'ระวี รุ่งเรือง' ชี้ขุดสระครัวเรือนใช้ฤดูเเล้งเกิดยาก เหตุชาวนาไร้ที่ทำกินตนเอง
ขุดลอกคูคลองเเก้ภัยเเล้ง ป้องกันน้ำท่วม นายก ส.เครือข่ายชาวนาไทย หวั่นเขตชลประทาน ชาวบ้านวางท่อ ถมดิน ขวางทางน้ำ เเนะรัฐสำรวจออกเเบบบังคับใช้มาตรฐานเดียว เผยขุดสระประจำครัวเรือนช่วยบรรเทาเดือดร้อน เกิดขึ้นได้ชาวนาต้องมีที่ดินของตนเอง
สถานการณ์ภัยแล้งในปีนี้มาเร็วกว่าปกติ ทำให้หลายฝ่ายกังวลจะมีน้ำไว้ใช้อุปโภคบริโภคไม่เพียงพอ จนอาจทำให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจและสังคมได้ โดยเฉพาะภาคเกษตรกรรม รัฐบาลจึงวางนโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน และขอความร่วมมือให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องขุดลอกคูคลอง แก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อทำการเกษตรในภัยแล้งและน้ำท่วมในอนาคต
นายระวี รุ่งเรือง นายกสมาคมเครือข่ายชาวนาไทย เปิดเผยกับสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ว่าการขุดลอกคูคลองปัจจุบัน เพื่อระบายน้ำหรือเก็บกักน้ำ ส่วนใหญ่เป็นอำนาจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มักประสบปัญหาชาวบ้านในพื้นที่ฝังท่อแล้วกลบดิน เพื่อสร้างทางเข้าสู่พื้นที่ทำกินเอง แม้กระทั่งในเขตชลประทาน
โดยท่อระบายน้ำเหล่านั้นมีขนาดไม่ได้มาตรฐาน บางครั้งกีดขวางทางน้ำ กรมชลประทานหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงควรกำหนดรูปแบบไว้ หากชาวบ้านหรือองค์กรใดจะดำเนินการต้องจัดทำให้ได้ตามมาตรฐานที่กำหนด และผังเมืองในการบริหารจัดการน้ำต้องมีการสำรวจและออกแบบไว้ก่อนเหตุการณ์ภัยพิบัติจะเกิดขึ้นก่อนเสมอ
ส่วนที่หลายฝ่ายเสนอให้ขุดสระน้ำประจำครัวเรือน นายกสมาคมเครือข่ายชาวนาไทย กล่าวว่า มีความเป็นไปได้สูง แต่ปัญหา คือ เกษตรกรส่วนใหญ่ไม่มีพื้นที่เป็นของตนเอง ต้องเช่าเพื่อทำกินแทน ถามว่าเมื่อเจ้าของไม่ให้ขุดจะทำอย่างไร ฉะนั้น ต้องทำให้ทุกคนมีความมั่นคงในที่อยู่อาศัยเสียก่อน อย่างน้อยให้มีที่ดินทำกิน 3-5 ไร่ และดำรงชีวิตภายใต้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จึงจะเกิดแรงจูงใจ
“วันนี้เกษตรกรไม่มีที่ดินทำกิน จึงเป็นไปไม่ได้จะให้เปลี่ยนแปลงที่ดินของนายทุนด้วยการขุดสระน้ำ ทั้งนี้ นับเป็นนโยบายดีและได้ผลระดับหนึ่ง เฉพาะกรณีเกษตรกรมีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง และรัฐลงทุนค่าขุดสระให้ อย่างไรก็ตาม แผนดำเนินโครงการต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชน เน้นการกระจายอำนาจ ไม่กระจุกอยู่ที่ส่วนกลางด้วย” นายระวี กล่าว .
ภาพประกอบ:http://km.rdpb.go.th/Project/View/7037