1 พ.ค. ดีเดย์ขยายเวลาให้บริการสมัครกองทุนการออมแห่งชาติ เสาร์-อาทิตย์
ยอดสมาชิกกองทุนเงินออม ถึง31 มีนาคม 2559 พบมียอดสมาชิกรวม 417,460 คน มียอดเงินสะสม 641,289,996 บาท ยอดสมทบโดยรัฐบาล 316,812,524 บาท คิดเป็นจำนวนเงินกองทุนรวม 958,102,520 บาท
พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) จะขยายเวลาการให้บริการพี่น้องประชาชนที่ต้องการสมัครเป็นสมาชิกกองทุน จากเดิมที่ให้บริการในวันจันทร์ ถึงศุกร์ ตั้งแต่เวลา 8.30-19.00 น. เป็นการให้บริการตามเวลาเปิด-ปิด ของธนาคารแต่ละสาขาทั่วประเทศ ซึ่งจะทำให้สามารถสมัครในวันเสาร์-อาทิตย์ ได้ด้วยสำหรับสาขาธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ที่เปิดตามห้างสรรพสินค้า หรืออาคารสำนักงานต่างๆ ที่ให้บริการในวันเสาร์-อาทิตย์
“นโยบายนี้มีขึ้นเพื่ออำนวยให้แก่พี่น้องประชาชนสามารถสมัครเป็นสมาชิก กอช. ได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยจะเริ่มให้บริการระบบใหม่นี้ ได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม เป็นต้นไป ทั้งนี้นับแต่เปิดรับสมัครสมาชิกกองทุน ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2558 จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2559 พบมียอดสมาชิกรวม 417,460 คน โดยมียอดเงินสะสม 641,289,996 บาท ยอดสมทบโดยรัฐบาล 316,812,524 บาท คิดเป็นจำนวนเงินกองทุนรวม 958,102,520 บาท”
พลตรี สรรเสริญ กล่าวต่อว่า สมาชิกกองทุนส่วนใหญ่มีภูมิลำเนาอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คิดเป็นร้อยละ 51.2 ของจำนวนสมาชิกกองทุนทั้งหมด รองลงมาคือภาคกลาง ร้อยละ 19.7 และภาคเหนือ ร้อยละ 10.2 โดยหากจำแนกตามอาชีพของสมาชิกแล้ว พบว่า กลุ่มพี่น้องเกษตรกรเป็นกลุ่มที่สมัครเข้าเป็นสมาชิกมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 68.8 ของสมาชิกทั้งหมด หรือคิดเป็นจำนวนพี่น้องเกษตรกรกว่า 287,000 คน รองลงมาคือ อาชีพค้าขาย ร้อยละ 12.1
“กองทุนฯ คือการส่งเสริมให้พี่น้องประชาชนได้ร่วมสร้างหลักประกันในชีวิตให้ตนเอง เพื่อให้มีเงินเลี้ยงดูตัวเองเป็นประจำทุกเดือนเมื่อเกษียณอายุโดยรัฐบาลร่วมสมทบตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด นอกจากนี้ยังพบว่า มีกลุ่มนักเรียน นักศึกษาร่วมเป็นสมาชิกประมาณ 9,000 คน ซึ่งถือเป็นแนวโน้มที่ดีที่เห็นคนรุ่นใหม่ใส่ใจการออม ตั้งใจสร้างหลักประกันในอนาคตให้ตัวเอง และที่สำคัญยิ่งออมเร็ว ยิ่งได้รับเงินเกษียณมากขึ้นตามระยะเวลาและจำนวนการออม”
ทั้งนี้ ยอดสมาชิกจำแนกเป็นการสมัครผ่าน ธ.ก.ส. จำนวน 224,828 ราย ธนาคารออมสิน 156,112 ราย ธนาคารกรุงไทย 27,616 ราย และโอนจากสำนักงานประกันสังคมอีก 10,224 ราย