอบอำนาจมีความถูกต้องแล้ว แต่เอกสารเวชระเบียนและใบรับรองแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาอาการอาพาธของพระธัมมชโย เป็นเอกสารที่คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ขอเพิ่มเติมไปเมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา ยังไม่ครบถ้วน
“ดังนั้น คณะพนักงานสอบสวนจึงมีมติในที่ประชุมว่า ให้คณะพนักงานสอบสวนไปดำเนินการยื่นเรื่องขออำนาจศาลอนุมัติหมายจับพระธัมมชโย ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับศาลว่าจะพิจารณาอนุมัติหมายจับหรือไม่ อีกทั้ง เราจะนำเอกสารที่ทางทนายความยื่นมาทั้งหมดไปยื่นให้ศาลพิจารณา และ ได้ใช้เอกสารเวชระเบียนและใบรับรองแพทย์ รวมถึงภาพขณะพระธัมมชโย กำลังปล่อยนกในงานวันเกิดของลูกศิษย์วัดพระธรรมกายเมื่อวันที่ 4 พ.ค. ที่ผ่านมาด้วย” พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าว
ขณะที่ พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึกรณีนี้ว่า ในส่วนของเวชระเบียนแบะใบรับรองนั้น ทางคณะพนักงานสอบสวนได้พิจารณาแล้วเห็นว่ายังไม่สอดรับกัน ซึ่งสถานพยาบาลที่เป็นผู้ออกใบรับรองแพทย์คือสหคลินิกรัตนเวช ตั้งอยู่ในบริเวณวัดพระธรรมกาย ดีเอสไอจึงนำประเด็นนี้ประกอบเอกสารหลักฐานเพื่อยื่นให้ศาลพิจารณาด้วย
ล่าสุด หัวหน้าพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ได้เดินทางไปศาลอาญา เพื่อขออนุมัติหมายจับพระธัมมชโยแล้ว เนื่องจาก ดีเอสไอ เชื่อว่า พระธัมมชโย สามารถเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาด้วยตัวเองได้ โดยพิจารณาจากศาสนกิจที่ปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง เอกสารยังไม่ครบ ตามที่พนักงานสอบสวนร้องขอ
สำหรับการยื่นขอศาลอนุมัติหมายจับในครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 2 หลังจากก่อนหน้านี้ทางดีเอสไอได้ยื่นเรื่องต่อศาลไม่ได้รับการอนุมัติ โดยศาลให้เหตุผลการยกคำร้องว่า พระธัมมชโย ไม่มีพฤติกรรมหลบหนีและมีอาการอาพาธจริง จึงขอให้ดีเอสไอออกหมายเป็นครั้งที่ 3 อีกครั้งเมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่ทางทนายความได้ยื่นหนังสือขอให้ดีเอสไอไปแจ้งข้อกล่าวหาที่วัด จนที่สุดดีเอสไอมีมติไม่เดินทางไปตามคำร้องขอของทีมทนายความ ก่อนจะมีการพิจารณาเอกสารหลักฐานในวันนี้เพื่อขอหมายจับอีกครั้ง
ด้านนายสัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความของพระธัมมชโย กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. แพทย์ผู้ทำการรักษาได้แจ้งผลการตรวจร่างกาย พระธัมมชโยว่า พบว่ามีอาการแพ้ยาอย่างรุนแรง ส่งผลให้คลื่นไส้ อาเจียนอย่างหนัก ในวันนี้จึงนำเอกสารใบรับรองแพทย์และหนังสือมอบอำนาจจากพระธัมมชโย ขอความเมตตาจากคณะพนักงานสอบสวนให้เลื่อนการเข้าแจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าวออกไปก่อน จนกว่าพระธัมมชโยจะพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ
“นี่ไม่ใช่การประวิงเวลาการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในคดี และได้ขอให้แพทย์ระบุเวลาที่พระธัมมชโยจะสามารถให้คณะพนักงานสอบสวนเข้าพบ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาและสอบปากคำได้ ซึ่งแพทย์ได้ระบุความเห็นว่าสมควรให้พักเป็นเวลา 2 เดือน” นายสัมพันธ์ กล่าว