ศาลสั่งคุก 2 ปีรอลงอาญา! อดีต ผจก.ธอส.ทุจริตอนุมัติเงินกู้คอนโดตัวเอง
ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 2 ปี ปรับ 2 หมื่นบาท แต่รอลงอาญา 2 ปี อดีต กก.ผจก.ธอส. ทุจริตอนุมัติเงินกู้สร้างคอนโดฯตัวเอง เซ็นผ่อนผันยอดหนี้เอง ไฟเขียวผ่อนผันไฟฟ้าโครงการตัวเอง เพื่อให้ ธอส. เป็นแหล่งเงินกู้ระยะยาว - ลงโทษวินัยไล่ออกจากราชการแล้ว
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ศาลฎีกาพิพากษคดีที่นายสิริวัฒน์ พรหมบุรี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการ รองกรรมการผู้จัดการ และกรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) มีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 9 (1) รวม 2 กระทง จำคุกกระทงละ 2 ปี ปรับกระทงละ 10,000 บาท รวมจำคุก 4 ปี ปรับ 20,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ มีกำหนด 2 ปี ถึงคดีสิ้นสุด
สำหรับคดีนี้สืบเนื่องจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดทั้งทางอาญาและทางวินัยร้ายแรงกับนายสิริวัฒน์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งดังกล่าว ว่ากระทำความผิดฐานเป็นพนักงานปฏิบัติหน้าที่ โดยทุจริตในการอนุมัติเงินกู้ โดยมีพฤติการณ์คือนายสิริวัฒน์ เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในโครงการที่ขอรับสินเชื่อจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ ดังนี้
1.โครงการคริสตัล สแควร์ ซึ่งนายสิริวัฒน์ เป็นผู้ถือหุ้นและกรรมการบริษัท คริสตัล สแควร์ จำกัด และมีภริยานายสิริวัฒน์ และบุคคลอื่นเป็นผู้ถือหุ้นด้วย ประกอบกิจการค้าอสังหาริมทรัพย์ ที่อยู่อาศัยคอนโดมิเนียม (ห้องชุด) แต่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ให้ชะลอสินเชื่อโครงการนี้ เนื่องจากมียอดหนี้ค้างชำระสูง ดังนั้นนายสิริวัฒน์ จึงได้สั่งการเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการทำเรื่องขออนุมัติผ่อนผันรับลูกค้ารายย่อยโครงการคริสตัล สแควร์ และเป็นผู้ลงชื่ออนุมัติผ่อนผันเอง ทั้งที่อำนาจการผ่อนผันไม่ใช่อำนาจของนายสิริวัฒน์
การกระทำดังกล่าว นายสิริวัฒน์ ได้ประโยชน์จากการที่ลูกค้าโครงการได้สินเชื่อของธนาคารอาคารสงเคราะห์ และนำเงินกู้นี้ไปชำระค่าซื้อห้องชุดโครงการคริสตัล สแควร์
2. โครงการแม่รำพึงแลนด์ ซึ่งเป็นโครงการจัดสรรที่ดินบนที่ดินของนายสิริวัฒน์ และภริยา กับพวกโดยนายสิริวัฒน์ ได้ใช้อำนาจพิจารณาและมีความเห็นเสนอเรื่องของผ่อนผันสาธารณูปโภค (ไฟฟ้า) ของโครงการ เพื่อให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์รับเป็นแหล่งเงินกู้ระยะยาวของโครงการ การกระทำดังกล่าว
นายสิริวัฒน์ พรหมบุรี ได้ประโยชน์จากการที่ลูกค้าโครงการได้สินเชื่อของธนาคารอาคารสงเคราะห์ แล้วนำเงินกู้ไปชำระค่าซื้อที่ดินโครงการแม่รำพึงแลนด์ ซึ่งเป็นที่ดินของนายสิริวัฒน์
จากนั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงส่งเรื่องอัยการสูงสุด ซึ่งสำนักงานอัยการสูงสุดโดยพนักงานอัยการ สำนักอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 2 ได้ยื่นฟ้องนายสิริวัฒน์ เป็นจำเลยต่อศาลอาญา และศาลอาญาพิพากษายกฟ้อง ต่อมาโจทก์อุทธรณ์และศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้เป็นว่านายสิริวัฒน์ มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 11 (2) ให้จำคุก 1 ปี ปรับ 4,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี
โจทก์และจำเลยฎีกา ศาลฎีกาพิพากษาแก้เป็นว่า นายสิริวัฒน์ จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงาน ในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 9 รวม 2 กระทง จำคุกกระทงละ 2 ปี และปรับกระทงละ 10,000 บาท รวมจำคุก 4 ปี และปรับ 20,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี คดีถึงที่สุด
สำหรับในส่วนของการดำเนินการทางวินัย คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ส่งเรื่องให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ดำเนินการ และธนาคารอาคารสงเคราะห์โดยความเห็นของคณะกรรมการ ได้พิจารณาลงโทษไล่นายสิริวัฒน์ ออกจากงานแล้ว