คนสื่อเชื่อหนังสือ อสมท ฟางเส้นสุดท้าย 'สรยุทธ' ยุติบทบาท

คนสื่อมอง หนังสือ อสมท เป็นฟางเส้นสุดท้าย บวกพลังออนไลน์ส่งผลให้สรยุทธยุติบทบาท แนะสร้างสังคมรู้เท่าทันสื่อ

สืบเนื่องจากกรณีที่ สำนักข่าวอิศราเปิดเผยหนังสือที่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งถึงกรรมการผู้จัดการบริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด (ช่อง 3) เมื่อวันที่ 2 มี.ค.2559 เพื่อขอให้ช่อง 3 ระงับการดำเนินรายการต่างๆ ทางสถานีโทรทัศน์ทีวีสีช่อง 3  ของนายสรยุทธ โดยทันที ( อ่านประกอบอสมท สั่งช่อง 3 ระงับทุกรายการ! ข้อมูลใหม่เบื้องหลัง สรยุทธ ยุติบทบาทสื่อ)

ล่าสุดในเวทีเสวนา “ปรากฏการณ์สรยุทธ กับ หลักจริยธรรมและการกำกับดูเเลกันเองของสื่อ” ที่คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 

นางสาวสุวรรณา สมบัติรักษาสุข ประธานศูนย์ศึกษากฎหมายและนโยบายสื่อมวลชน ตั้งคำถามว่า การยุติบทบาทของนายสรยุทธ เกิดจากการกดดันจากมวลชน(social sanction) จริงหรือไม่ แล้วเมื่อพูดถึง อสมท อำนาจในการทำให้สรยุทธ ยุติบทบาท เป็นเพราะแค่จดหมายฉบับนั้นฉบับเดียวหรือไม่ และการทำให้สังคมไทยปกติในภาวะสังคมที่มีอำนาจพิเศษ ส่งผลต่อการยุติบทบาทหรือไม่ 

ทั้งนี้จากกรณีของสรยุทธ คนในวงการวิชาชีพควรต้องมุ่งหน้าต่อไปว่า เราจะทำอย่างไรให้เกิดเสรีภาพบนความรับผิดชอบ ทำอย่างไรให้การกำกับดูเเลสื่อมีประสิทธิภาพ จะป้องกันการแทรกแซงสื่อได้อย่างไร 

ด้านนายวิสุทธิ์ คมวัชรพงศ์ ประธานวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย กล่าวว่า สังคมต้องเข้าใจเรามีพลัง อย่าไปหวังเพียงรอองค์กรใดองค์กรหนึ่ง พร้อมกับมองว่าการที่นายสรยุทธยุติบทบาท ส่วนหนึ่งก็มาจาก การกดดันจากสังคม แต่จะมากน้อยเพียงใดไม่ทราบ ส่วนหนังสือจาก อสมท. ก็อาจส่วนหนึ่ง 

ด้านนายเทพชัย หย่อง นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย กล่าวว่า  หนังสือของ อสมท อาจเป็นฟางเส้นสุดท้าย ทำให้เกิดการตัดสินใจยุติบทบาท แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่า โซเชี่ยลมีเดีย มีผลต่อการยุติบทบาทอย่างมาก  หากมองปรากฏการณ์ครั้งนี้ในแง่ที่คนในสังคมส่วนมากแสดงออกผ่านทางสื่อออนไลน์โดยเฉพาะในเรื่องของจริยธรรม คิดว่าเป็นเรื่องที่ดี เป็นจุดเริ่มต้นของการมีบทบาทของคนในสังคม โซเชี่ยลมีเดียทำให้คนในสังคมรู้สึกมีสิทธิมีเสียง สามารถแสดงออกได้

เทียบกันหากเรื่องนี้เกิดขึ้นสัก 10 ปีก่อน อาจจะไม่ได้คึกโครมมากเท่านี้ การที่คนในสังคมรู้เท่าทันสื่อมากขึ้นเป็นเรื่องที่ดี และคนในวงการสื่อเอง ต้องมีส่วนในการกระตุ้นให้คนในสังคมมีปากมีเสียงแสดงออกมากขึ้น

"ผมอยากเห็นคนในสังคมรู้เท่าทันสื่อทั้งตัวบุคคล ทั้งตัวองค์กรเบื้องหน้า เบื้องหลังและกลไกต่างๆ ถ้าทุกคนรู้เท่าทันสื่อ องค์วิชาชาชีพ แทบจะไม่มีความจำเป็นในการออกแถลงการณ์ต่างๆ เพราะคนในสังคมจะบอกเองว่าจะดูหรือไม่ดูช่องไหน" นายเทพชัย กล่าว