รู้ปัญหายังซื้อต่อ!'สตง.'ชี้ช่องสอบ'บิ๊กกกท.' ซื้อครุภัณฑ์76 ล.ไม่มีที่เก็บ
โชว์ชัดๆ หนังสือ สตง. จี้ 'กอบกาญจน์' สอบข้อเท็จจริง 'กกท.' จัดซื้อครุภัณฑ์ 76 ล.ไม่มีที่เก็บ เผยแจ้งข้อมูลละเอียดหยิบ ชี้ช่อง 'ผู้บริหารรับทราบปัญหา' แต่ยังซื้อต่อ
กรณี สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้รับการเปิดเผยข้อมูลจากแหล่งข่าวระดับสูงกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เกี่ยวกับปัญหาการจัดซื้อครุภัณฑ์วิทยาศาสตร์การกีฬา วงเงิน 76 ล้านบาท ของ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) โดยใช้งบประมาณรายจ่ายปี 2557 ที่จัดซื้อมาทั้งที่ ไม่มีห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์รองรับ จนกระทั่งระยะเวลาผ่านพ้นไปประมาณ 1 ปีเศษ ทำให้ต้องหาทางแก้ไขปัญหาด้วยการทำบันทึกข้อตกลงกับ มหาวิทยาลัยมหิดล นำครุภัณฑ์ที่จัดซื้อมาส่วนใหญ่ ไปติดตั้ง ณ ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ ศูนย์ตรวจสารต้องห้ามในนักกีฬา มหาวิทยาลัยมหิดล แทน โดยมีข้อตกลงว่าหากการกีฬาแห่งประเทศไทยจะไปใช้งาน จะต้องเสียค่าใช้จ่ายให้กับมหาวิทยาลัยมหิดลด้วย
เบื้องต้น สตง. ทำหนังสือถึง นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้รับทราบปัญหาเรื่องนี้เป็นทางการแล้ว โดยในส่วนของรมว.ท่องเที่ยว สตง.ได้ขอให้พิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริง ถ้าหากผลการตรวจสอบพบว่า การกระทำดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือระเบียบแบบแผนราชการหรือก่อให้เกิดความเสียหายกับ กกท. ก็ขอให้ดำเนินการตามกฎหมายกับบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
(อ่านประกอบ : สตง.ชง 'กอบกาญจน์-นายกฯ' สอบ 'บิ๊ก กกท.' ซื้อครุภัณฑ์วิทยาศาสตร์กีฬา 76 ล. แต่ไม่มีที่เก็บ)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า ในช่วงกลางเดือนมี.ค.2559 ที่ผ่านมา สตง. ได้ทำหนังสือถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อรายงานให้รับทราบถึงปัญหาการดำเนินงานโครงการจัดซื้อครุภัณฑ์วิทยาศาสตร์การกีฬา ของ การกีฬาแห่งประเทศไทยตามข้อมูลที่สำนักข่าวอิศรานำเสนอไป
สตง.ระบุผลการตรวจสอบว่า กกท.ได้รับพิจารณาจัดสรรงบประมาณรายจ่ายปี 2557 ดำเนินการจัดซื้อครุภัณฑ์วิทยาศาสตร์การกีฬา กลุ่มที่ 3 ครุภัณฑ์การตรวจวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ จำนวน 13 รายการ วงเงิน 76,564,000 บาท และได้รับการจัดสรรงบประมาณสำหรับก่อสร้างห้องปฏิบัติการวิจัยเพื่อป้องกันการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา วงเงิน 38,000,000 บาท เพื่อใช้ในการติดตั้งครุภัณฑ์การตรวจวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ที่จัดซื้อดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม การก่อสร้างห้องปฏิบัติการวิจัยฯ ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากไม่มีความพร้อมของพื้นที่ก่อสร้างจนกระทั่งงบประมาณสำหรับการก่อสร้างได้ระงับไป แต่ในส่วนการจัดซื้อครุภัณฑ์การตรวจวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ จำนวน 13 รายการ ยังคงดำเนินการต่อไป โดยเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องไม่ได้เสนอให้ผู้มีอำนาจพิจารณาทบทวนหรือชะลอการจัดซื้อเนื่องจากไม่มีสถานที่สำหรับการติดตั้ง
