รามันระอุ! กราดยิงร้านน้ำชากลางดึกชาวบ้านดับ 2
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังคงตึงเครียด โดยเมื่อคืนวันที่ 1 เม.ย.59 มีเหตุกราดยิงร้านน้ำชาของพี่น้องมุลสิมในพื้นที่ อ.รามัน จ.ยะลา ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายราย
เหตุสลดดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 21.50 น.คืนวันที่ 1 เม.ย. คนร้ายไม่ทราบจำนวน มีรถกระบะสีบรอนซ์แบบสี่ประตู ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียนเป็นพาหนะ ขับโฉบไปจอดใกล้ร้านน้ำชา บริเวณสามแยกทางเข้าหมู่บ้านดุซงตาวา หมู่ 5 ต.บือมัง อ.รามัน จากนั้นใช้อาวุธสงครามกราดยิงเข้าไปในร้าน แล้วเร่งเครื่องรถหลบหนีไป
เมื่อเสียงปืนสงบลงพบว่ามีคนในร้านได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย ชาวบ้านจึงช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลรามัน แต่ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 2 ราย คือ นายอับดุลการิง หะนิแร (ข่าวจากบางแหล่งระบุชื่อ สุไลมาน หะนิแร) อายุ 48 ปี กับ นายบือราเฮง ซิมะกาเรง (ข่าวจากบางแหล่งระบุชื่อ บือราเฮง กาเร็ง) อายุ 52 ปี ทั้งคู่มีภูมิลำเนาอยู่ใน ต.บือมัง อ.รามัน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย คือ นายอาบะห์ โตะลือแบฮาวอ อายุ 48 ปี เป็นชาวตำบลบือมังเช่นกัน เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบยิง
เป็นที่น่าสังเกตว่า ในห้วงเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา มีเหตุการณ์รุนแรงที่กระทำต่อร้านอาหารและสถานบันเทิงของชาวไทยพุทธหลายเหตุการณ์เช่นกัน อาทิ เหตุกราดยิงร้านคาราโอเกะใน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 21 มี.ค. มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย, เหตุกราดยิงร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ ที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เมื่อวันที่ 24 มี.ค. ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย เป็นผู้หญิงทั้งหมด เป็นต้น
ออกหมายจับ 2 ผู้ต้องหาบุก รพ.เจาะไอร้อง
มีความคืบหน้าคดีคนร้ายบุกยึดโรงพยาบาลเจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 มี.ค.59 ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันสถาปนาขบวนการบีอาร์เอ็นที่รัฐบาลไทยเชื่อว่ามีบทบาทที่สุดกับสถานการณ์ชายแดนใต้ช่วง 12 ปีมานี้
เมื่อวันศุกร์ที่ 1 เม.ย.59 ที่ห้องประชุมกองบังคับการกรมทหารพรานที่ 46 อ.เมือง จ.นราธิวาส พล.ต.ต.พัฒนวุธ อังคะนาวิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วย พ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า และ นายวรเชษฐ์ พรมโอภาษ ปลัดจังหวัดนราธิวาส ได้ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าคดีบุกยึดโรงพยาบาลเจาะไอร้อง
สรุปว่าหลังเกิดเหตุมาแล้ว 18 วัน ได้สอบสวนพยานบุคคลไปแล้ว 180 ปาก สามารถออกหมายจับผู้ต้องหาได้ 2 คน คือ 1.นายอับดุลการี หะแว ชาวอำเภอรือเสาะ จ.นราธิวาส กับ 2.ชายไม่ทราบชื่อและที่อยู่ อายุประมาณ 40 ปี เป็นการออกหมายจับตามภาพจากกล้องวงจรปิด โดยทั้งคู่อยู่ระหว่างการหลบหนี
นอกจากนั้น จากการตรวจพิสูจน์ปลอกกระสุนปืน 1,825 ปลอก พบว่าใช้ยิงมาจากปืน 52 กระบอก ตรวจพบประวัติในสารพบ 18 กระบอก มีประวัติใช้ก่อเหตุมาแล้ว 46 คดี ในพื้นที่ อ.สุคิริน ศรีสาคร จะแนะ ระแงะ และเจาะไอร้อง ทั้งหมดอยู่ใน จ.นราธิวาส ทำให้สันนิษฐานได้ว่ากลุ่มคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่เหล่านี้ และทั้ง 46 คดี เป็นคดีที่รู้ตัววผู้กระทำผิด 26 คดี ออกหมายจับไว้ 55 หมาย จับกุมได้ 22 หมาย
สำหรับเหตุรุนแรงในวันที่ 13 มี.ค. นอกจากเหตุบุกโรงพยาบาลเจาะไอร้องแล้ว ยังมีเหตุยิงฐานปฏิบัติการหน่วยปฏิบัติการพิเศษ นราธิวาส 31 ที่สถานีรถไฟเจาะไอร้อง และเหตุลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารที่เข้าสนับสนุนในการระงับเหตุ บริเวณเชิงสะพาน ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง โดยขณะนี้คุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 6 คน
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 ร้านน้ำชาที่ถูกกราดยิง
2 หน่วยงานความมั่นคงแถลงความคืบหน้าคดีบุกยุึดโรงพยาบาลเจาะไอร้อง
ขอบคุณ : เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เอื้อเฟื้อภาพประกอบ