เตรียมใช้ที่ป่าฯสร้างสนามบินเอกชน จ.พังงา ชาวบ้านกังขารีบจัดประชาพิจารณ์
ชาวบ้าน จ.พังงากังขา! เทศบาล ต.ลำแก่น เรียกทำประชาพิจารณ์สร้างสนามบินเอกชน บอกล่วงหน้าแค่ 3 วัน ให้เวลา 2 วัน ตัดสินใจ หลังจังหวัดกดปุ่มหน่วยงานสำรวจที่ตั้ง ผลผู้เข้าร่วม 115 คน ไม่ยอมรับปมยกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ
นายวีระเดช ตะติ ผู้ใหญ่บ้านท่าดินแดง หมู่ 4 ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13 พ.ค. ที่ผ่านมาว่า ชาวบ้านท่าดินแดง ได้รับแจ้งจากเทศบาลตำบลลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ให้จัดทำรับฟังความคิดเห็นประชาชน เพื่อที่จะใช้พื้นที่บ้านท่าดินแดง ก่อสร้างสนามบินเอกชน โดยมีการแจ้งให้ชาวบ้านทราบก่อนหน้า 3 วัน ในที่ประชุมได้พูดถึงเงินชดเชยผลอาสินที่ชาวบ้านปลูกสร้างไว้และชดเชยบ้านพักอาศัยแต่ละหลัง แต่ไม่มีการชดเชย ที่ดินเนื่องจากทั้งหมดเป็นที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ และ ผู้ที่นำเสนอในชดเชยผลอาสินจึงเป็นตัวแทนของผู้ที่จะใช้พื้นที่ในการสร้างสนามบินซึ่งเป็นเอกชน ทำให้ประชาชนที่อยู่อาศัยในพื้นที่บ้าท่าดินแดงจึงไม่มั่นใจว่าจะได้เงินชดเชยจริงหรือไม่
“ผมถามอดีตกำนันเพราะเห็นว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ทางอำเภอมาเกี่ยวข้องในการทำประชาพิจารณ์ในครั้งนี้ อดีตกำนันก็ได้ตอบว่าเป็นเรื่องของผู้ว่าราชการจังหวัด จึงสร้างความมึนงงให้กับชาวบ้านที่ทราบเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง ชาวบ้านจึงเสนอว่าหากมีการลงประชามติ ก็คงจะรวดเร็วไป เพราะหลายเรื่องยังไม่มีความกระจ่าง จึงมีการเสนอให้ชาวบ้านไปคิดอีก 2 วันถึงจะมีการเรียกประชุมใหม่ เพื่อที่จะเอามติที่ประชุม เสนอต่อสภาเทศบาลลำแก่น”
นางอารีย๊ะ วาหะรักษ์ ประชาชน ม. 4 บ้านท่าดินแดง ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา กล่าวว่ามีชาวบ้านไม่น้อยที่รู้ทันเหลี่ยมของข้าราชการและนายทุนบางคนจึงไม่ย่อมลงชื่อเข้าร่วมฟังและลงมติซึ่งในการประชุม เอกชนรายหนึ่งได้นำเงินมาให้คนละ 300 บาท และก่อนหน้านี้เคยถูกหลอกเอาชื่ออนุญาตให้นายทุนดูดทรายในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแห่งนี้มาแล้วซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านเป็นอย่างมาก ซึ่งในครั้งนี้ชาวบ้านก็หวาดระแวงว่าจะเป็นอย่างเช่นในอดีตที่ผ่านมา
“ชาวบ้านรู้สึกแปลกใจว่า บนเวทีประชาพิจารณ์ มีอดีตกำนัน มีปลัดเทศบาล ที่รักษาราชการแทนนายกเทศบาลตำบลลำแก่น มีตัวแทนเอกชน และ กำนันตำบลกำพวน จ.ระนอง จึงเป็นที่วิจารณ์กันว่า เป็นการทำประชาพิจารณ์ตามขั้นตอนของกฎหมายหรือไม่ เพราะไม่มีส่วนราชการที่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง อาทิ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อำเภอ และ จังหวัดพังงา เข้าร่วมรับฟังแต่อย่างใด”แหล่งข่าวกล่าว
มีรายงานว่า การลงมติเมื่อวันที่ 15 พ.ค. มีผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมด 143 คน แบ่งเป็นเป็นชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ม. 4 จำนวน 129 คน เป็นประชาชนที่บุกรุกครอบครองพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าครองทุ่งมะพร้าว ที่มีผลอาสิน แต่ไม่ได้มีบ้านเรือนอาศัยอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายใหญ่ จำนวน 14 ราย ผลของการลงมติ 115 คน ไม่ยอมรับยกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าคอลงทุ่งมะพร้าวให้ก่อสร้างสนามบิน 14 รายไม่ออกเสียง ส่วนประชาชนที่บุกรุกและเป็นรายใหญ่แต่ไม่มีบ้านเรือนอยู่ ม. 4 สนับสนุนให้ยกที่ป่าฯให้ก่อสร้างสนามบิน
ขณะที่นายวรงค์ ศรีหรัญ ปลัดเทศบาลตำบลลำแก่น กล่าวว่า ยังไม่ทราบมติที่ประชุม เนื่องจากเมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2559 ไม่ได้เข้าร่วมประชุม และ ยังไม่ทราบว่า ประธานสภาเทศบาลลำแก่นจะเรียกประชุมเรื่องนี้หรือไม่วันใด
ทั้งนี้ หน่วยงานของจังหวัดพังงามีความพยายามขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา นายภคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ได้เรียกประชุมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทั้ง ข้าราชการในสำนักงาน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด (ทสจ.) และ ข้าราชการส่วนท้องถิ่นในพื้นที่อำเภอท้ายเหมือง หลังจากนั้นเพียงวันเดียว เจ้าหน้าที่ป่าไม้เขต 12 จังหวัดกระบี่ ที่รับผิดชอบงานตรวจสอบพื้นที่และอนุมัติอนุญาตให้ใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ได้ประชุมร่วมกับ ทสจ.พังงา และ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ป่าชายเลน ท้ายเหมือง ลงพื้นที่ ป่าคลองทุ่งมะพร้าว เดินสำรวจแนวเขต เฉพาะพื้นที่ตำบลลำแก่น ในอาณาบริเวณ ม. 4 บ้านท่าดินแดง ต่อมามีหนังสื่อจากเทศบาลตำบลลำแก่น ลงวันที่ 4 พ.ค. 2559 ขอให้ชาวบ้านร่วมประชุมประชาคมแสดงความคิดเห็นในการก่อสร้างสนามบินจากสายการบินบางกอกแอร์เวย์ ในวันที่ 13 พ.ค. 2559 ที่ผ่านมา