ขณะที่ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้มีอำนาจในการพิจารณาเสนอขออนุมัติการจัดซื้อก็ทราบปัญหาอุปสรรคในการก่อสร้างห้องปฏิบัติการดังกล่าว แต่ไม่ได้สั่งการให้มีการชะลอการดำเนินการหรือมีคำสั่งให้ระงับยับยั้งการจัดซื้อเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย
สตง.ยังระบุด้วยว่า ต่อมาเมื่อถึงกำหนดเวลาส่งมอบตามที่กำหนดไว้ในสัญญา ผู้ขายได้ส่งมอบครุภัณฑ์การตรวจวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์จำนวน 13 รายการ ซึ่งครุภัณฑ์ที่จัดซื้อรายการที่ 3-4 เป็นเครื่องมือวิทยาศาสตร์ชั้นสูง ต้องทำการติดตั้งอย่างถาวรและเก็บรักษาอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ผู้ผลิตกำหนด ทำให้คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ไม่สามารถดำเนินการตรวจรับทุกรายการ เนื่องจากไม่มีพื้นที่สำหรับการติดตั้งเครื่องมือดังกล่าว จน ระยะเวลาวล่วงเลยมาประมาณ 1 ปี 2 เดือน (วันที่ 16 ก.ย.2558)
คณะกรรมการตรวจรับพัสดุจึงทำการตรวจรับครุภัณฑ์ โดย กกท. ได้ทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือและถ่ายโอนครุภัณฑ์วิทยาศาสตร์การกีฬาที่จัดซื้อให้มหาวิทยาลัยมหิดลใช้ประโยชน์ โดยนำครุภัณฑ์ไปติดตั้ง ณ ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ ศูนย์ตรวจสารต้องห้ามในนักกีฬา มหาวิทยาลัยมหิดล จำนวน 8 รายการ รวมเป็นเงิน 69,844,000 บาท หาก กกท. มีความประสงค์จะใช้เครื่องมือดังกล่าวจะต้องเสียค่าใช้จ่ายให้กับมหาวิทยาลัยมหิดล ส่วนครุภัณฑ์ที่เหลือติดตั้งที่ กกท. จำนวน 5 รายการ รวมเป็นเงิน 6,720,000 บาท
"สตง.พิจารณาแล้วเห็นว่า การจัดซื้อครุภัณฑ์ดังกล่าว กกท. ไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของการจัดซื้อและตามพันธกิจหน้าที่ของกกท. ทำให้เกิดความเสียหายและเสียประโยชน์ อีกทั้งต้องเสียค่าใช้จ่ายในการใช้ประโยชน์จากครุภัณฑ์ทั้งที่เป็นเจ้าของและเป็นผู้จัดซื้อเอง ดังนั้น เพื่อให้การใช้จ่ายเงินงบประมาณแผ่นดิน มีประสิทธิภาพ ได้ผลตามเป้าหมายมีผลคุ้มค่า เป็นไปตามวัตถุประสงค์และเกิดประโยชน์สูงสุด และเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในกรณีเดียวกับการจัดซื้อตามสัญญานี้ จึงขอให้ท่านในฐานะผู้กำกับดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พิจารณาดำเนินการตรวจสอบภายในข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว หากผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า การกระทำดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือระเบียบแบบแผนราชการ หรือก่อให้เกิดความเสียหายกับการกีฬาแห่งประเทศไทย ก็ขอให้ดำเนินการตามกฎหมายหรือระเบียบแบบแผนที่การกีฬาแห่งประเทศไทยกำหนดไว้ กับบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อไป ผลเป็นประการใดโปรดแจ้งให้ สตง.ทราบ เพื่อประกอบการตรวจสอบตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2542" สตง.ระบุในหนังสือถึง รมว.กระทรวงการท่องเที่ยว (ดูหนังสือประกอบ)