สตง.เชือด‘หมอเลี๊ยบ-ประเสริฐ’คดีส่งคืนท่อก๊าซ ปตท.ไม่ครบเสียหาย 3.2 หมื่นล.
สตง. ชี้มูลผิด ‘หมอเลี๊ยบ-ประเสริฐ บุญสัมพันธ์-อดีตบิ๊กกรมธนารักษ์’ พร้อมพวกรวม 6 ราย คดีส่งคืนท่อก๊าซ ปตท. ไม่ครบ ทำรัฐเสียหาย 3.2 หมื่นล้าน ชี้ไม่ปฏิบัติตามมติ ครม.ยุค พล.อ.สุรยุทธ์-คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ชง ป.ป.ช. สอบต่อ ลั่นถ้า รบ. เพิกเฉยดำเนินการตามกฎหมายอาญา ม.157
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า คณะกรรมการการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) สรุปผลรายงานการตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กรณีเจ้าหน้าที่รัฐกระทำการฝ่าฝืนมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2550 ในยุครัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีการส่งคืนท่อก๊าซของบริษัท ปตท จำกัด (มหาชน) อย่างเป็นทางการ โดยมี น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว. กทม. และอดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) พร้อมด้วยมวลชนจำนวนหนึ่ง เข้าร่วมฟังด้วย
ศ.พิเศษ ชัยสิทธิ์ ตราชูธรรม ประธาน คตง. กล่าวว่า ที่ประชุม คตง. มีมติชี้มูลความผิด นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.คลัง (สมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี) นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) นายอำนวย ปรีมวงศ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมธนารักษ์ นายนิพิฐ อริยวงศ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการฐานข้อมูลที่ราชพัสดุ กรมธนารักษ์ กับพวกรวม 6 ราย กรณีไม่ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2550 และไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2550 รวมถึงการจัดทำบันทึกการแบ่งแยกทรัพย์สินในส่วนที่เป็นสาธารณสมบัติของแผนดินของการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย และการเสนอรายงานสรุปการดำเนินการตามคำพิพากษา โดยแจ้งเนื้อหาที่เป็นเท็จและปกปิดข้อเท็จจริงในสาระสำคัญที่จะต้องรายงานต่อศาลปกครองสูงสุด กรณีการแบ่งแยกทรัพย์สินของ ปตท. เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายไม่น้อยกว่า 32,613.45 ล้านบาท และเนื่องจากทรัพย์สินดังกล่าวถือเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินซึ่งมิได้ถูกโอนให้แก่รัฐตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2554 ทำให้รัฐขาดรายได้จากค่าใช้ทรัพย์สินซึ่งถือเป็นความเสียหายส่วนหนึ่ง ซึ่งมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
ศ.พิเศษ ชัยสิทธิ์ กล่าวอีกว่า คตง. มีมติให้ สตง. ดำเนินการแจ้งคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองสูงสุดว่า การบังคับคดีที่ผ่านมายังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2550 เพื่อให้คณะรัฐมนตรีดำเนินการเพื่อให้มีการส่งมอบทรัพย์สินให้ครบถ้วนถูกต้องต่อไป รวมถึงแจ้งให้นายกรัฐมนตรี พิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ และพิจารณาดำเนินการให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด
รวมทั้งแจ้ง รมว.คลัง (นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์) ดำเนินการทางอาญาและทางวินัย ตามมาตรา 44 และ 46 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2542 แก่เจ้าหน้าที่และบุคคลที่เกี่ยวข้อง และแจ้ง รมว.พลังงาน (พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์) ดำเนินการทางอาญาและวินัยตามกฎหมายหรือตามระเบียบแบบแผนที่ทางราชการกำหนด ตามาตรา 46 แห่ง พ.ร.บ.สตง. แก่บุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยให้ตรวจสอบความรับผิดทางละเมิดอีกทางหนึ่งด้วย
รวมถึงแจ้งผลการตรวจสอบให้ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการ ก.พ. ดำเนินการ พร้อมกับแจ้งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินคดี และแจ้งผลการตรวจสอบให้เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ดำเนินการ
ทั้งนี้ หน่วยงานดังกล่าวข้างต้นต้องดำเนินการภายใน 60 วัน มิฉะนั้น สตง. จะดำเนินการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 พ.ร.บ.สตง. มาตรา 17, 63 และ 64 รวมถึง พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542
อ่านประกอบ : 2 อดีตรมต.-บิ๊กปตท.ระทึก! 'คตง.' นัดสรุปคดีส่งคืนท่อก๊าซปตท. 10 พ.ค.นี้